มหัศจรรย์…กราบพระชมเงาพระธาตุ
เงาพระธาตุหากมองกันตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็คือภาพสะท้อนจากภายนอกที่เรียกว่าCamera Obscuraถือเป็นปรากฏการณ์หักเหของแสงในหลักการเดียวกลับกล้องรูเข็ม(Ponhole Canera)แบบเดียวกับที่เราเคยทำการทดลองสมัยเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ในช่วงตอนเรียนมัธยมกล้องรูเข็มนี้ใช้กระดาษสีดำปิดปลายด้านหนึ่งแล้วเจาะรูเล็กๆ ไว้ส่วนปลายอีกด้านปิดกระดาษไขจากนั้นเอากล้องไปส่องกับเทียนไขก็จะปรากฏภาพเทียนไขหัวกลับให้เห็นบนกระดาษไข
การปรากฏของเงาพระธาตุก็คล้ายกับกล้องรูเข็มคือ ตัววิหารที่มืดสนิทเป็นตัวกล้องรูบนผนังคือรูบนกล้องส่วนผ้าขาวที่รับภาพคือกระดาษไขและที่เป็นภาพหัวกลับได้ก็เพราะรูเล็ก ๆ บนกล้อง หรือที่ผนัง ทำหน้าที่เหมือนเลนส์กล้องถ่ายภาพ บีบบังคับให้แสงหักเหเกิดภาพกลับในทิศทางตรงกันข้ามกับของจริง ส่วนยอดมาอยู่ล่าง ส่วนล่างกลับไปอยู่บนกล้องรูเข็มนี้ค้นพบโดยชาวอาหรับเมื่อ 3,000 กว่าปีมาแล้วโดยเขาสังเกตเห็นภาพอูฐเดินหัวกลับบนผนังกระโจมด้านที่อยู่ตรงกันข้าม
ดูเป็นทฤษฎีง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนอะไร ทว่าความแปลกมหัศจรรย์ของการเกิดเงาพระธาตุนั้น อยู่ตรงความเหมาะเจาะในระยะห่างระหว่างองค์พระธาตุกับวิหารอุโบสถ หรือมณฑป โดยเฉพาะตำแหน่งของรูเล็กๆ บนผนัง ซึ่งต้องอยู่ในระดับความสูงพอดิบพอดีที่จะทำให้เกิดภาพในสถานที่นั้นๆ ถ้ารูอยู่สูงหรือต่ำเกินไปก็อาจไม่มีใครสังเกตเห็น อีกทั้งรูยังต้องมีขนาดพอเหมาะจริงๆ ถ้าเล็กหรือใหญ่เกินไปคงไม่ได้เห็นกัน ฉะนั้นการเกิดเงาพระธาตุจึงขึ้นอยู่กับความลงตัวของหลายๆ ปัจจัยเลยทีเดียว
ในปี 2546 ประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว โครงการอันซีนไทยแลนด์ สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวซ่อนเร้นและมหัศจรรย์อย่าง “เงาพระธาตุ” ออกสู่สายตามวลมหาประชาชนให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง นับเป็นการเปิดทางต่อชื่อเสียงความเลื่องลือของเงาพระธาตุ ที่ต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว และยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดอันเลื่องชื่อ ที่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนแทบจะไม่พลาดแวะไปเยี่ยมชม
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าในจังหวัดลำปาง มีเงาพระธาตุปรากฏในหลายวัด หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเงาพระธาตุหัวกลับ เงาพระธาตุหัวตั้ง เงาพระธาตุซ้อนชั้น เป็นต้น จนลำปางได้รับการกล่าวขานว่า เป็นเมืองแห่งเงาพระธาตุ
เงาพระธาตุลำปางหลวง วัดพระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง มีจุดชมที่เป็นไฮไลท์อยู่ที่ “มณฑปพระพุทธบาท” หรือ “ซุ้มพระพุทธบาท” อาคารเล็กๆ แคบๆ ที่ภายในประดิษฐานรอยพระพุทธบาท แต่หลังจากการค้นพบเงาพระธาตุรอยพระพุทธบาทในมณฑปดูจะเป็นสิ่งรองไป มีข้อมูลว่า เงาพระธาตุแห่งนี้ถูกค้นพบครั้งแรกโดยบังเอิญเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2541 โดยพระที่เข้าไปทำความสะอาดในมณฑปแล้วพบเงาพระธาตุ จากแสงที่ส่องลอดผ่านช่องเล็กๆ ปรากฏในลักษณะของเงา
“พระธาตุหัวกลับ” มีสีสันสวยเหมือนพระธาตุองค์จริง จากนั้นก็เริ่มมีคนสนใจเงาพระธาตุขึ้นบ้างแต่ไม่มากนัก เมื่อทาง ททท.นำเสนอเงาพระธาตุ จ.ลำปาง เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ เงาพระธาตุวัดพระธาตุลำปางหลวงก็โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน แต่ที่ทางวัดเข้มงวด ก็คือ เงาพระธาตุหรือพระธาตุหัวกลับที่มณฑปพระพุทธบาทแห่งนี้ทางวัด“ห้ามผู้หญิงขึ้น”เพราะได้สร้างครอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านล่างจึงห้ามผู้หญิงขึ้นตามคติความเชื่อของล้านนา
อย่างไรก็ดี สำหรับคุณสุภาพสตรีที่อยากชมเงาพระธาตุหรือตั้งใจมาชมเงาพระธาตุที่วัดพระธาตุลำปางหลวงสามารถเข้าไปชมได้ที่ “วิหารลายคำ” หรือ “วิหารพระพุทธ” กราบนมัสการ “หลวงพ่อพระพุทธ” พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนสามปางมารวิชัยที่ได้ชื่อว่ามีพระพุทธลักษณะที่งดงามมากแห่งหนึ่งในล้านนาซึ่งประดิษฐานอยู่ใน “วิหารลายคำ” และเป็นอีกหนึ่งจุดชมเงาพระธาตุของวัดแห่งนี้ โดยเงาพระธาตุที่ลอดผ่านรูผนังมาปรากฏบนผืนผ้าภายในวิหารพระพุทธนั้น เป็นเงาพระธาตุหัวตั้งที่มีสีสันเหมือนพระธาตุองค์จริงทุกอย่าง เพียงแต่ไม่ชัดเจนเท่ากับในมณฑปพระพุทธบาทเท่านั้น
“เงาพระธาตุจอมปิง” วัดพระธาตุจอมปิง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง เป็นอีกวัดหนึ่งที่ชื่อเสียงในเรื่องเงาพระธาตุที่กล่าวกันว่ามีความสวยงามและชัดเจนกว่าทุกที่ โดยเงาพระธาตุจะปรากฏให้เห็นภายในอุโบสถ อันเก่าแก่แบบสถาปัตยกรรมล้านนาซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของพระธาตุเจดีย์สีเหลืองทอง
ทั้งนี้ หน้าต่างของอุโบสถจะมีรูเล็กๆ ที่แสงลอดเข้ามาทำให้เกิดเงาพระธาตุทาบลงบนพื้นตลอดเวลาที่มีแสง ต่อมาทางวัดได้นำกรอบผ้าขาวมาเป็นฉากรับภาพให้เห็นได้ชัดขึ้นโดยมีขนาดและสีเหมือนพระธาตุองค์จริงเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น
“เงาพระธาตุ 5 เงา” วัดพระธาตุดอยน้อย วัดพระธาตุดอยน้อย ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าผา อ.เกาะคา จังหวัดลำปาง ชื่อวัดพระธาตุดอยน้อยไม่คุ้นหูนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ แต่ที่วัดแห่งนี้มีเงาพระธาตุให้ชมถึง 5 เงาเลยทีเดียว โดยเงาพระธาตุทั้ง 5 นั้น จะปรากฏภายใน “วิหารหลังเปียง” ที่หากเดินตรงเข้าไปจากประตูทางเข้า ทางฝั่งขวาของวิหารได้ปรากฏเงาพระธาตุขึ้นในกรอบเดียวกันถึง 5 เงา โดยมีลักษณะเป็นเงาของพระธาตุหัวตั้งซ้อนกันเป็นชั้นๆ 4 เงา และเงาที่ด้านข้างเล็กๆ ส่วนบนอีก 1 เงา ส่วนทางฝั่งซ้ายก็ยังมีเงาพระธาตุหัวตั้งปรากฏขึ้นอีก 1 เงาที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งองค์พระธาตุองค์จริงที่ปรากฏในเงานั้นตั้งอยู่ทางด้านหลังของวิหารนั้น มีลักษณะเป็นองค์พระธาตุสีดำมีส่วนยอดเป็นสีทองเหลืองอร่าม มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับองค์พระธาตุที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ภายในบรรจุอัฐิพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เงาพระธาตุที่วัดพระธาตุดอยน้อยถูกค้นพบอย่างบังเอิญโดยเจ้าอาวาสเมื่อปี พ.ศ. 2548 ขณะท่านนั่งสมาธิอยู่ในวิหารแล้วเห็นเงาของนกที่บินไปมาทางด้านนอก จึงนำผ้าขาวมาขึงตรงที่มีรูบริเวณหน้าประตู ก็เห็นเงาพระธาตุ หลังจากนั้นท่านได้ไปดูเงาพระธาตุที่วัดพระธาตุจอมปิง ซึ่งก็ปรากฏว่าเป็นเงาพระธาตุในลักษณะเดียวกัน
“เงาพระธาตุวัดอักโขชัยคีรี” วัดอักโขชัยคีรีตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่50–51 อ.แจ้ห่ม จังหวุดลำปาง วัดนี้แม้จะไม่โด่งดังเท่ากับวัดพระธาตุลำปางหลวง และวัดพระธาตุจอมปิง แต่ก็เป็นวัดที่ปรากฏเงาพระธาตุเช่นกัน วัดอักโขชัยคีรีนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาริมถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม มีทางขึ้นเป็นบันไดนาคจำนวน 227 ขั้น เท่ากับศีลของพระภิกษุสงฆ์เมื่อขึ้นไป ด้านบนจะเพบกับ“พระธาตุเจดีย์” ลักษณะเป็นศิลปะล้านนาปนเชียงแสนซึ่งแต่เดิมน่าจะเป็นศิลปะหริภุญชัย และได้บูรณะกันมาหลายครั้งใกล้กันนั้นมี
“พระวิหารพระยืน” ซึ่งเป็นที่ปรากฏเงาพระธาตุ เช่นเดียวกับที่วัดพระธาตุจอมปิง ซึ่ง “เงาพระธาตุ” หรือ “เงาพระเจดีย์” นี้จะปรากฏให้เห็นชัดอยู่ในทิศทางด้านตะวันออกเสมอถึงแม้ว่าพระอาทิตย์จะเคลื่อนย้ายไปตามเวลาใดก็ตาม เงาของพระธาตุก็ยังคงปรากฏอยู่ที่ตำแหน่งเดิมไม่มีการเคลื่อนย้ายตามพระอาทิตย์แต่อย่างใดชาวบ้านอำเภอแจ้ห่มและอำเภอใกล้เคียงจึงถือกันว่าเป็น “เงาพระธาตุศักดิ์สิทธิ์”
นอกจากเงาพระธาตุจากวัดทั้ง 4 แล้ว ที่ลำปางยังมีผู้คนพบว่ามีเงาพระธาตุปรากฏให้เห็นอีกตามวัดบางวัด อาทิ วัดผาแดงหลวง อำเภอแจ้ห่ม วัดประตูป่อง อำเภอเมือง
ทั้งนี้ สำหรับพุทธศาสนิกชนที่ได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวลำปาง ควรจะได้มีโอกาสได้กราบนมัสการวัดคู่บ้านคู่เมืองประจำจังหวัดและยังได้เห็นปรากฏการณ์ที่มหัศจรรย์สวยงามน่าประทับใจอย่างยิ่ง
สำหรับเทคนิคในการชมเงาพระธาตุก็คือ ช่วงใกล้เที่ยงนับเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการดูเงาพระธาตุ และภายในวิหารหรือจุดชมเพราะพระธาตุต้องมืดสนิทด้วย จึงจะเห็นเป็นภาพที่คมชัดสีสันเหมือนจริงของเงาพระธาตุวัดลำปางหลวง เงาพระธาตุวัดจอมปิง เงาพระธาตุ 5 เงา วัดดอยน้อย เงาพระธาตุวัดอักโขคีรี.