กักตัวคาร์ลอส กอส์นอีก 10 วัน
ทางการญี่ปุ่นได้ขยายเวลาในการควบคุมตัวคาร์ลอส กอส์น ประธานบริษัทนิสสันอีก 10 วัน อ้างอิงจากรายงานของสื่อในประเทศ
โดยเมื่อวันที่ 19 พ.ย. เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัว หลังจากนิสสันกล่าวหาว่าเขาประพฤติมิชอบทางการเงิน
ทำให้อัยการมีเวลา 48 ชั่วโมงหลังจากจับกุมตัวเขาเพื่อตัดสินใจในการตั้งข้อหา ปล่อยตัวเขาไป หรือขยายเวลาในการควบคุมตัวเขาไว้
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นกล่าวหากอส์นว่า รายงานค่าจ้างต่ำเกินจริง และนำทรัพย์สินของบริษัทมาใช้เป็นการส่วนตัว
นอกจากตำแหน่งในบริษัทนิสสัน เขายังรั้งตำแหน่งประธานและซีอีโอของเรโนลต์ และประธานมิตซูบิชิมอเตอร์ด้วย
หลังมีการเรียกประชุมฉุกเฉินของบอร์ดบริหารเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ทางเรโนลต์ระบุว่า กอส์นจะยังเป็นประธานและซีอีโอของบริษัทต่อไป
โดยบริษัทได้แต่งตั้งรองซีอีโอเป็นการชั่วคราวเพื่อทำหน้าที่รักษาการตำแหน่งผู้บริหารเรโนลต์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส
โดยการประชุมบอร์ดบริหารของนิสสันในวันที่ 22 พ.ย.พร้อมด้วยมิตซูบิชิ เป็นการเตรียมพร้อมที่จะปลดเขาออกจากตำแหน่ง แต่โอซามุ มาสุโกะ ซีอีโอมิตซูบิชิระบุว่า พันธมิตรรถยนต์ 3 ค่ายจะอยู่ในสภาพที่ยากจะบริหารจัดการ หากปราศจากกอส์น
ทั้งนี้ นิสสันกล่าวหาผู้บริหารวัย 64 ปี เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยบริษัทเผยว่า มีการสอบสวนภายในบริษัทนานหลายเดือน หลังมีผู้เปิดเผยถึง “ การประพฤติมิชอบที่ชัดเจน ” ของเขา รวมถึง “ การนำทรัพย์สินบริษัทมาใช้ส่วนตัว ”
ในเวลาต่อมา อัยการระบุในแถลงการณ์ว่า กอส์นและเกร็ก เคลลี ผู้บริหารอาวุโสสมคบคิดกันรายงานตัวเลขค่าตอบแทนของกอส์นต่ำกว่าตัวเลขจริง โดยเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2553
การป่าวประกาศครั้งนี้ก่อให้เกิดอาการช็อกไปทั่วอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่ซึ่งกอส์นเป็นผู้บริหารชั้นนำ มีการประเมินว่า รถยนต์ 3 ค่ายของพันธมิตรเรโนลต์ – นิสสัน – มิตซูบิชิ เป็น 1 ใน 9 คันของรถยนต์ที่ขายได้ทั่วโลก
กอส์นเกิดในบราซิล มีเชื้อสายเลบานอน และเป็นชาวฝรั่งเศส เขาได้เครดิตอย่างท่วมท้นหลังจากเขาสามารถพลิกฟื้นบริษัทนิสสัน ที่เกือบจะล้มละลายขึ้นมาได้ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นเสาหลักของพันธมิตรรถยนต์ทั้ง 3 ค่าย
ทั้งนี้ กอส์นถูกกล่าวหาว่ายื่นรายงานเท็จต่อคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยเขารายงานตัวเลขค่าตอบแทนต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งอาจทำให้เขาถูกตัดสินจำคุกถึง 10 ปี.