พนักงานหญิงยื่นฟ้องไมโครซอฟต์
ผู้หญิงที่ทำงานในบริษัทไมโครซอฟต์ในส่วนงานเทคนิคที่มีสำนักงานอยู่ในสหรัฐฯยื่นฟ้องเพื่อร้องเรียนความผิดจากการเหยียดเพศและคุกคามทางเพศภายในองค์กรระหว่างปี 2553 – 2559 มากถึง 238 ราย อ้างอิงจากเอกสารการยื่นคำร้องต่อศาลที่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะในวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา
โดยตัวเลขชี้ให้เห็นว่าโจทก์ยื่นฟ้องไมโครซอฟต์ในข้อหาปฏิเสธการขึ้นค่าจ้าง หรือการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นให้กับผู้หญิงที่ทำงานในบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ไมโครซอฟต์ปฏิเสธว่าบริษัทไม่มีนโยบายเช่นนั้น
อัยการของโจทก์ที่ยื่นฟ้องกำลังผลักดันกระบวนการพิจารณาคดี ซึ่งครอบคลุมกรณีของผู้หญิงมากกว่า 8,000 คน มีการเปิดเผยวิธีปฏิบัติของการจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์ของไมโครซอฟต์ที่ลงลึกในรายละเอียดมากขึ้นเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ในคำฟ้องซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ
โดยทั้งสองฝ่ายกำลังแลกเปลี่ยนเอกสารก่อนการไต่สวน ซึ่งยังไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจน
จาก 118 คำฟ้องเกี่ยวกับการเหยียดเพศที่ยื่นโดยพนักงานหญิงของไมโครซอฟต์ มีเพียงหนึ่งรายที่ถือว่ามีมูลจริงภายในบริษัท อ้างอิงจากเอกสารคำร้องเปิดผนึก
อัยการของฝ่ายโจทก์พนักงานหญิงเรียกรายละเอียดในหลายสำนวนว่าเป็นเรื่องที่ ‘น่าตกใจ’ และการขานรับของทีมสอบสวนของบริษัทไมโครซอฟต์นั้นไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร
หลายบริษัทเก็บข้อมูลเกี่ยวกับคำร้องเรียนด้านการเลือกปฏิบัติภายในองค์กรไว้เป็นความลับ ดังนั้น จึงไม่ชัดเจนว่ามีจำนวนคำฟ้องร้องมากเท่าไรที่ไมโครซอฟต์เมื่อเทียบกับบริษัทคู่แข่ง
ทั้งนี้ ไมโครซอฟต์ระบุในสำนวนว่า โจทก์ไม่ได้ชี้แจงโดยละเอียดถึงการกระทำที่ส่งผลกระทบกับพนักงานมากพอที่จะฟ้องร้องเป็นคดีความ และบริษัทใช้งบมากกว่า 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1,730 ล้านบาทต่อปีเพื่อพัฒนาส่งเสริมความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันของพนักงานในบริษัท โดยบริษัทมีพนักงานประมาณ 74,000 คนในสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นปี 2560
บริษัทยังชี้แจงว่า ในสำนวนไม่ได้ระบุตัวอย่างของปัญหาค่าจ้างหรือการเลื่อนขั้น ซึ่งทีมสอบสวนของไมโครซอฟต์ควรจะพบการละเมิดนโยบายเหล่านี้ของบริษัท แต่ก็ไม่พบ โดยโฆษกของบริษัทยังไม่ได้ให้ความเห็นในกรณีนี้
สื่อรอยเตอร์ได้พิจารณาคดีที่ยื่นฟ้องระหว่างปี 2549 – 2559 ที่เปิดเผยถึงกรณีการคุกคามทางเพศนับร้อยกรณี ซึ่งบริษัทใช้กลยุทธ์การดำเนินคดีตามตัวบทกฎหมายเพื่อปิกปิดข้อมูลที่เลวร้าย
ไมโครซอฟต์โต้ว่า จำนวนของผู้หญิงที่ร้องเรียนเรื่องทรัพยากรมนุษย์ควรถูกเก็บไว้เป็นความลับ เพราะการเผยแพร่ผลลัพธ์ต่อสาธารณะจะเป็นการทำร้ายพนักงานจากรายงานการถูกล่วงละเมิดในอนาคต
เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากศาลพบว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นห่างไกลเกินกว่าจะเป็นภัยทางธุรกิจ หรือภัยจากคู่แข่ง ที่จะถูกพิจารณาว่าควรเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ.