“บี.กริม” ลุย ซื้อกิจการโรงไฟฟ้า ปีหน้า นำเข้า LNG
บี.กริม กวาดกำไร 9 เดือน 2,228 ล้านบาท เดินหน้าซื้อกิจการ-ลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม พร้อมขยายพอร์ต “พลังงานทดแทน” ปีหน้า นำเข้า LNG
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยถึงผลประกอบการในช่วง 9 เดือนของปี 2564 กำไรสุทธิ-ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ เพิ่มขึ้น 6% อยู่ที่ 2,228 ล้านบาท จากปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ในประเทศไทย เติบโต 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เทียบกับประมาณการเดิมที่ 10-15% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ลดลง 16.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และการขยายกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น
สำหรับ ไตรมาสที่ 3/2564 บี.กริม เพาเวอร์ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ เติบโต 4.7% อยู่ที่ 11,714 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้า IU ในประเทศ 17.1% โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 844 กิกะวัตต์-ชั่วโมง จากหลายกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมหลัก ควบคู่กับการเชื่อมเข้าระบบของลูกค้า IU รายใหม่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 33.5 เมกะวัตต์ ในช่วง 9 เดือนของปี 2564 จากเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 40 เมกะวัตต์ในปีนี้ และมากกว่า 50 เมกะวัตต์ ในปี 2565
อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิ-ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ลดลง 23.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาที่ 571 ล้านบาท จากราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 268 บาทต่อล้าน BTU และการซ่อมบำรุงตามแผนของโครงการโรงไฟฟ้า SPP 3 โครงการ
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่ารายได้ส่วนใหญ่ของ บี.กริม เพาเวอร์ หรือในสัดส่วน 75% จะไม่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาก๊าซธรรมชาติ แต่ บี.กริม เพาเวอร์ ตระหนักถึงแนวโน้มราคาที่เป็นช่วงขาขึ้น จึงได้เตรียมกลยุทธ์เพื่อรับมือ โดยมีเป้าหมายที่จะเข้าซื้อโครงการเพิ่มเติมเพื่อรับรู้กำไรทันทีในปีหน้า
นอกจากนี้ยังมีแผนการควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยตั้งเป้าจะประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 100 ล้านบาท ในปี 2565 และการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม 5 โครงการ ในครึ่งปีหลังของปี 2565 คาดว่าจะช่วยประหยัดการใช้ก๊าธรรมชาติต่อหน่วยลง 15% ขณะที่ บี.กริม เพาเวอร์ ยังมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการต้นทุนค่าก๊าซในอนาคต เมื่อเริ่มมีการนำเข้า LNG ตามแผนที่วางไว้ และล่าสุดได้ขยายธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศมาเลเซีย และโปแลนด์