สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 16 พ.ย. 66
สภาพอากาศวันนี้ :ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
คาดการณ์ : วันที่ 16–19 พ.ย. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 15.พ.ย. 66 น้อยกว่า ปี 65 จำนวน 3,849 ล้าน ลบ.ม. สรุปได้ดังนี้
ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 64,159 ล้าน ลบ.ม. (78%)
ปริมาณน้ำใช้การ 39,991 ล้าน ลบ.ม. (69%)
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่
ระดับน้ำเกินระดับควบคุมสูงสูด 11 แห่ง ภาคเหนือ : กิ่วลม แม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วคอหมา แม่มอก แควน้อยบำรุงแดนและบึงบอระเพ็ด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อุบลรัตน์ และลำปาว ภาคกลาง : ป่าสักชลสิทธิ์ ภาคตะวันออก : ขุนด่านปราการชล และหนองปลาไหล
ระดับน้ำเกินระดับควบคุมต่ำสุด 4 แห่ง ภาคเหนือ: สิริกิติ์ และทับเสลา ภาคกลาง : กระเสียว ภาคตะวันออก : คลองสียัด
โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ 1. วางแผนการระบายน้ำโดยจัดลำดับความสำคัญตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด 2. ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรและขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และ 3. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยการใช้น้ำภาคการเกษตรให้ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำและเพิ่มรายได้ในพื้นที่
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในช่วง 1-3 วัน บริเวณ ภาคใต้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ประกาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 4/2566 ลงวันที่ 12 พ.ย. 66 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงวันที่ 14 – 18 พ.ย. 2566 ดังนี้
1. เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก บริเวณ จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา
2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% บริเวณ จ.ระนอง และสุราษฎร์ธานี และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ
สทนช. เตรียมตั้งศูนย์ฯ ส่วนหน้า ในพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมช่วงฝนตกหนัก
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 66 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น โดย สทนช. ได้มีการประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้า เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งติดตามสถานการณ์ปัจจุบันของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ มีการระบายน้ำเพื่อเตรียมพร้อมรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าจากฝนที่ตกเพิ่มมากขึ้นในระยะนี้ ไม่ให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่และประชาชน และเตรียมวางแผนจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและตรงจุดมากยิ่งขึ้น วิเคราะห์และประเมินพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย เพื่อวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ล่วงหน้า ช่วยป้องกันและบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดแก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ
น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน