สรุปข่าวประจำวันที่ 10 กันยายน 2568

สรุปข่าวประจำวัน สั่งคุก 1 ปี ทักษิณ : ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำสั่งบังคับโทษ ในคดีถูกส่งไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ศาลฎีกาฯ มีมติให้นำตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับไปรับการจำคุกที่เรือนจำเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่ต้องมีการนำเอาวันที่พักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ 120 วันมาหักล้าง นั่นคือการเริ่มนับโทษใหม่ตั้งแต่ต้น
สรุปข่าวประจำวัน

เปิดทรัพย์สินอนุทิน :
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2568 โดยนายอนุทิน พร้อมด้วย น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ คู่สมรสอยู่กินกันฉันสามีภริยา แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 3,980,144,486 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 5,016,573 บาท สำหรับทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ นายอนุทินแจ้งถือครองสร้อย ข้อมือ 1 เส้น มูลค่า 2 แสนบาท แหวน 4 วง 4.7 ล้าน บาท นาฬิกา 22 เรือน 62,840,000 บาท พระ 24 องค์ 92,300,000 บาท เครื่องเบญจรงค์ 11 ตู้ 33.4 ล้านบาท รูปภาพติดข้างฝา 16 ภาพ 14.4 ล้านบาท
ครม.อนุทิน :
กำลังจะได้นักกฎหมายมือระดับปรมาจารย์ไปช่วยงาน โดยล่าสุด ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ได้ตอบรับเป็นรองนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการรับตำแหน่งรัฐนตรีครั้งแรกของนักกฎหมายท่านนี้
ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความถึง ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ว่า ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็น ‘รุ่นพี่หนึ่งปี’ ที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ และทั้งคู่เคยทำกิจกรรมร่วมกันมากมาย ตั้งแต่ทีมโต้วาที ทีมกลอน จนถึงกองบรรณาธิการวารสารกฎหมาย ก่อนต่างฝ่ายจะไปศึกษาต่อต่างประเทศ และกลับมาเป็นอาจารย์ร่วมงานกันยาวนานเกือบสองทศวรรษ
ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง เล่าว่า ด้วยการรู้จักคุ้นเคยกันมาเป็นเวลา 50 กว่าปี มั่นใจว่าด้วยความรู้ความสามารถ และการทุ่มเทอุทิศตนให้กับบ้านเมืองมาอย่างสม่ำเสมอของอาจารย์บวรศักดิ์ การรับหน้าที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีคราวนี้ จะเป็นงานชิ้นสำคัญ และอาจารย์จะได้ฝากผลงานไว้อย่างงดงาม
หุ้น ตปท.-ไทย :
ปิดตลาด (9 ก.ย. ) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 45,711.34 จุด เพิ่มขึ้น 196.39 จุด (0.43%) แนสแดก ปิดที่ 23,839.80 จุด เพิ่มขึ้น 77.50 จุด (0.33%) แอสแอนด์พี ปิดที่ 6,512.61 จุด เพิ่มขึ้น 17.46 จุด (0.27%) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาด ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาดที่ 1,276.08 จุด เพิ่มขึ้น 9.97 (0.79%) มูลค่า 47,384.85 ล้านบาท
ทองคำขึ้น 250 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ (9 ก.ย.) มีประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 54,600.00 บาท ขายออกบาทละ 54,700 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 53,514.80 บาท ขายออกบาทละ 55,500.00 บาท ราคาทองคำขึ้น 250 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 8 ก.ย.
เงินบาทแข็งค่า :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (9 ก.ย.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 31.8233 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 43.3174 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.5650 บาทต่อ 1 ยูโร, 21.8081 บาท ต่อ 100 เยน, 4.1031 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 24.9617 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.6333 ต่อ 1 ริกิต

กสิกรไทยลด GDP :
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 มาอยู่ที่ 1.8% จาก 1.5% จากแรงหนุนการเร่งส่งออกไปยังสหรัฐฯ ก่อนมาตรการภาษีฯ ตามมาตรา 232 และภาษีสินค้าอ้อมผ่านประเทศที่สาม (Transshipment) มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ การส่งออกที่ชะลอตัวลงน้อยกว่าที่คาดในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ส่งผลให้ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคนั้น ลดต่ำลง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ยังมีความท้าทายจากผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจากภาษีสหรัฐฯ การท่องเที่ยวที่ชะลอตัว และปัจจัยทางการเมือง ที่ยังต้องติดตาม ขณะที่
แม่ทัพกุ้งปาฐกถาพิเศษ :
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ปาฐกถาพิเศษที่ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า “ผมบอกน้องๆว่าพวกเราทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว อยู่ที่ไหนก็ตายเหมือนกัน รวมถึงแม่ทัพด้วย แต่ตายแบบมีเกียรติ เพื่อชาติบ้านเมือง ดีกว่ารถแหกโค้งตาย เมาแล้วขับ หรือโกงกินบ้านเมืองแล้วถูกจับเข้าห้องขัง ตายคาห้องขัง ถึงเวลาคนเราตายทุกคน” พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า หลังเกษียณมีคนบอกว่ามาเล่นการเมืองเถอะ แต่ทุกตำแหน่งแม่ทัพปฏิเสธทั้งหมด เพราะมันไม่ยั่งยืน สิ่งที่จะยั่งยืนคือการเป็นตัวของตัวเองและเป็นคนดี

สนง.สลากฯ มั่นใจทุน ODOS ไม่สะดุด :
พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยืนยันว่า แม้จะมีการปรับเปลี่ยนรัฐบาล แต่ก็ไม่มีผลกับโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน (One District One Scholarship : ODOS) ที่ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการออกสลากการกุศลพิเศษ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล จำนวน 11 ล้านฉบับ ซึ่งมีเป้าหมายในการระดมเงินภายใน 2 ปีครึ่ง วงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท โดยวงเงินดังกล่าวจะใช้ในโครงการตามนโยบายรัฐบาล ทั้งโครงการด้านสังคม สาธารณสุข และการศึกษา ซึ่งรวมถึง ODOS ด้วย
นายกฯ เนปาลลาออก :
นายกรัฐมนตรี เค พี ศรรมะ โอลี แห่งเนปาล ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งแล้วในวานนี้ (9 ก.ย.) ท่ามกลางสถานการณ์ประท้วงต่อต้านการทุจริตที่ทวีความรุนแรงขึ้นจนควบคุมไม่อยู่ โดยผู้ช่วยคนสนิทของนายกฯ โอลีเป็นผู้ยืนยันข่าวดังกล่าว ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากเหตุปะทะรุนแรงระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 19 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 100 ราย ชนวนเหตุของความไม่สงบครั้งนี้มาจากการที่รัฐบาลสั่งแบนโซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้เกิดการชุมนุมใหญ่ที่เรียกกันว่า “การประท้วงของ Gen Z” เมื่อวันจันทร์ (8 ก.ย.) สถานการณ์ได้ลุกลามบานปลาย แม้ต่อมารัฐบาลจะยอมยกเลิกคำสั่งแบนดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถบรรเทาความไม่พอใจของประชาชน
ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ไฟเขียวรัฐบาลทรัมป์ :
ศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีคำตัดสินครั้งสำคัญ เปิดทางให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สามารถกลับมาใช้ปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นผู้อพยพในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ได้อีกครั้ง โดยอาศัยข้อสังเกตจากเชื้อชาติหรือภาษาเป็นหลัก คำตัดสินนี้ส่งผลให้หน่วยลาดตระเวนของรัฐบาลสามารถกลับมาปฏิบัติการได้ทันที โดยได้กลับคำตัดสินของศาลชั้นต้นที่เคยสั่งระงับปฏิบัติการดังกล่าวไว้
จีนครองตำแหน่งคู่ค้ารายใหญ่สุดของอาเซียน :
เยียนตง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอาเซียน 16 ปีติดต่อกัน ระหว่างการแถลงข่าวเกี่ยวกับกำหนดการจัดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน ครั้งที่ 22 ช่วงวันที่ 17-21 ก.ย. ที่เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน เยียนกล่าวว่า การค้าระหว่างจีนกับอาเซียนในช่วงเดือนม.ค.-ก.ค.ของปี 2568 รวมอยู่ที่ 5.97 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 18.9 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบปีต่อปี และคิดเป็น 16.7% ของการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของจีนในช่วงดังกล่าว ขณะเดียวกันการลงทุนสองทางสะสมสูงเกิน 4.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14.29 ล้านล้านบาท) เมื่อนับถึงสิ้นเดือนก.ค. และบรรดาบริษัทจีนดำเนินการจัดทำสัญญาโครงการโครงสร้างพื้นฐานในกลุ่มประเทศอาเซียนกันอย่างแข็งขัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่าสะสม 4.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 15.25 ล้านล้านบาท) เมื่อนับถึงสิ้นเดือนก.ค.

“จ๊ะ นงผณี” ลุยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ :
จ๊ะ-นงผณี มหาดไทย ที่ไม่ว่าจะเป็นงานร้องเพลง งานโชว์ หรือรายการไหนๆ ก็เห็นหน้าคร่าตาเธอไม่เคยขาด จนหลายคนยกให้เป็น “เจ้าแม่สายลุย” ในส่วนของธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ จ๊ะ นงผณี กับโปรเจกต์ภายใต้ชื่อ “จ๊ะสร้างบ้าน” ที่ไม่ได้มาเล่นๆ แต่จัดเต็มทั้งทีมออกแบบและช่างมืออาชีพ พร้อมบริการสร้างบ้านหรูในฝัน ล่าสุด จ๊ะ นงผณี ได้ลงภาพของพูลวิลล่าพัทยา โครงการ 2 ที่เธอซุ่มทำมาระยะหนึ่งแล้วใกล้เสร็จสมบูรณ์พร้อมขาย ใครสนใจสามารถเข้าไปชมบ้านตัวอย่างกันได้

“อั้ม อธิชาติ” ยกเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิด “มดดำ” :
โมเมนต์นี้ดีต่อใจจริงๆ สำหรับเพื่อนรักอย่างพระเอกหนุ่ม อั้ม อธิชาติ ที่ล่าสุดยกเค้กเซอร์วันเกิดเพื่อนซี้ มดดำ คชาภา ซึ่งทางด้าน อั้ม อธิชาติ ก็ได้โพสต์โมเมนต์ลงอินสตาแกรม พร้อมกับได้เขียนแคปชั่นอวยพรเพื่อนซี้ ซึ่งคู่นี้คบกันมานานมาก ตั้งแต่อายุ 17 ปี กับแคปชั่นว่า “อยู่กันมาทุกอีพีตั้งแต่ 17 จนอีกไม่กี่ปีก็ครึ่งร้อยแล้ว !! แต่ยังๆ ขุ่นมดไม่สะดวกแก่!! ขอให้ขุ่นแม่มดดำมีความสุข แบบไม่ต้องเปย์ แข็งแรงดีดเด้งได้ทุกเวย์ เป็นขุ่นแม่มด ที่รักเพื่อนๆ รักเด็กๆได้เอฟวรี่เดย์ แฮปปี้ เบิร์ดเดย์ น๊า คชาภา พาเพลิน ร๊ากกกก” รวมถึงแฟนๆ ที่เข้ามาคอมเมนต์อวยพรวันเกิด มดดำ กันเยอะมาก
90 วันสู้ซีเกมส์ :
กกท. เดินหน้าจัดใหญ่! เปิดตัวแคมเปญ “นับถอยหลัง 90 วัน รวมใจคนไทย เชียร์ให้สุดใจ” นำโดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ชวนคนไทยทั่วประเทศร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี และส่งแรงใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพปลายปีนี้และต้นปีหน้า พร้อมเปิดตัวเพลง “1%” โดย F.HERO และ วี วิโอเลต สร้างสีสันก่อนเข้าสู่สนามการแข่งขันจริง
สมศักดิ์ศรี :
มูลนิธิศรีเทพไทยฯ แสดงความยินดีและมอบเงินสนับสนุน 300,000 บาท ให้กับสมาคมกีฬาคนหูหนวกไทย หลังจากทีมนักกีฬาสามารถทำผลงานได้อย่างน่าภาคภูมิใจ คว้า 1 เหรียญทอง จากฟุตซอลหญิง และ 2 เหรียญทองแดง จากฟุตซอลชายและแบดมินตันชายคู่ ในการแข่งขันกีฬาคนหูหนวกซีเกมส์ครั้งที่ 2 ที่ประเทศอินโดนีเซีย
การันตรีความมันส์ :
“พิ้งค์” พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ โชว์ฟอร์มร้อนแรง เอาชนะ ตุง ซิ่วถง จากไต้หวันไปอย่างสวยงาม 2-0 เกม ผ่านเข้ารอบเมนดรอว์ไปเจอกับรุ่นพี่อย่าง “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ในแบดมินตัน ฮ่องกง โอเพ่น 2025 ขณะที่ชายคู่ “พี” พีรัชชัย กับ “โอโม่” พรรคพล ก็ไม่น้อยหน้า คว้าชัยชนะลิ่วเข้ารอบเมนดรอว์ได้สำเร็จเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “แพทองธาร” ปลุกขวัญ สส.หลังทักษิณ โดนจำคุก ลุยต่อ พร้อมสู้เลือกตั้งใหม่