ตลาดน้ำอัมพวา พิพิธภัณฑ์มีชีวิต
หากว่าเอ่ยถึงแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงที่ยังคงความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวแวะเวียนเรื่อยมาแล้ว ตลาดวิถีไทยที่ยังติดตรึงในหัวใจ คงต้องมีตลาดน้ำอัมพวารวมอยู่ด้วยเป็นแน่
ตลาดน้ำแห่งนี้นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์และต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่นิยมเลือกเดินทางมาเที่ยวในวันหยุดช่วงสั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ปรารถนาชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่พื้นบ้านของผู้คนภาคกลางที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน การเดินทางไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวานับเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในสุดสัปดาห์นี้
ถวิลหาอดีตที่ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำอัมพวาตั้งอยู่ที่อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามในอดีตนั้นสถานที่แห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการเดินทางทางน้ำ แต่ทว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสังคมรูปแบบการเดินทางจึงเปลี่ยนมาสัญจรกันทางบกมากขึ้น จึงทำให้ความเจริญของอัมพวาค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณตลาดน้ำที่เคยคลาคล่ำไปด้วยผู้คน แต่ทว่าปัจจุบันหลงเหลือเพียงร่องรอยความเจริญที่ยังเป็นอนุสรณ์เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ดี ด้วยความร่วมมือของคนในท้องถิ่นและหน่วยงานราชการ จึงทำให้ตลาดน้ำอัมพวากลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นอีกครั้ง ชุมชนริมน้ำที่มีผู้คนอาศัยอยู่ด้วยวิถีชีวิตเรียบง่าย ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถหาชมได้จากที่ไหน การกลับมาเที่ยวที่ตลาดน้ำแห่งนี้ จะทำให้เหล่าผู้ใหญ่ที่ได้กลับคืนความสุขเมื่อครั้งเยาว์วัยอีกครั้ง เมื่อหวนระลึกถึงอดีต ณ ที่แห่งนี้
พักโฮมสเตย์ ใช้ชีวิตวิถีไทย ไฮไลท์การเดินทางมายังตลาดน้ำอัมพวาอีกหนึ่งสิ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดได้แก่ การพักที่โฮมสเตย์ ซึ่งมีให้เลือกหลายที่พักตามแต่ความปรารถนาของนักท่องเที่ยว โดยความโดดเด่นของที่พักอัมพวาจะแตกต่างจากที่อื่นๆ เพราะนักท่องเที่ยวจะรู้สึกราวกับได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านของตนเอง และใช้ชีวิตได้ตามที่ใจต้องการ พร้อมกับได้ศึกษาการดำเนินชีวิตของชาวบ้านละแวกนี้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย ที่สำคัญธรรมชาติของสองฝั่งคลองจะช่วยปลอบประโลมใจให้คลายความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานในเมืองหลวงที่แสนรีบเร่ง มาสู่อ้อมกอดของธรรมชาติที่แวดล้อมไปด้วยความอบอุ่นและไมตรีจิตของชาวบ้านที่เอื้ออารี ตลอดจนความจริงใจที่ไม่ได้ปรุงแต่งสิ่งใดทั้งสิ้น
ล่องเรือชมความงามสองฝั่งคลอง นอกจากการพักค้างแรมแล้วการล่องเรือเพื่อชมธรรมชาติสองฝั่งคลองเองก็ยังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ไม่ควรมองข้าม โดยเส้นทางการล่องเรือจะอยู่สองฝั่งคลองที่แวดล้อมไปด้วยพืชพรรณริมน้ำร่มรื่นและอากาศสดชื่นชุ่มปอด พร้อมชมวิถีชีวิตของผู้คนสองฝั่งคลองควบคู่ไปกับการแวะชมสถานที่สำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ เช่น วัดบางแคน้อย ค่ายบางกุ้ง โบสถ์คริสต์ เป็นต้น สำหรับเส้นทางการล่องเรือในยามค่ำคืนนับเป็นมนต์เสน่ห์ในการล่องเรือที่ยากลืมเลือน ไม่ว่าจะเป็นแสงประดับที่ลอยเหนือต้นลำภูจากหิ่งห้อยตัวน้อยที่ดูงดงามราวดวงดาวแวดล้อมสองข้าง ทำให้การเดินทางในครั้งนี้เป็นห้วงยามที่งดงามเกินบรรยายจริงๆ
เที่ยวชิมขนม ท่องตลาดน้ำ สำหรับจุดเด่นของตลาดน้ำอัมพวาที่นอกจากจะเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของยุคสมัยแห่งกาลเวลาแล้ว ยังเป็นแหล่งของอร่อยให้ลองลิ้มชิมรสหลายต่อหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเรือพายที่จอดจำหน่ายอาหารรสชาติอร่อยกลิ่นหอมเย้ายวนใจ โดยเฉพาะอาหารทะเลนั้น มีให้เลือกชิมได้หลายชนิดและถือเป็นเมนูอาหารสำคัญที่ไม่ควรพลาด ทั้งปลาหมึกย่าง ปูเผา หอยเชลล์ และกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่เนื้อหวาน สดอร่อย หรือถ้าชื่นชอบอาหารไทยโบราณก็มีให้เลือกชิมความสดอร่อยได้ไม่แพ้กัน ได้แก่ ขนมลืมกลืน ขนมลำเจียก ขนมวุ้นในไข่ ฝอยทอง ขนมชั้น ข้าวเกรียบว่าว ขนมหม้อแกงที่มาพร้อมบรรจุภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ นั่นก็คือหม้อดินเผา ได้กลิ่นหอมหวานผสมผสานรสสัมผัสที่ไม่เหมือนกับขนมหม้อแกงที่ขายเป็นถาดๆ แน่นอน ด้วยรสชาติของอาหารที่อร่อยและความหลากหลายของรายการอาหารที่มีให้เลือกสรรค์ ทำให้ตลาดน้ำอัมพวาไม่เคยว่างเว้นจากการต้อนรับผู้คน ที่อดใจไม่ไหวต้องกลับมาเยือนอีกครั้ง
เยือนถิ่นน้ำตาลมะพร้าว ชมสาธิตกรรมวิธีและลองทำด้วยตนเอง อาชีพปลูกต้นมะพร้าวเพื่อเคี่ยวน้ำตาลนั้น นับเป็นอาชีพที่อยู่คู่กับชาวสวนอัมพวามาเนิ่นนาน และเป็นอาชีพหลักที่คนส่วนใหญ่ในชุมชนยังคงยึดเป็นแหล่งเลี้ยงรายได้ให้ตนเองมากที่สุด โดยนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนอัมพวาจะเห็นได้ชัดเจนถึงภาพคุ้นตา นั่นคือสวนมะพร้าวที่แน่นขนัดและมีการยกร่องเพื่อปลูกต้นมะพร้าว โดยในร่องน้ำเหล่านั้นสามารถใช้เรือลำเล็กล่องเข้าไปเพื่อทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นน้ำตาลเหล่านี้จะถูกเก็บมาแปรรูปเป็นน้ำตาลมะพร้าว แม้ในปัจจุบันอัมพวาจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยแต่ทว่า ชาวสวนอัมพวาก็ยังคงภาคภูมิใจในอาชีพดั้งเดิมของตนเอง และยังคงปลูกสวนมะพร้าวเพื่อสร้างรายได้สำหรับขั้นตอนการทำน้ำตาลมะพร้าวนั้นจะเริ่มต้นจากการนำน้ำที่ได้จากมะพร้าวไปเคี่ยวบนกระทะจุดเตาฟืน และใช้โคที่มีลักษณะคล้ายตะกร้าครอบด้านบนไว้เพื่อป้องกันฟองเดือดล้นออกมานอกเตา จากนั้นเมื่อน้ำตาลเดือดได้ที่ จะมีการนำมาตีเพื่อไล่ฟองอากาศ จนกระทั่งความเหนียวได้ตามต้องการแล้ว ผู้ทำน้ำตาลจะเทใส่พิมพ์และรอจนจับตัวเป็นน้ำตาลมะพร้าวที่พร้อมใช้ปรุงอาหาร
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจมาเยี่ยมชมตลาดน้ำอัมพวา สามารถขับรถยนต์มาทางถนนพระราม 2 มุ่งหน้าสู่จังหวัดสมุทรสงคราม และสังเกตป้ายบอกทางไปตลาดน้ำอัมพวาที่มีแสดงให้เห็นเป็นระยะ ซึ่งการเข้าไปเที่ยวภายในตลาดน้ำจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการผ่านประตู แต่ถ้าต้องการล่องเรือจะคิดค่าบริการลำละ 300 – 500 บาท ในขณะที่ค่าที่พักโฮมสเตย์นั้นจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 500 – 1500 บาทต่อคือ ขึ้นอยู่กับทำเลและขนาดห้องพักที่ต้องการ การเที่ยวชมตลาดน้ำอัมพวาและวิถีชีวิตของคนในชุมชนอัมพวา นอกจากจะทำให้นักท่องเที่ยวผ่อนคลายสบายใจมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการร่วมเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยจากพิพิธภัณฑ์มีชีวิตได้อย่างเพลิดเพลินจนลืมเวลา นับเป็นการใช้ช่วงวันหยุดปลายสัปดาห์ได้อย่างคุ้มค่าและสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนร่วมทริปได้อย่างแน่นอน