พนง.จี้กูเกิลอย่าทำงานกับตม.สหรัฐฯ
ซานฟรานซิสโก : เมื่อวันที่ 14 ส.ค. พนักงานหลายร้อยคนของยักษ์ใหญ่ไฮเทคกูเกิลเรียกร้องให้บริษัทหลีกเลี่ยงที่จะทำงานให้กับหน่วยงานการตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ จนกว่าทางหน่วยงานจะหยุด “ กระทำการที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน”
โดยพนักงานกูเกิลมีการลงชื่อในคำร้องร่วมกันกว่า 600 รายชื่อในช่วงบ่าย เนื่องจากทางศุลกากรและตรวจรักษาความปลอดภัยพรมแดนสหรัฐฯ (CBP) เตรียมการที่จะเปิดประมูลเพื่อหาผู้รับสัมปทานทำสัญญาระบบคลาวด์ในการจัดเก็บข้อมูล
ทั้งนี้ กูเกิลเป็นผู้พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์คลาวด์รายใหญ่ โดยมีคู่แข่งสำคัญคืออเมซอนและไมโครซอฟท์
“ ผู้ชนะได้สัมปทานระบบคลาวด์ จะเป็นผู้บริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานในการสตรีมมิงของ CBP และอำนวยความสะดวกในการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้” จากคำร้องที่โพสต์ออนไลน์บน medium.com “ถึงเวลาต้องยืนหยัดร่วมกัน และแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่า เราจะไม่ทำงานตามสัญญาเช่นนี้ “
อย่างไรก็ตาม ทางกูเกิลยังไม่ได้ให้สัมภาษณ๋เกี่ยวกับประเด็นนี้ ในคำร้องยังเรียกร้องให้กูเกิลทำข้อผูกพันที่จะไม่สนับสนุนกองตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE), สำนักงานตั้งถิ่นฐานผู้อพยพ และ CBP
“โดยการสนับสนุนจัดหาเทคโนโลยีให้กับหน่วยงานเหล่านี้ในสถานการณ์ปัจจุบัน กูเกิลอาจต้องแลกบูรณภาพที่มีเพื่อให้ได้ผลกำไร และเข้าร่วมเป็นเครือข่ายที่น่าละอาย ”
จากคำร้อง
“ประวัติศาสตร์ก็ชัดเจน ตอนนี้ถึงเวลาต้องปฏิเสธแล้ว ” คำร้องระบุ “เราขอปฏิเสธที่จะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด”
โดยผู้ที่ร่วมลงชื่อในคำร้องโต้แย้งว่า เป็นเรื่อง “ไร้จิตสำนึก” สำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่จะสนับสนุนหน่วยงานที่มีพฤติกรรมอย่างในปัจจุบันที่พรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯ
เมื่อปีที่แล้ว กูเกิลยกเลิกไม่เข้าประมูลทำสัญญาสัมปทานดูแลระบบคลาวด์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากพนักงานประท้วงให้บริษัทอยู่ห่างจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสงคราม
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ พนักงานกูเกิลออกมาท้าทายบริษัทในหลายประเด็น ทั้งการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน และการพัฒนาระบบเสิร์ชเอ็นจิ้นออนไลน์สำหรับใช้งานในจีนที่มีการเซ็นเซอร์อัตโนมัติตามที่รัฐบาลจีนกำหนด.