จีดีพีอินโดนีเซียปีที่แล้วโต 5%
ตัวเลขจีดีพีของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเป็น 5.02% ในปี 2559 เมื่อเปรียบเทียบกับ 4.88% ในปี 2558 อ้างอิงจากการรายงานของสำนักงานสถิติกลาง (BPS) เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หากดูเฉพาะตัวเลขในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว จะเห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศมีการชะลอตัวลง โดยตัวเลขจีดีพีของไตรมาส 4 ลดลงเหลือ 4.94% เมื่อเทียบกับตัวเลข 5.02% ในไตรมาส 3
นายซูฮาริยันโต ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติกลางรายงานว่า งบใช้จ่ายของรัฐบาลลดลง 4.05% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้วจากการตัดลดงบประมาณของรัฐบาล ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจลดต่ำลง เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขที่เพิ่มขึ้นถึง 7.12% ในไตรมาสเดียวกันของปี 2558
“ ใช่เลยที่ว่า มีผลกระทบจากการปรับลดงบประมาณของรัฐบาล และยังมีการปรับลดของการใช้จ่ายของภาครัฐสำหรับสินค้าและความช่วยเหลือทางสังคม” เขากล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 6 ก.พ. และเสริมว่าการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐเริ่มลดลงตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ งบประมาณการใช้จ่ายของภาครัฐที่ลดลงเป็นผลมาจากมาตรการที่เข้มงวดของนโยบายการบริหารงานของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด หรือ ที่นิยมเรียกกันว่า‘ โจโควี่ ’ โดยรัฐบาลมีการตัดลดงบประมาณลงเหลือ 137 ล้านล้านรูเปียห์เมื่อช่วงต้นเดือนส.ค.ปี 2559 และประธานาธิบดีโจโควี่ยังได้เรียกร้องให้ลดการใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นและไม่สำคัญลงเพื่อเป็นการช่วยเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะเดียวกัน การส่งออกและการนำเข้ามีตัวเลขการเติบโตที่ชะลอตัวลงเหลือ 1.74% และ 2.27% ตามลำดับในปี 2559 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการลงทุนยังคงเติบโตสูงถึง 4.48% ในปีที่แล้ว
โดยการบริโภคในครัวเรือน ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของตัวเลขจีดีพีของอินโดนีเซียและคิดเป็นมากกว่า 56% ของตัวเลขโดยรวมทั้งหมด ปรับเพิ่มขึ้นมา 5.01%
“ หากมองดูตัวเลขในหลายภาคส่วน การขยายตัวสูงที่สุดที่ส่งผลต่อตัวเลขจีดีพีอยู่ที่การให้บริการทางการเงินและประกันภัย รองลงมาคือการสื่อสารและสารสนเทศและบริการอื่นๆ ” นายซูฮาริยันโตกล่าว.