นายกฯ สั่ง สทนช. ตั้งศูนย์แก้น้ำท่วม
สทนช. รับข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ แก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดเชียงราย โดยเร่งบริหารจัดการมวลน้ำท่วมขังและกู้ระบบประปาให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดเชียงราย และเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ครั้งที่ 1/2567 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เลขาธิการ สทนช. เปิดเผยว่า วันนี้ สทนช. ได้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ณ จังหวัดเชียงราย ตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนบริหารจัดการน้ำเพื่อเร่งคลี่คลายสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ให้คลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด โดยนายกรัฐมนตรีมีข้อห่วงใยในเรื่องระบบประปาที่ได้ผลกระทบส่งผลให้ไม่สามารถจ่ายน้ำประปาได้ตามปกติ ซึ่งที่ประชุมได้หารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยสำหรับระบบประปาของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สาขาเชียงราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถกลับมาสูบจ่ายน้ำให้ประชาขนได้ประมาณเวลา 15.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (14 ก.ย. 67) สทนช. ได้ประสานขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน กรมทางหลวง ให้การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อระดมสูบน้ำที่เข้าท่วมในบริเวณสถานีสูบน้ำดิบ สถานีสูบจ่ายประปา เพื่อฟื้นฟูสภาพให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่ามีโอกาสที่จะสามารถให้บริการน้ำประปาให้ประชาชนในตัวเมืองเชียงรายได้ภายในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ สำหรับ กปภ. สาขาแม่สาย ได้รับการสนับสนุนกำลังพลจากหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาเข้าช่วยแก้ไขปัญหาทรายทับถมระบบบ่อสูบน้ำ รวมถึงจะมีการระดมเครื่องสูบน้ำเข้าสูบระบายน้ำเพื่อให้สามารถสูบจ่ายน้ำให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้โดยเร็วที่สุด โดยสำหรับโรงพยาบาลที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในขณะนี้ กปภ. ได้ให้บริการรถบรรทุกน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยกรมทางหลวงจะสนับสนุนรถบรรทุกน้ำเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ สทนช. จะรายงานความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาให้นายกรัฐมนตรีทราบอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงรายในปัจจุบัน ปริมาณน้ำในพื้นที่ตัวเมืองเชียงรายมีแนวโน้มลดลง และคาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติประมาณวันที่ 15 – 16 ก.ย. นี้ โดยเมื่อระดับน้ำลดลงต่ำกว่าระดับตลิ่งแล้ว จะมีการเร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากชุมชนลงสู่ลำน้ำโดยเร็วที่สุด โดย สทนช. จะลงพื้นที่เพื่อสำรวจสภาพในบริเวณต่าง ๆ เพื่อพิจารณาแนวทางการระบายน้ำในเหมาะสม เช่น การกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ การติดตั้งเครื่องสูบน้ำ โดยจะมีการใช้ข้อมูลพื้นที่น้ำท่วมจากภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) ประกอบการระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ กรมประชาสัมพันธ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะบูรณาการข้อมูลเพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนข้อมูลสถานการณ์น้ำผ่านช่องทางต่าง ๆ ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ รวมทั้ง สทนช. ได้นำรถโมบายเข้าสนับสนุนการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นด้วย
เลขาธิการ สทนช. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในช่วงนี้ปริมาณฝนบริเวณภาคเหนือตอนบนจะลดลง แต่จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่บางส่วนของภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง นอกจากนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้นจากอิทธิพลของพายุยางิ จะส่งผลกระทบต่อบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยขณะนี้สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย มีน้ำล้นตลิ่งประมาณ 30 ซม. และมีแนวโน้มเพิ่มสูงมากขึ้นถึงประมาณ 1 – 1.5 ม. ขณะเดียวกันที่สถานีหนองคาย จังหวัดหนองคาย มีน้ำล้นตลิ่งประมาณ 60 – 90 ซม. และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 1.5 – 2.5 ม. โดย สทนช. ได้มีประกาศแจ้งเตือนพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขงล่วงหน้าเพื่อให้หน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในเชิงป้องกันเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน และจะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในพื้นที่โรงพยาบาลและสถานที่สำคัญต่าง ๆ รวมถึงบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ริมตลิ่งที่มีความเสี่ยงน้ำท่วม ซึ่งจะต้องแจ้งเตือนประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งเตรียมแผนเคลื่อนย้ายอพยพและจัดหาศูนย์พักพิงให้แก่ประชาขนที่ได้รับผลกระทบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯ บินเชียงรายช่วยประชาชนทันที