“Flexsaw” นวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยในการใช้ชีวิต
นวัตกรรมสามารถช่วยยกระดับการใช้ชีวิตของมนุษย์ให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงเรื่องความปลอดภัย ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการรายใดจะเลือกหยิบจับนวัตกรรมทางด้านไหนมาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
บริษัท เอที เทคโนโลยี คอนซัลแท็นท์ จำกัด ภายใต้การนำของ “บัณฑิต นิธิอุทัย” ในฐานะ กรรมการผู้จัดการ ได้จุดประกายไอเดียในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการนำนวัตกรรมที่ได้รับถ่ายทอดมาปรับประยุกต์เข้ากับวัตถุดิบ และผสมผสานไปด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงความง่ายในการใช้งาน แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมา
จุดเริ่มต้นแห่งไอเดีย
บัณฑิต บอกถึงไอเดียในการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อทำตลาดสู่ผู้บริโภคว่า ลำดับแรกมาจากการคำนึงเรื่องของความปลอดภัยในการใช้ชีวิต เนื่องจากตนเคยดูแลพ่อและแม่มาระยะหนึ่งทำให้เข้าใจเป็นอย่างดีว่าผู้สูงอายุมีความเสี่ยงมากกับลื่นหกล้ม และได้รับบาดเจ็บ ประกอบกับที่บริษัทได้รับการถ่ายทอดความรู้มาจากกรมวิทยาศาสตร์บริการ หลังจากนั้นจึงนำมาต่อยอดเพื่อผลิตเม็ดยางและน้ำยาเชื่อม รวมถึงพัฒนาสูตรที่ตอบโจทย์การทำสนามพื้นยางในหลากหลายรูปแบบ หลังจากนั้นจึงนำมาคิดต่อว่าจะทำอย่างไรให้มีนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งก็ทำให้นึกถึงความรู้เรื่องของพลาสติก และยาง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน
ทั้งนี้ เดิมทีพื้นยางอเนกประสงค์ลดแรงกระแทกข้อและเข่าของบริษัทจะเป็นรูปแบบการใช้งานแบบปูไปบนพื้นแบบปิดตายไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ แต่ด้วยนวัตกรรมการออกแบบกรอบพลาสติกให้เป็นเสมือนจิ๊กซอว์ แล้วนำเม็ดยางไปผสมกับน้ำยาเชื่อมชนิดพิเศษเติมลงไปให้เต็มพื้นที่ตามต้องการ จึงทำให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์พื้นเม็ดยางกันลื่นลดแรงกระแทกที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ภายใต้ชื่อ “เฟล็กซ์ซอว์” (Flexsaw) โดยมีคอนเซ็ปป์ของการเป็นนวัตกรรมเพื่อความเป็นอยู่ของชีวิตของคนไทยที่ดีขึ้น เน้นเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ หรือสิ่งแวดล้อม (Inovation friendly design solution)
“บริษัทมุ่งหวังว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้จะเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ช่วยทำให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดการบาดเจ็บ หรือลดโอกาสเสี่ยงในการลื่นหกล้มบาดเจ็บจนถึงขั้นช่วยตัวเองไม่ได้ หรือถึงขั้นบาดเจ็บแล้วไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้อีกกับร่างกาย”
นวัตกรรมลดแรงกระแทก
บัณฑิต บอกต่อไปอีกว่า ปัจจุบันสังคมมีการพัฒนารูปแบบอารยสถาปัตย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทเล็งเห็นว่าในกลุ่มวัสดุปูพื้นที่มีหลากหลายรูปแบบ เช่น พื้นซีเมนส์บล็อก ,พื้นระแนงไม้ และพื้นพลาสติก เป็นต้น ยังสามารถตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัย และถนอมสุขภาพข้อเข่าในการใช้งานไม่ได้ บริษัทจึงคิดค้นประดิษฐ์พื้นจากเม็ดยาง โดยมีลักษณะเป็นโครงกรอบพลาสติกขึ้นรูปที่สามารถประกอบต่อกันเป็นรูปร่าง ขนาดต่างๆได้ตามต้องการ
สำหรับภายในโครงกรอบพลาสติกนั้น จะเป็นส่วนของพื้นยางที่มีส่วนผสมของเม็ดยางกับสารเชื่อมต่อในอัตราส่วนที่เหมาะสม ทำให้มีความยืดหยุ่นรับแรงกระแทกได้ดี ช่วยถนอมสุขภาพข้อเข่า และป้องกันการบาดเจ็บ ถลอก จากการล้มได้เป็นอย่างดี โดยบริษัทพยายามนำเสนอมิติของการยกระดับการชีวิตของคนด้วยนวัตกรรม เพื่อช่วยเรื่องความปลอดภัยและเน้นเรื่องคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เฟล็กซ์ซอว์มีคุณสมบัติทางด้านการลดแรงกระแทกได้ถึง 31% จึงช่วยลดอาการบาดเจ็บของข้อ และเข่าได้ รวมถึงป้องกันการหกล้มบาดเจ็บ ซึ่งจากข้อมูลทางด้านสถิติจากภาครัฐระบุว่ามาเป็นลำดับที่ 2 รองจากอุบัติเหตุทางรถ โดยพื้นผิวของเฟล็กซ์ซอว์จะไม่เกิดน้ำขัง หรือที่เรียกว่าน้ำลอยเกิดขึ้นด้วยคุณสมบัติที่น้ำสามารถไหลผ่านได้ โอกาสที่ผู้ใช้งานจะเกิดอาการสไลด์หรือลื่นจึงไม่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์กลุ่มเดียวกันในตลาด
รุกตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์
บัณฑิต บอกอีกว่า กลยุทธ์ในการทำตลาดนั้น จะมีทั้งในส่วนของออฟไลน์และออนไลน์ภายใต้แนวทาง “ป่าล้อมเมือง” โดยในส่วนของออฟไลน์จะดำเนินการผ่านร้านที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเครื่องมือในการช่วยเหลือผู้ป่วย หรือผู้พิการ เรียกว่าเป็นร้านที่ทำเกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งจะมีเอ๊าท์เลทย่อยตามหัวเมืองต่างๆ โดยปัจจุบันได้เจรจาทางการค้าเพื่อร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจแล้วประมาณ 2-3ราย ซึ่งมองว่าผลิตภัณฑ์น่าจะเข้าไปตอบโจทย์กับผู้ที่เคยประสบปัญหา หรือมีปัญหาอยู่และต้องการที่จะแก้ปัญหา และจะขยายจุดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องใรปี 62
นอกจากนี้ก็จะมีรถจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบบเคลื่อนที่ ซึ่งสามารถไปได้ทุกแห่งที่ตรงกับกลุ่มผู้ใช้งาน เช่น โรงพยาบาลที่มีพื้นที่ให้บริษัทได้มีโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์ และการออกงานแสดงสินค้าต่างๆทั่วประเทศ ขณะที่ช่องทางด้านออนไลน์ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เฟล็กซ์ซอว์มีจำหน่ายผ่านทางลาซาด้า (Lazada) และเว็บไซด์ของบริษัท โดยจะทยอยเพิ่มช่องทางให้มากขึ้นเป็นลำดับเพื่อกระตุ้นการขายบนออนไลน์
“เหตุผลที่บริษัทใช้กลยุทธ์แบบป่าล้อมเมือง เพราะเฟล็กซ์ซอว์ถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกสู่ตลาด ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ผู้บริโภคได้สัมผัส รวมถึงได้รู้จักการใช้งาน และเป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อผู้บริโภคคุ้นเคยก็จะสามารถทำการตลาดได้ง่ายมากขึ้น ประกอบกับการนำผลิตภัณฑ์เข้าจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดจะต้องมีค่าแรกเข้าในจำนวนที่สูง ซึ่งการสร้างแบรนด์จากพื้นที่โดยรอบอาจจะช่วยให้โมเดิร์นเทรดให้ความสนใจ และสนใจนำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่าย จากกระแสความต้องการจากผู้บริโภค”
ใช้ได้กับทุกวัย
บัณฑิต กล่าวอีกว่า เป้ารายได้ที่บริษัทตั้งไว้อยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาทในปี 62 เนื่องจากเฟล็กซ์ซอว์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ และยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการทำตลาด เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จัก หากกระแสตอบรับดีบริษัทจะต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 2 ด้านได้แก่ การมีจุดกระจายผลิตภัรฑ์ที่เพิ่มามากขึ้น และส่วนของกำลังการผลิตซึ่งปัจจุบันสามารถผลิตได้ 1 พันแผ่นต่อวัน เพื่อรองรับตลาด โดยเชื่อว่ารายได้จะเติบโตเพิ่มมากขึ้นตามช่องทางการทำตลาดที่ขยายเพิ่มเติมตามกลยุทธ์การทำตลาดแบบเป็นขั้นเป็นตอน
“เราเดาตลาดยากมาก แต่เราก็มีความคาดหวังว่าผลิตภัณฑ์ที่เราเราออกแบบมาจะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของคนทำให้ชีวิตปลอดภัยขึ้น ลดความเสี่ยงของชีวิต โอกาสที่จะเกิดให้ไม่เกิด หรือเกิดได้น้อยลง ยกตัวอย่างกรณีอุบัติเหตุในห้องน้ำ ซึ่งมีการล้มจนเป็นอัมพฤกษ์ หรืออัมพาตจำนวนมาก เพราะเวลาที่อยู่ในห้องน้ำเรานึกว่าทรงตัวดีแล้ว แต่บางทีเกิดพลาดพลั้งก็สามารถล้มได้ แต่ถ้าล้มบนพื้นเฟล็กซอว์จะไม่ค่อยบาดเจ็บ เพราะลดแรงกระแทก และการบาดเจ็บได้ ไม่ถลอก จะไม่เหมือนทรายที่ล้มแล้วครูดทำให้เกิดการถลอกได้ แต่นี่เป็นเม็ดยางจึงปลอดภัย”
ด้านกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเฟล็กซ์ซอว์นั้น สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม และลดแรงกระแทกที่สามารถปรับใช้ได้กับทุกพื้นที่ตามต้องการ โดยทุกวัยมีความเสี่ยงเท่ากัน
“มูลค่าทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะค่อยๆเติบโตขึ้นตามการใช้ชีวิตที่มีความระมัดระวังมากขึ้น โดยเป็นไปตามกระแสของการเข้าสู่ 10 เมกกะเทรนด์ของประเทศที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป นั่นคือสังคมที่กำลังจะก้าวเข้าสู่
สังคมผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตามเฟล็กซ์ซอว์ก็ยังใช้ได้กับทุกวัยที่ต้องการลดความเสี่ยง เพราะฉะนั้นตลาดจึงค่อนข้างกว้างเป็นอย่างมาก”