ภูเขาไฟตาอัลธรรมชาติที่แฝงความลึกลับ
เมื่อเอ่ยถึงประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟ เชื่อว่าคนไทยหลาย ๆ คนคงจะต้องนึกถึงภาพของภูเขาไฟตาอัล
ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน สำหรับภูเขาไฟนั้น ยามที่มันสงบนิ่งดูคล้ายกับมังกรยักษ์ที่หลับไหล ไร้พิษสงใด ๆแต่หากเมื่อไรที่เกิดสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก็กลับพร้อมที่จะทำลายทุกชีวิตและสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบข้างลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ภูเขาไฟกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่แม้จะมีความงามน่าอัศจรรย์ใจ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความน่ากลัวถึงภัยเงียบแสนร้ายกาจของตนเอง
ภูเขาไฟตาอัล หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของฟิลิปปินส์และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่เมื่อใครก็ตามได้เดินทางไปสัมผัสแล้ว อาจจะตั้งคำถามกับตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ที่นี่คือภูเขาไฟที่เต็มไปด้วยอันตรายจริงหรือ
ภูเขาไฟตาอัลเป็นกลุ่มภูเขาไฟซึ่งอยู่ที่เกาะลูซอน มองโดยรวมแล้วอาจจะมีหลายคนมองว่าภูเขาไฟแห่งนี้รูปร่างคล้ายภาชนะบรรจุของไทยอย่างกระจาด และที่นี่จะมีลักษณะเป็นแอ่งภูเขาไฟที่ผุดขึ้นมาท่ามกลางทะเลสาบ ทำให้ตาอัลถูกขนานนามว่า เกาะภูเขาไฟ
ความงามที่น่าพิศวง ภูเขาไฟตาอัลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอันดับต้น ๆ ของประเทศฟิลิปปินส์เลยก็ว่าได้ โดยภูเขาไฟแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลสาบตาอัล และห่างจากกรุงมะนิลาไปประมาณ 55 กิโลเมตรเท่านั้น ทั้งความสะดวกและระยะทางที่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของฟิลิปปินส์นี่เอง ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางไปกลับระหว่างภูเขาไฟตาอัลกับกรุงมะนิลาได้อย่างไม่ต้องลังเลใจ อีกทั้ง ยังมีความสะดวกในการสำรองห้องพักอีกด้วย
เส้นทางพิสูจน์ใจ เส้นทางไปภูเขาไฟตาอัล เนื่องจากตาอัลเป็นภูเขาไฟ ดังนั้นการเดินทางเพื่อพิชิตเกาะแห่งนี้ จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากไม่ใช่น้อย เริ่มต้นด้วยการนั่งรถบัส จากนั้นต่อรถยนต์แบบเครื่องโฟร์วิลล์ เพื่อความปลอดภัย เพราะเส้นทางกว่าจะไปถึงจุดหมายค่อนข้างสมบุกสมบันไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นและลงเขาทางชัน เลี้ยวที่เนินโค้งคดเคี้ยวกว่าจะไปถึงริมทะเลสาบตาอัล
ตื่นตากับภาพภูเขาไฟที่ยังไม่ดับมอด ภูเขาไฟตาอัล จุดที่น่าสนใจมากที่สุดของภูเขาไฟตาอัลคือการเป็นภูเขาไฟที่ยังมีพลังและไม่ดับมอดเสียทีเดียว ทั้ง ๆ ที่มีขนาดเล็กกว่าภูเขาไฟลูกอื่น ๆ ลักษณะที่มองโดยผาดเผินนั้นจะเห็นเป็นแอ่งภูเขาไฟกระจายอยู่บนเกาะเล็กบริเวณกลางทะเลสาบตาอัล สร้างความแปลกตาให้กับผู้ที่มาสัมผัสด้วยตาตนเองได้ไม่น้อย
ความงามที่ซ่อนความลึกลับ ความสงบที่แฝงความเกรี้ยวกราด จากบันทึกของทางการฟิลิปปินส์พบว่า ภูเขาไฟแห่งนี้ได้เคยเกิดการปะทุมาแล้ว 30 ครั้ง ซึ่งครั้งที่ปะทุรุนแรงมากที่สุดอยู่ในปี พ.ศ. 2297 และทำให้มีผู้เสียชีวิตหลักพันคน แต่ที่น่าตระหนกมากไปกว่านั้นก็คือในปี พ.ศ. 2554 ภูเขาไฟแห่งนี้ได้มีการส่งสัญญาณหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการประทุของแมกม่าหรือแม้แต่ก๊าซคาร์บอนที่พวยพุ่งออกมาถึงปากปล่อง ทำให้ทางการต้องสั่งอพยพผู้คนออกนอกพื้นที่อันตรายทันที แต่ถึงอย่างไรก็ตามตาอัลในวันนี้ก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เปี่ยมล้นไปด้วยมนต์เสน่ห์ของภูเขาไฟกลางทะเลสาบ ลึกลับแต่งดงาม น่าค้นหาและรอคอยให้นักท่องเที่ยวผู้รักการผจญภัยได้ไปสัมผัสด้วยตนเอง
ชีวิตนักเดินทาง ร่วมขี่ม้าสู่ปากปล่องภูเขาไฟ การเดินทางไปยังปากปล่องภูเขาไฟแห่งนี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกกิจกรรมหนึ่ง ซึ่งไม่ว่านักท่องเที่ยวคนใดได้ไปเยือนตาอัลเป็นต้องได้ลองอรรถรสแห่งการขี่ม้าไปยังปากปล่องภูเขาไฟกันทั้งนั้น โดยจะมีไกด์หรือจ๊อกกี้คอยจูงม้าให้นักท่องเที่ยวได้นั่ง และได้มีการจัดเตรียมม้าเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่บริเวณตีนเขาไม่ต่ำกว่า 500 ตัวเลยทีเดียว แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการผจญภัยเพิ่มอีกขั้นก็สามารถเดินขึ้นไปยังปากปล่องภูเขาไฟได้ด้วยตนเองเช่นกัน แต่ทั้งนี้ ทางการได้ตั้งกฎไว้ว่าหากจะเดินไปที่ปากปล่องภูเขาไฟจะต้องมีไกด์นำทางไปด้วย เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเอง สำหรับข้อดีของการเดินทางไปพร้อมกับไกด์ นอกจากจะได้ชมธรรมชาติแสนงดงามข้างทางพร้อมคำอธิบายถึงความเป็นมาแล้ว นักท่องเที่ยวยังได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอย่างปลอดภัยและไม่ต้องเกรงว่าจะออกนอกเส้นทางอีกด้วย จริงไหม
ความงามแสนอัศจรรย์ที่ธรรมชาติเนรมิต เมื่อไปถึงยังปากปล่องภูเขาไฟ เชื่อว่านักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องอัศจรรย์ใจในความงดงามเกินบรรยาย หากภาพในความนึกคิดของภูเขาไฟคือสีแดงส้มราวเปลวเพลิงและควันไฟแล้ว ณ ที่แห่งนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นทะเลสาบสีเขียวมรกตงดงามราวกับดินแดนในจินตนาการ เปรียบเหมือนกระจกเงาที่สะท้อนสีท้องฟ้าและสีของความแสงทุกสีมารวมไว้ในผืนน้ำงียบสงบแห่งนี้ ซึ่งความเป็นจริงแล้วทะเลสาบแห่งนี้คือปากปล่องภูเขาไฟตามธรรมชาตินั่นเอง แต่ด้วยหลุมของปากปล่องที่กว้างมากบวกกับการสะสมของน้ำมาเป็นเวลานาน จึงก่อให้เกิดทะเลสาบที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ไว้ หรืออาจจะกล่าวได้ว่าทะเลสาบแห่งนี้ได้ต้องผ่านกาลเวลาผ่านร้อนหนาวมานับหมื่นปี จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดของฟิลิปปินส์นั่นเอง
หากการเดินทางคือการแสวงหาความหมายของชีวิต การเดินทางผจญภัยเพื่อไปพบกับธรรมชาติที่สวยสดงดงามก็นับเป็นอีกหนึ่งความคุ้มค่าของการใช้ชีวิต บนโลกใบนี้ยังมีอีกหลายความงดงามที่รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสและเก็บความประทับใจจากสถานที่แห่งนั้นไว้ตราบนานเท่านาน
ที่ตั้ง ภูเขาไฟตาอัล อยู่ในเขตจังหวัดบาตังกัสและห่างจากกรุงมะนิลา 55 กิโลเมตรเท่านั้น
การเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารเครื่องบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังกรุงมะนิลา จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อไปขึ้นรถทัวร์มายังจังหวัดบาตังกัส ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟ เมื่อไปถึงในตัวจังหวัดแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถซื้อทัวร์ได้จากบริษัททัวร์ในเมือง โดยจะรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งค่าเรือ, ค่ารถสามล้อและม้าที่จะพาขึ้นไปชมความงามบนปากปล่องภูเขาไฟ ในสนนราคาเริ่มต้นที่ 6,000 – 9,000 เปโซต่อคน