วอลมาร์ทเลือกจ่ายเงินผ่านเทนเซ็นต์
ห้างวอลมาร์ทเลือกระบบจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือของเทนเซ็นต์ ช่วยสนับสนุนเทนเซ็นต์ในการต่อสู้กับอาลีบาบาในตลาดการจ่ายเงินที่กำลังเติบโตเร็วที่สุดในจีน
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. วอลมาร์ท ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลก ระบุว่าได้ยกเลิกระบบการจ่ายเงินผ่านอาลีเพย์ของอาลีบาบาในทุกสาขาทางภูมิภาคตะวันตกของประเทศ หลังจากทำข้อตกลงกับเทนเซนต์เพื่อใช้ระบบจ่ายเงินผ่านวีแชทแทน
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เน้นให้เห็นว่า ปัจจุบันตลาดค้าปลีกของจีนถูกแบ่งเป็นสองค่ายคืออาลีบาบาและเทนเซ็นต์ ซึ่งมีมูลค่ารวมกันถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 31.30 ล้านล้านบาท และมีอิทธิพลเขย่าตลาดค้าปลีกทั้งออนไลน์และออฟไลน์ของจีน
ตั้งแต่ต้นปี 2560 ทั้งสองบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างใช้เงินลงทุนไปมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 315,600 ล้านบาทกับดีลการค้าที่มุ่งเน้นไปที่การค้าปลีก ให้เป็นไปตามเป้าทั้งค้าปลีกออนไลน์และหน้าร้าน และทั้งสองมีบทบาทสำคัญในตลาดการจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยอาลีเพย์ของอาลีบาบานำหน้าอยู่ แต่วีแชทของเทนเซ็นต์ก็เติบโตตามมาอย่างรวดเร็ว
ผู้บริโภคชาวจีนและผู้ค้าปลีก มักมีการใช้งานทั้งอาลีเพย์และวีแชท ซึ่งสามารถใช้ชำระค่าสินค้าออนไลน์หรือในหน้าร้านทั่วไปโดยสแกน QR โค้ดด้วยสมาร์ทโฟน
ทั้งนี้ อาลีบาบาเป็นผู้นำอีคอมเมิร์ซ ขณะที่เทนเซ็นต์แข็งแกร่งในโซเชียลมีเดียและเกม และเหมือนกับวอลมาร์ทคือเทนเซ็นต์มีหุ้นใหญ่ในบริษัทค้าปลีกออนไลน์อันดับสองอย่าง JD.com
โฆษกหญิงของวอลมาร์ทกล่าวว่า บริษัทได้เข้าสู่กระบวนการเป็นหุ้นส่วนกับวีแชทเพย์ ทางพื้นที่ตะวันตกของจีน ซึ่งเป็นการตัดสินใจทางธุรกิจเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น
ภูมิภาคตะวันตกของจีนเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ ประกอบด้วยมณฑลเสฉวน ยูนนานและกานซู อย่างไรก็ตาม พื้นที่นี้มีประชากรอาศัยอยู่บางตากว่าทางตะวันออกของจีนที่ประชาชนมีฐานะดีกว่า
“ ในอนาคต วอลมาร์ทจะร่วมมือกับหุ้นส่วนมากกว่านี้เพื่อจัดหาระบบการจ่ายเงินที่มีความสะดวกสบายและมีประโยชน์มากขึ้น ” เธอระบุในอีเมล โดยเสริมว่าบริษัทรองรับการจ่ายเงินทุกรูปแบบทั้งเงินสด บัตรเครดิต และจ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือ
เทนเซ็นต์ขานรับกับการตัดสินใจของวอลมาร์ทด้วยความยินดี และระบุว่าจะผลักดันพัฒนาระบบให้ก้าวหน้าพร้อมแผนที่จะช่วยสนับสนุนผู้ขายด้วยเครื่องมือดิจิทัลในส่วนของการค้าปลีกอัจฉริยะ ขณะที่อาลีบาบาและอาลีเพย์ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้
เมื่อวันที่ 21 มี.ค.หุ้นของเทนเซ็นต์ในตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกงลดลง 0.86% มูลค่าของบริษัทในตลาดอยู่ที่ 4.39 ล้านล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 17.73 ล้านล้านบาท และกำไรของบริษัทในปี 2560 พุ่งทะยานสูงขึ้นถึง 74%