สหรัฐฯ ส่งทหารกว่า 3 พันประจำชายแดนเม็กซิโก
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ส่งกำลังทหารเสริมอีก 3,750 นายไปประจำที่ชายแดนตะวันตกเฉียงใต้ที่ติดกับเม็กซิโกเป็นเวลานาน 3 เดือนเพื่อให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ประจำด่านชายแดน กระทรวงกลาโหมระบุเมื่อวันที่ 3 ก.พ.
โดยกำลังทหารที่ไปประจำการเพิ่มเติมจะทำให้จำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำด่านศุลกากรและพรมแดนเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 4,350 คน
ทางเพนตากอนเปิดเผยถึงตัวเลขอย่างเป็นทางการภายในไม่กี่วันหลังจากส.ส.พรรคเดโมแครตระบุว่า จะมีการส่งทหารไปประจำการเพิ่มที่ชายแดนประมาณ 3,500 นาย
คาดการณ์ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ( ซึ่งมองว่าสถานการณ์ที่พรมแดนเม็กซิโกเป็นวิกฤต ) จะพูดเกี่ยวกับการอพยพเข้าเมืองและข้อเสนอในการสร้างกำแพงของเขาตามแนวชายแดนสหรัฐฯที่ติดกับเม็กซิโกในระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีของรัฐบาลในวันที่ 5 ก.พ.นี้
ความต้องการเงินงบประมาณเพื่อสร้างกำแพงของผู้นำสหรัฐฯ ถูกรวมอยู่ในงบประมาณที่ส.ส.พรรคเดโมแครตไม่ยอมอนุมัติ
จึงมีผลทำให้ ส่งผลทำให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯต้องมีการชัทดาวน์บางส่วนนานถึง 35 วัน และเพิ่งยุติการชัทดาวน์ไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา
หากส.ส.สหรัฐฯไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องสถานการณ์ชายแดนเม็กซิโกได้ภายในวันที่ 15 ก.พ. ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าจะทำให้รัฐบาลต้องชัทดาวน์อีกครั้ง หรือประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อเป็นกลอุบายเอาชนะสภาคองเกรสและได้เงินงบประมาณเพื่อสร้างกำแพง
“ ผมไม่ยอมล้มเลิกในเรื่องนี้” เขากล่าวกับสื่อ CBS ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา
ทางเพนตากอนมีการอนุมัติเป็นครั้งแรกในการส่งกำลังทหารไปประจำการที่พรมแดนเม็กซิโกในเดือนต.ค.61 ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งกลางเทอมของสภาคองเกรสในเดือนพ.ย. โดยเป็นความเคลื่อนไหวที่ได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ รวมถึงส.ส.พรรครีพับลิกันในสภาด้วย
ทางเพนตากอนระบุว่า กองทัพสหรัฐฯจะมีการดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิดในแอริโซนา แคลิฟอร์เนีย นิวเม็กซิโก และเท็กซัส ซึ่งการดำเนินการมีกำหนดจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.
Patrick Shanahan รักษาการรมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อนุมัติการเคลื่อนกำลังพลตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. อ้างอิงจากแถลงการณ์ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยจำนวนทหารจนกระทั่งวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา เมื่อ Adam Smith ประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายทหารของสภาล่างระบุว่า มีการส่งกำลังทหาร 3,500 นายไปประจำชายแดนเม็กซิโก
โดย Smith วิจารณ์เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของกระทรวงกลาโหมที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลในระหว่างการไต่สวนต่อหน้าคณะกรรมาธิการของสภาคองเกรสในประเด็นนี้เมื่อสองวันก่อน