คปภ.เร่งเยียวยานักท่องเที่ยวตาย-เจ็บเหตุเรือชนที่ภูเก็ต
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสายกลยุทธ์องค์กร บูรณาการการทำงานร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค โดยสำนักงาน คปภ .จ.ภูเก็ต ติดตามและตรวจสอบกรณีเรือสปีดโบ๊ท ชื่อ ALP 111 ชนกับเรือสปีดโบ๊ท ชื่อปาหยัน 5 บริเวณร่องน้ำใกล้ท่าเทียบเรือรอยัลมารีน่า ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซีย โดยสารมากับเรือ ALP 111 เสียชีวิต 2 ราย คือ เด็กชาย Lysxi Iaroslav อายุ 12 ปี และเด็กหญิง Lysaia Mirasalavr อายุ 9 ปี และนักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซียได้บาดเจ็บ 20 ราย ส่วนในเรือปาหยัน 5 มีพนักงานคนไทย ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย
จากรายงานเบื้องต้นพบว่า ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 73 (พ.ศ. 2549) ออกตามความใน พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 กำหนดให้เจ้าของเรือหรือผู้ประกอบการเดินเรือสำหรับโดยสารต้องจัดให้มีการประกันภัยคุ้มครองผู้โดยสารในเบื้องต้น นอกจากนี้ ตามกฎกระทรวงการอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว พ.ศ. 2561 กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องมีสำเนากรมธรรม์ประกันภัย ประกันอุบัติเหตุให้กับนักท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยว ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว
โดยการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ขณะเกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ท ชื่อ ALP 111 ได้ทำประกันภัยผู้โดยสารเรือสำหรับโดยสาร ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย ตามกรมธรรม์เลขที่ 19705/POL/000648-501 สิ้นสุดวันที่ 5 พ.ย. 2563 โดยให้ความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพสิ้นเชิง 100,000 บาทต่อคน และกรณีบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 15,000 บาทต่อคน รวมทั้งเรือลำนี้ ยังได้ทำประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ไว้กับ บมจ.อาคเนย์ประกันภัย ตามกรมธรรม์เลขที่ 36011495-19 RBK สิ้นสุดวันที่ 29 ส.ค.2563 โดยให้ความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพสิ้นเชิง จำนวนเงินเอาประกันภัย 1,000,000 บาทต่อคน และกรณีบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 500,000 บาทต่อคน
ในส่วนของเรือสปีดโบ๊ท ชื่อปาหยัน 5 คู่กรณีนั้น ได้ทำประกันภัยผู้โดยสารเรือสำหรับโดยสาร ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย ตามกรมธรรม์เลขที่ 14182-19709/POL/000703-501 สิ้นสุดวันที่ 19 ส.ค.2563 โดยให้ความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพสิ้นเชิง 100,000 บาทต่อคน และกรณีบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 15,000 บาทต่อคน
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. จ.ภูเก็ต ได้เร่งตรวจสอบว่า มีการประกันภัยประเภทอื่นๆ ไว้หรือไม่ หากพบว่าการทำประกันภัยประเภทอื่นๆ อีก ก็จะช่วยดูแลกระบวนการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และเป็นธรรม
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เบื้องต้นจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 1,100,000 บาท จากกรมธรรม์ประกันภัยผู้โดยสารเรือสำหรับโดยสาร 100,000 บาท และจากกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์อีก 1,000,000 บาท ส่วนนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ ทางสำนักงาน คปภ. จ.ภูเก็ต ได้ประสานไปยังโรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลมิชชั่น จ.ภูเก็ต เพื่อแจ้งสิทธิประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับผู้ประสบภัยทุกท่านในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากจะฝากเตือนผู้ประกอบการเดินเรือ ควรทำประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมทั้งต้องหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวด้วยว่า หากเกิดอุบัติเหตุจะได้รับความคุ้มครองจากการประกันภัย หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. ย้ำ.