WC PLUS+ นวัตกรรมห้องน้ำพกพาไปได้ทุกที่
วิถีชีวิตคนเมืองอยู่ด้วยความเร่งรีบ และมีความยากลำบาก ไม่เว้นแม้แต่การจะทำธุระส่วนตัวอย่างการเข้าห้องน้ำ ด้วยสภาพการจราจรที่แออัด ซึ่งทำให้การเดินทางในแต่ละวันต้องใช้เวลานาน ผลิตภัณฑ์ที่จะมาตอบโจทย์การใช้ชีวิตดังกล่าวได้จึงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค “สุธินี กิตติภัทรากุล” ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์โดยมีไอเดีย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตให้กับกลุ่มผู้บริโภคที่อยู่ในเมือง
-ผลิตภัณฑ์เพื่อความสบาย
สุธินี ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟิตโมลด์ โซลูชั่น จำกัด บอกถึงการ Startup ธุรกิจของเธอว่า มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2559 ภายใต้ชื่อ “WC PLUS+” โดยมีวัตถุประสงค์ในการคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ปัญหาของผู้ที่ต้องดำเนินชีวิตประจำในเมืองภายใต้ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า “กรวยปัสสาวะสำหรับผู้หญิง” เนื่องจากเห็นว่าผู้บริโภคจำนวนมากมักจะประสบปัญหาในการเข้าห้องน้ำ เพราะห้องน้ำที่สกปรก ทำให้ต้องอั้นปัสสาวะ หรือแม้กระทั่งไม่ยอมที่จะเข้าห้องน้ำ ส่งผลให้เกิดปัญหาทางด้านสุขภาพตามมา เช่น โรคกะเพราะปัสสาวะอักเสบ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลิตภัณฑ์ลำดับแรกที่ออกมาจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ทั้งหมดเพราะผู้บริโภคต้องการให้ทำผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้บนรถได้ เนื่องจากปัญหาการจราจรที่แออัด และด้วยความที่ตนเองก็เป็นคนกรุงเทพมหานครจึงเข้าใจปัญหาดังกล่าวนี้ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น จึงคิดว่าควรที่จะหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ปัญหาของผู้บริโภค
แบรนด์ WC PLUS+ จึงมีผลิตภัณฑ์ในลำดับถัดมาภายใต้ชื่อ “WC PEEC” ซึ่งได้มีการปรับปรุง และพัฒนาให้สามารถใช้งานได้สะดวกสบาย และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยเป็นห้องน้ำพกพาที่ใช้ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นในรถ หรือเวลาไปแคมป์ปิ้ง ซึ่งออกมาทำตลาดช่วงประมาณเดือนเมษายน 2560
-นวัตกรรมล็อกของเหลวและกลิ่น
สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ “WC PEEC” นั้น สุธินี บอกว่าอยู่ที่ การนำนวัตกรรมที่เรียกว่าลิควิคดอป (Liquidop TM) ซึ่งเป็นนวัตกรรมล็อกของเหลว และเก็บกลิ่นในตัวเอง ทำให้เวลาใช้งานบนรถได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะหกเลอะเทอะ ซึ่งทำให้ใช้งานง่ายได้สะดวกทุกที่ โดยใช้ได้กับคนทุกเพศทุกวัยในผลิตภัณฑ์เดียว อีกทั้งในถุงที่เก็บปัสสาวะยังมีขนาดความจุได้ถึง 1 ลิตร ซึ่งทำให้ผู้ใช้ที่ปัสสาวะครั้งละไม่มากใช้งานได้หลายครั้ง เพราะในกล่องผลิตภัณฑ์จะมีแผ่นแอลกอฮอล์ให้ด้วย และมีซิบล็อกปากถุงให้อย่างดี
“ลิควิคดอปเป็นนวัตกรรมที่ดูดซับน้ำเพื่อล็อกของเหลวไม่ให้หก เราจึงนำมาผสมผสานกับนวัตกรรมที่สามารถเก็บกลิ่นทำให้ WC PEEC ใช้งานได้สะดวกสบาย โดยสิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือเรื่องดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาให้น่าใช้งาน ให้ผู้บริโภคเห็นแล้วมั่นใจที่จะใช้งาน ขณะที่การใช้งานเราก็จะมีผ้าคลุมคล้ายกับผ้าคลุมสำหรับตัดผมที่ปิดถึงหัวเข่าให้ด้วยเมื่อซื้อกล่องใหญ่ 5 ชิ้น และมีถุงให้อีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันการสกปรก”
นอกจากนี้ สิ่งที่ช่วยตอกย้ำความมีคุณภาพ และงานดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ “WC PEEC” คือการได้รับรางวัล Demark , GOOD DESIGN และรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติอันดับ 1 (NATIONAL DESIGN INNOVATION CONTEST 2017)
-ขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ด้านช่องทางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ สุธินี บอกว่า ปัจจุบันมีจำหน่ายที่โฮมโปรทุกสาขา ,ร้านซีเอ็ดเฉพาะสาขาในกรุงเทพมหานคร และร้านขายยาเฮลท์ตี้ แมกซ์ (Healthy Max) ซึ่งจะมีอยู่ประมาณ 6 สาขาตามโรงพยาบาล และบนช่องทางออนไลน์ทั้งเฟสบุ๊ก (wcplusth) , ไลน์ (@wcplus) และเว็บไซด์ (www.wcplusthailand.com) ส่วนกลยุทธ์การทำตลาด เพื่อขยายฐานลูกค้าในปีนี้ ล่าสุดบริษัทกำลังจะร่วมทำธุรกิจกับคิงเพาเวอร์เพื่อจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์
ทั้งนี้ บริษัทยังจะดำเนินการในเรื่องของการนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายที่ร้านขายยา เพราะเหมาะกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทโดยตรงจากผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่สามารถอั้นปัสสาวะได้ ที่สำคัญยังไม่ต้องโปรโมทก็สามารถขายผลิตภัณฑ์ได้ เพราะเป็นกลุ่มเป้าหมายโดยตรงซึ่งมีปัญหาอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ล่าสุดยังมีตัวแทนจำหน่ายที่พยายามจะนำผลิตภัณฑ์ “WC PEEC” ไปจำหน่ายในโรงพยาบาลให้แทนบริษัท เสมือนเป็นพาสเนอร์ร่วมทำธุรกิจด้วยกัน แต่ก็จะต้องมาหารือกันในรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
“บริษัทยังคงเปิดรับตัวแทนจำหน่ายเพื่อทำตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายแล้วประมาณ 20 ราย ขณะที่บางรายเปิดร้านขายยาก็มีที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปจำหน่าย และบางรายที่ซื้อไปจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ในกลุ่ม หรือกรุ๊ปของตน อย่างไรก็ดี ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์อีก 3 ชนิดเพื่อทำตลาด โดยยังคงคอนเซ็ปป์การเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับห้องน้ำ”
ส่วนการทำตลาดในต่างประเทศนั้น ปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้เข้าไปทำตลาดเท่าใดนัก แต่ก็มีผลิตภัณฑ์จำหน่ายอยู่ที่ กู๊ด ยูส ดีไซน์สโตร์ (Good Design Store) ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ (Central Embassy) เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับรางวัลกู๊ดดีไซน์จากประเทศญี่ปุ่น ทำให้ได้รับการคัดเลือกเข้าไปจำหน่าย อย่างไรก็ดี ต้องเรียนว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทค่อนข้างเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคจากต่างประเทศ เพราะเป็นไอเดียที่ดีส่วนใหญ่จะซื้อติดกลับไปกัน โดยบางรายมาจากประเทศที่รถติดมากก็จะซื้อกลับไป
“ที่ต่างประเทศผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์แบบเราไม่ค่อยมีจำหน่าย ถึงจะมีก็ไม่เหมือนและไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลแบบของบริษัท เพราะเราทำด้วยคุณภาพ และมีรางวัลการันตีมากกมาย อีกทั้งเรายังเรายังเจาะกลุ่มนักเดินทาง และกลุ่มที่เดินทางไปต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน และอินเดีย ซึ่งจะมาซื้อของเราเยอะมาก เพราะห้องน้ำที่นั่นไม่ค่อยสะดวก หรือบางทีไม่มีห้องน้ำเลย โดยเฉพาะที่อินเดียนี่ลำบากมาก”
สุธินี บอกต่อไปอีกว่า บริษัทต้องการที่จะเข้าไปทำตลาดกับบริษัททัวร์ และพยายามที่จะเข้าไปเจรจาเพื่อขอทำธุรกิจร่วมด้วย จากกลยุทธ์การทำตลาดในปีนี้เชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท.