บริษัทไฮเทคขอยกเว้นภาษีทรัมป์รอบใหม่
4 บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ยื่นคำร้องไปที่ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เพื่อขอให้บริษัทได้รับการคุ้มครองจากมาตรการภาษีในรอบที่ 3 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ
โดยทั้ง Dell , Cisco , Juniper Networks และ Hewlett Packard Enterprise ออกโรงเตือนว่า มาตรการภาษีรอบใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจส่งผลทำให้การจ้างงานในสหรัฐฯลดจำนวนลง
ทั้ง 4 บริษัทกำลังกังวลว่า ภาษีรอบใหม่จะเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้พวกเขา เนื่องจากส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มาจากจีน
พวกเขาระบุว่า อัตราภาษี 10 – 25% จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจในวงกว้างและบั่นทอนผลประโยขน์ของสหรัฐฯ
มีความพยายามที่จะเคลื่อนไหวจากบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ หลังการทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับภาษีรอบใหม่สิ้นสุดลง
โดยกระบวนการรับฟังความเห็นที่ได้มีการตรวจสอบผลกระทบที่สำคัญของภาษีมีการสรุปผลในวันที่ 6 ก.ย. ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอาจมีการ
บังคับใช้ภาษีรอบใหม่มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับสินค้านำเข้าจากจีนอย่างเร็วภายในวันที่ 7 ก.ย.เลย
อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว สหรัฐฯจะมีการบังคับใช้มาตรการภาษีภายในไม่กี่สัปดาห์ ไม่ใช่ไม่กี่วัน หรือเมื่อการทำประชาพิจารณ์สิ้นสุดลงในทันที
ทั้ง 4 บริษัทกำลังกังวลว่า มาตรการภาษีจะทำให้ค่าใช้จ่ายของบริษัทสูงขึ้นในหลายส่วน เช่น ฮาร์ดไดรฟ์ เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เพื่อการเชื่อมต่อโครงข่าย ซึ่งจะส่งผลต่อกำไรและทำให้อัตรางานในสหรัฐฯลดลง
“ ผลกำไรที่ลดลงจากผลกระทบของมาตรการภาษีอาจนำไปสู่การจ้างงานที่หยุดชะงัก ค่าจ้างลดลง หรือแม้แต่การเลิกจ้าง รวมถึงยังเป็นการทำร้ายนักลงทุนหลายอย่าง ทั้งเงินปันผลที่ลดลง และกัดกร่อนมูลค่าของผู้ถือหุ้น” บริษัทระบในจดหมายร้องเรียนถึง Robert Lighthizer ซึ่งเป็น USTR
โดยพวกเขาเตือนว่า มาตรการภาษีเพิ่มเติมที่ขึ้นเป็น 25% จะเป็นปัจจัยลบทำให้เศรษฐกิจไม่สมส่วนในวงกว้างและบั่นทอนผลประโยขน์ของสหรัฐฯ รวมทั้งลดการใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงชะลอการพัฒนานวัตกรรม เช่น ระบบคลาวด์ และการเปิดให้บริการโครงข่าย 5G ในสหรัฐฯ ทั้งนี้ ผลกระทบอาจเกิดเป็นวงกว้างเนื่องจากชิ้นส่วนที่ทั้งสี่บริษัทผลิตมีการนำไปใช้โดยบริษัทเทคโนโลยี รัฐบาล และสถาบันอื่นๆ ทั้งโรงเรียนและโรงพยาบาล
สงครามการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์กับจีนยกระดับขึ้นในเดือนส..ค. เมื่อสหรัฐฯ มีมาตรการภาษี 25% ในรอบที่ 2 มูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ ในเดือนก.ค. ได้มีมาตรการภาษีมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับสินค้านำเข้าจากจีน ทำให้จีนตอบโต้ด้วยการใช้มาตรการภาษีกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯด้วยมูลค่าที่เท่ากัน
อันโตนิโอ เนรี ซีอีโอของ Hewlett Packard Enterprise ให้สัมภาษณ์กับสื่อ BBC ว่า บริษัทรับมือกับผลกระทบของภาษีสองรอบแรกได้ดี เพราะบริษัทมีซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่นและมีขนาดใหญ่
ขณะที่บริษัทย้ำว่า บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเพื่อบรรเทาผลกระทบจากมาตรการภาษี และโฆษกของบริษัทระบุว่า
“ ความเปลี่ยนแปลงที่มีต่อระบบภาษีซึ่งดำเนินมาด้วยดีนานหลายทศวรรษไม่ใช่วิธีที่ใช้ได้กับประเทศของเรา”.