รัฐบาลสหรัฐฯ เตือนไม่ควรอุดหนุนหัวเหว่ย
หากคุณกำลังอยู่ในตลาดสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ คุณอาจจะอยากหลีกเลี่ยงสมาร์ทโฟนใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา บนเว็บไซต์อเมซอนและ เบสต์บาย
โทรศัพท์ หัวเหว่ย รุ่น Mate SE วางขายในราคาเพียง 229 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 7,178 บาท เท่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีรูปร่างน่าดึงดูด ทั้งหน้าจอขนาด 5.93 นิ้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และแบตเตอรี่ที่มากขึ้น แต่ตัวโทรศัพท์นี้ก็ถือว่ามาจากบริษัทหัวเหว่ย ซึ่งทางรัฐบาลสหรัฐฯได้ออกเตือนผู้บริโภคไม่ให้ซื้อสินค้าจากบริษัทดังกล่าว
ในเดือนก่อน เหล่าผู้นำหน่วยงานจากทั้งซีไอเอ เอฟบีไอ และเอ็นเอสเอ รวมทั้งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ระบุว่า ประชาชนชาวสหรัฐฯ ไม่ควรซื้อโทรศัพท์จากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติจีน ทั้งหัวเหว่ย และแซตทีอี
คริส เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ ได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าวระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกาเมื่อกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาว่า “เรารู้สึกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความเสี่ยงในการอนุญาตให้บริษัทใดก็ตาม หรือองค์กรที่มีรัฐบาลต่างชาติถือหุ้นอยู่ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในมูลค่าทางสังคมของสหรัฐฯ ให้ได้ได้รับตำแหน่งที่มีอำนาจภายในเครือข่ายโทรคมนาคมของพวกเรา”
นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า อุปกรณ์สื่อสารทำให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติจีนสามารถเข้าถึง หรือแม้แต่ควบคุมระบบโทรคมนาคมของสหรัฐฯ และยังสามารถดัดแปลง ปลอมแปลงข้อมูลด้วยเจตนาร้าย หรือแม้แต่ขโมยข้อมูล รวมถึงการสอดแนมความลับ
ความคิดเห็นต่าง ๆ เกิดขึ้นหลังจากที่ทางเอทีแอนด์ที เกิดกลับลำ ยกเลิกการขายสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของ หัวเหว่ย อย่าง Mate 10 ในสหรัฐฯ
ทางบริษัทหัวเหว่ย ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาต่าง ๆ ว่าทางบริษัทไม่ได้กระทำการใด ที่ส่อเจตนาร้าย
โดยทางหัวเหว่ยได้ให้ข้อมูลกับทางซีเอ็นบีซีเมื่อเดือนก่อนว่า “หัวเหว่ยทราบถึงขอบเขตการเคลื่อนไหวต่าง ๆ จากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พยายามจะยับยั้งธุรกิจของหัวเหว่ยในตลาดอเมริกา”
“หัวเหว่ยได้รับความไว้วางใจจากทางรัฐบาลและลูกค้าจากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก และไม่ได้มีความเสี่ยงทางด้านการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์มากไปกว่าผู้ผลิตรายอื่นแม้แต่น้อย เราต่างเหมือนกัน ทั้งการเป็นห่วงโซ่ซัพพลายทั่วโลก และความสามารถในการผลิต”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้มีข่าวคราวเกี่ยวกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอีกราย อย่างเสี่ยวมี่ ที่ยังคงมุ่งหน้าพยายามจะเจาะตลาดเข้าสู่อเมริกา แม้ว่าจะมีประเด็นปัญหาของบริษัทหัวเหว่ยและระบบโทรคมนาคมของสหรัฐฯ อยู่ก็ตาม.