ทรัมป์-อาเบะกระชับสัมพันธ์การค้า
เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯและนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะแห่งญี่ปุ่นระบุว่า พวกเขาเห็นพ้องที่จะกระชับการให้คำปรึกษาทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศที่เป็นพันธมิตรมายาวนาน โดยตั้งเป้าที่จะขยายการลงทุนและการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย
“ประธานาธิบดีทรัมป์ และผม เห็นพ้องที่จะเริ่มการพูดคุยเพื่อดีลการค้าเสรีและเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน” นายกฯอาเบะกล่าวในการแถลงข่าวร่วมกันกับประธานาธิบดีทรัมป์
โดยผู้นำสหรัฐฯ ย้ำถึงความต้องการของเขาในการแถลงข่าวเพื่อปรับสมดุลการค้ากับญี่ปุ่น โดยกล่าวว่า เขาพอใจในการพูดคุยแบบตัวต่อตัวเพื่อการเจรจาทวิภาคีที่ตั้งเป้าจะลดจำนวนการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯลง
ขณะที่ผู้นำทั้งสองกล่าวว่า ได้ตกลงที่จะให้ที่ปรึกษาระดับสูงเป็นผู้นำในการพูดคุย โดยนายกฯอาเบะพูดชัดเจนว่า ความแตกต่างยังคงมีอยู่ในแต่ละประเทศ
“ในฝั่งของสหรัฐฯ มีความสนใจในข้อตกลงแบบทวิภาคี ส่วนสถานะของประเทศเราคือข้อตกลง TPP เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองประเทศ” นายกฯอาเบะกล่าวกับผู้สื่อข่าวโดยอ้างถึงข้อตกลงการค้าหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก หรือ TPP
ทั้งนี้ ข้อตกลง TPP เป็นการริเริ่มของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ ที่สหรัฐฯขอถอนตัวในช่วงสัปดาห์แรกของการเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีทรัมป์ โดยระบุว่า ไม่ใช่ข้อตกลงที่ดีสำหรับสหรัฐฯ
“ผมไม่ต้องการกลับไปที่ TPP อีก แต่ถ้าพวกเขามีข้อเสนอดีๆ ที่ไม่อาจปฏิเสธในนามของสหรัฐฯ ผมก็จะร่วมด้วย” ผู้นำสหรัฐฯกล่าว
“แต่ผมชอบข้อตกลงทวิภาคีมากกว่า ผมคิดว่ามันดีกว่าสำหรับประเทศของเรา ผมคิดว่ามันดีกว่าสำหรับแรงงานของเรา ผมชอบดีลแบบทวิภาคีมากกว่า ดีลตรงกับญี่ปุ่นเลย” ประธานาธิบดีทรัมป์เสริม
ในเดือนมี.ค.ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอลูมิเนียม 10% โดยเขากล่าวว่า ประเด็นการปรับขึ้นภาษีทำให้หลายประเทศพร้อมเจรจากับสหรัฐฯ มากขึ้น และอาจทำให้ประเทศเหล่านั้นไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีของญี่ปุ่นเลย หากสหรัฐฯและญี่ปุ่นมีการทำข้อตกลงการค้าระหว่างกันได้
โดยคณะรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศยกเว้นการขึ้นภาษีนำเข้าเป็นการชั่วคราวให้กับหลายประเทศพันธมิตร แต่ไม่รวมถึงญี่ปุ่น หลังจากภาษีมีผลบังคับใช้ เกาหลีใต้ตกลงที่จะขอรับการยกเว้นเป็นการถาวรสำหรับโควต้าใหม่ที่จะส่งผลให้การขนส่งสินค้าเหล็กนำเข้าสหรัฐฯจากเกาหลีใต้ลดลง 30%
ทั้งนี้ นายกฯอาเบะกล่าวว่า เหล็กและอลูมิเนียมของญี่ปุ่นไม่ได้ส่งผลกระทบด้านลบแก่ความมั่นคงของสหรัฐฯ
“เป็นสถานะของเราที่ว่าคุณภาพของสินค้าจากญี่ปุ่นอยู่ในระดับสูง และเป็นเรื่องยากที่สินค้าประเทศอื่นจะแทนที่ผลิตภัณฑ์ของเราได้ สินค้าของเรากระจายอยู่ในอุตสาหกรรม และการจ้างงานของสหรัฐฯ” นายกฯอาเบะกล่าว.