ยูนิลีเวอร์ขู่ถอนโฆษณาจากกูเกิล/FB
บริษัทยักษ์ใหญ่ยูนิลีเวอร์ออกโรงขู่จะถอนโฆษณาออกจากแพลตฟอร์มดิจิทัลรายใหญ่ เนื่องจากบริษัทมองว่าเป็นแหล่งรวมของข่าวลวง การเหยียดเชื้อชาติ เหยียดเพศ และเต็มไปด้วยแนวคิดของกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่ง
คำเตือนที่ทรงพลังนี้ถูกส่งไปถึงแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ได้รับความนิยมทั่วโลกอย่างกูเกิลและเฟซบุ๊กในการประชุมโฆษณาครั้งล่าสุดในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 12 ก.พ.
“เราไม่สามารถให้การสนับสนุนดิจิทัลซัพพลายเชน ซึ่งหลายต่อหลายครั้งมีความโปร่งใสกว่าหนองบึงเพียงเล็กน้อยได้” คีธ วีด ประธานฝ่ายการตลาดของบริษัทยูนิลีเวอร์ ระบุในแถลงการณ์ของเขาที่ส่งให้สื่อ CNN
โดยบริษัทยูนิลีเวอร์ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคอย่างแชมพูโดฟ หรือชาลิปตัน เป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงโฆษณามากที่สุดในโลก บริษัทมีงบประมาณด้านการตลาดต่อปีประมาณ 8,000 ล้านยูโร หรือราว 314,240 ล้านบาท และเป็นโฆษณาบนแพลตฟอร์มดิจิทัลถึง 25%
จากแถลงการณ์ วีดจะกล่าวว่า คอนเทนต์ที่น่ารังเกียจเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย และการขาดการป้องกันที่ดีสำหรับการใช้งานของเด็ก กำลังทำลายความเชื่อถือทางสังคม ทำอันตรายกับผู้ใช้งานและทำลายประชาธิปไตย
“นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะปัดทิ้งไป หรือทำเฉยๆ ไม่สนใจได้”
ยูนิลีเวอร์จะไม่ลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มที่สร้างความแตกแยกให้สังคม หรือล้มเหลวที่จะปกป้องเด็กๆ อีกต่อไป
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กและกูเกิลชิงพื้นที่ส่วนใหญ่ในตลาดโฆษณาออนไลน์มานานหลายปี โดยได้อานิสงส์จากการเข้าถึงผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลและข้อมูลที่กว้างขวาง โดยทั้งสองบริษัทมีการประเมินว่าสามารถคว้างบประมาณในโฆษณาดิจิทัลได้ประมาณ 60% จากงบประมาณการใช้จ่ายด้านโฆษณาของลูกค้าทั้งหมดในปี 2560 ที่ผ่านมา
ที่ผ่านมา กูเกิลประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากหลายบริษัทไม่พอใจเมื่อพบว่างานโฆษณาของตัวเองถูกฉายอยู่กับวีดีโอที่น่ารังเกียจ หรือเต็มไปด้วยความรุนแรงบนแพลตฟอร์มวิดีโอยูทูบ
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการเป็นแหล่งของข่าวลวง, ฟองสบู่ตัวกรอง ,การแทรกแซงการเลือกตั้งในต่างประเทศ และการเสพติดโซเชียลมีเดีย โดยบริษัทเฟซบุ๊ก ซึ่งมีแหล่งรายได้ประมาณ 85% จากโพสต์และวิดีโอโฆษณา ออกมาประกาศเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาว่า จะให้ความสำคัญกับโพสต์จากเพื่อนและครอบครัวมากกว่าข่าวและคอนเทนต์จากธุรกิจ
โดยเฟซบุ๊กยังได้เผยว่า ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ใช้เวลาน้อยลงกับเฟซบุ๊ก หลังจากบริษัทเลือกที่จะแสดงให้เห็นวิดีโอไวรัลน้อยลง
บริษัทระบุในแถลงการณ์ว่า เฟซบุ๊กสนับสนุนคำมั่นสัญญาของยูนิลีเวอร์ และกำลังทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิดกับบริษัท ขณะที่กูเกิลไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ เมื่อถูกถามในประเด็นนี้
“ปี 2561 จะเป็นปีของบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคหรือจะเป็นปีของความน่าเชื่อถือ ปีที่เราจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กลับคืนมาในระบบของเราและสังคมของเรา” วีดกล่าวในสุนทรพจน์ของเขา.