โตนเลสาบ…วิถีอัศจรรย์ของมนุษย์
“ อะไรที่น่าประทับใจสำหรับทริปไปเที่ยวกัมพูชา ” คำตอบที่ได้มักไม่ค่อยหลากหลาย ไม่เหมือนคนที่เพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศส
อาจบอกว่าชอบอาหารฝรั่งเศสมากอีกคนบอกชอบหอไอเฟล เดินพิพิธภัณฑ์ลูฟ หรือบางคนชอบบรรยากาศจิบกาแฟยามเช้ากับขนมอบกลิ่นหอม บางคนชอบช้อปปิ้ง หรือบางคนตกหลุมรักสาวฝรั่งเศสดูสาวเดินผ่านไปผ่านมาก็สุขใจ เป็นต้น แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกิดกับคนที่เพิ่งกลับมาจากกัมพูชา เนื่องด้วยความอเมซิ่งในสิ่งปลูกสร้างเชิงวัฒนธรรมของอาณาจักรขอมโบราณนั้น ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องหยุดหายใจแล้วร้องว้าวในลำคอได้อย่างไม่ต้องสงสัย นั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้ได้คำตอบที่ไม่หลากหลายนัก ยิ่งถ้าเป็นคนไทยคนเอเชียด้วยกันแล้ว เรื่องอาหารการกินก็มีความละม้ายคล้ายกัน เรื่องร่ายรำระบำก็มีรากที่มาจากที่เดียวกัน ไม่ถึงขนาดทำให้ตกอเมซิ่งตาค้างเหมือนดูระบำอินเดียที่ดูเหมือนนางรำจะมีข้อต่อกระดูกแบบสั่งตัดพิเศษ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถมองข้ามความเป็นเขมรที่ปัจจุบันยังคงเหลือให้เห็น และมีแนวโน้มว่าจะคงดั่งเดิมไปอีกหลายชั่วอายุคนนั่นก็คือ วิถีชีวิตแห่งทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์…โตนเลสาบ
โตนเล ในภาษาเขมรหมายถึงแม่น้ำใหญ่ ส่วนสาบหมายถึงไม่เค็ม เนื่องจากโตนเลสาบเป็นพื้นที่น้ำท่วมที่เกิดจากแม่น้ำโขง อีกทั้งยังมีแม่น้ำสำคัญคือแม่น้ำเสียมเรียบไหลลงสู่โตนเลสาบด้วย จะว่าไปแล้ว สำหรับหลายคนอาจไม่คิดว่าเป็นทะเลสาบ แต่เป็นลักษณะที่เรียกว่าที่ราบน้ำท่วมถึงเสียมากกว่า พื้นที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 2,700 ตร.กม. ในหน้าน้ำน้อย และขนาดใหญ่มากถึง 16,000 ตร.กม. ในหน้าน้ำหลาก พัดพาเอาสายแร่ธาตุไหลล่องมาจากเมืองจีนผ่านแม่น้ำโขงลงพักไว้ที่โตนเลสาบ ก่อนจะไหลออกทะเลจีนใต้ทางตอนใต้ของกัมพูชา ความยิ่งใหญ่ของพื้นที่ทะเลสาบขนาดที่หน้าน้ำน้อยยังใหญ่กว่าเกาะภูเก็ตตั้งเกือบ 5 เท่าแล้ว ได้สร้างชุมชนกลางน้ำให้ได้ปลูกเรือนอยู่อาศัยและใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่กลางโตนเลสาบมานานนับศตวรรษ
โตนเลสาบนั้นเปรียบเป็นเหมือนทุกสิ่งของผู้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านกลางน้ำ ไม่ต้องบอกว่าเป็นทั้งแหล่งอาหาร แหล่งอาชีพทำกิน ที่อยู่ ที่อาบน้ำ เปรียบได้กับเป็นทะเลสาบแห่งชีวิตของชาวบ้าน มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุอาหาร ปลาที่ได้จากโตนเลสาบนั้นรสชาติอร่อยล้ำเลิศ ตัวใหญ่ขนาดน้อง ๆ ปลาบึก ชาวบ้านอาศัย เกิด เติบโต และตายไปกับทะเลสาบแห่งนี้ มีสิ่งปลูกสร้างสาธารณะหลายอย่างนอกเหนือจากบ้านที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นสนามฟุตบอล สถานบริการขายของ ตลาด หรือจะเป็นเรือนปลูกต้นไม้กลางน้ำ น่าแปลกที่เราไม่เห็นกระชังเลี้ยงปลาในโตนเลสาบ หรือถ้ามีก็คงน้อยมาก เพราะปลาในโตนเลสาบนั้นชุมเสียยิ่งกว่าชุม ไม่ต้องเสียเวลาเลี้ยง อยากกินเมื่อไหร่ก็ดักเอา แต่ที่สร้างความอเมซิ่งให้ชวนขนลุกนิด ๆ ก็เห็นจะเป็นกระชังเลี้ยงจระเข้นั่นเอง เห็นชนาดจระเข้น้ำจืดตัวอ้วนปี๋นอนก่ายกันอ้าปากแล้วให้นึกว่าหนังไทยเรื่องไกรทองที่สรพงศ์เป็นพระเอก จะต้องเอาชาละวันจระเข้ฤทธิ์เยอะมากจากโตนเลสาบไปเข้าร่วมแสดงด้วยแน่ ๆ แล้วถามจริง ๆ เถอะว่า ทำไมเด็ก ๆ ถึงไม่กลัวที่จะเล่นน้ำในทะเลสาบกว้าง แต่อยู่ข้าง ๆ กระชังจระเข้ใหญ่ได้ ไม่กลัวหลุดมาแบบในหนังดังเรื่องจอว์สเลยหรืออย่างไร
ภาพที่เห็นโดยทั่วไปคือเด็กน้อยกระโดดเล่นว่ายน้ำ บนเรือนเห็นมีหญิงสาวกำลังทำงานบ้านหรือไม่ก็นั่งดูโทรทัศน์เลี้ยงเด็กทารก ภาพหัวหน้าครอบครัวกำลังทำงาน แสงแดดร้อนระอุเมื่ออยู่กลางพื้นดินนั้นไม่สามารถทำให้พื้นที่เหนือน้ำในโตนเลสาบร้อนได้ เพราะมีลมพัดโกรกตลอดเวลา ลักษณะและภาพวิถีชีวิตเช่นนี้ดำเนินสืบเนื่องมานานหลายชั่วอายุคน และไม่เหมือนกับวิถีชีวิตของคนในภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีลักษณะเป็นพื้นที่ราบน้ำท่วมถึง หรือ Flooded Plain เช่นเดียวกันกับพื้นที่ราบ Flooded Plain ริมแม่น้ำไนล์ ผู้คนชาวอียิปต์โบราณก็ไม่ได้ลงไปตั้งรกรากในน้ำ หรือแม้แต่ขอบ ๆ แต่อาศัยการเพาะปลูกตรงบริเวณที่น้ำท่วมเท่านั้น เขมรนั้นสร้างเรือนพักถาวร คนที่เกิดในโตนเลสาบก็จะโตและตายในโตนเลสาบนั่นเอง
การมาเยี่ยมชมหมู่บ้านกลางน้ำในโตนเลสาบ สามารถติดต่อเอเจนซี่ในเมืองเสียมเรียบได้ซึ่งง่ายและสะดวก หรือไม่ก็พวกสามล้อพ่วงข้างนี่แหละจะแนะนำอย่างนั้นอย่างนี้ (คงประมาณแท๊กซี่ไทยที่ได้ค่าน้ำร้อนน้ำชาเวลาพาชาวต่างชาติไปเที่ยวอาบอบนวด) หากคุณเป็นคนที่รักการผจญภัย ก็ลุยไปที่ท่าเรือลงโตนเลสาบได้เลย แล้วใช้ทักษะการต่อรอง การต่อรองเวลาไปเที่ยวนั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณต่อได้ราคาถูกแต่ต้องมานั่งอารมณ์เสีย หัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่การต่อรองจะเป็นเรื่องสนุกและเป็นประสบการณ์ที่จะเป็นเรื่องเล่าที่อาจจะประทับใจเรื่องหนึ่งของคุณได้เลยเช่นกัน ทุกอย่างอยู่ที่เราจะมอง ราคาอาจคิดแยกเป็นรายหัว ๆ ละ 15-20 USD หรือประมาณ 500 – 600 บาทไทย แต่คุณสามารถเช่าเหมาลำได้ในราคา 2,500 – 3,000 บาทต่อการเที่ยวประมาณ 40นาที ถึงหนึ่งชั่วโมง
ถ้ามีคนร่วมทริป 5 คนขึ้นไปแล้วเหมาลำจะสะดวกกว่า ประสบการณ์อาจสอนคุณว่าถ้ามาเกิน 5 คน ให้เดินมาต่อราคาแค่ 4 – 5 คนพอ เพราะถ้าคนเรือเห็นเรามาเยอะเช่น 8 คนอาจคิดราคาเหมาเป็น 4,000 บาทได้ พลันให้ต้องคิดถึงสัจธรรมของโตนเลสาบที่มีทั้งหน้าน้ำขึ้นและหน้าน้ำลง อัตราค่าเหมาเรือก็เช่นกัน
การอ่านรีวิวในพันทิปเรื่องโตนเลสาบอาจทำให้หลายคนเกิดอาการลังเล ซึ่งที่เขียนรีวิวและคอมเม้นต์ต่าง ๆ นานาไม่ว่าจะเป็น ร้อนชิ…หาย โดนฟันค่าเหมาเรือ เรือพาไปนั่งร้านอาหารกลางน้ำที่มีแต่นักท่องเที่ยว ไปดูกระชังจระเข้เน่า ๆ ไปซื้อน้ำอัดลมราคาเดียวกับในโรงแรม ไปแวะฉี่กลางน้ำ ขอทานภายเรือมาขอตังค์ระยะประชิด แถมน้ำยังเหลืองเป็นขี้โคลนไม่อยากให้มากระเด็นโดนตัวเลยแม้แต่นิด ซึ่งก็จริงทั้งหมดที่เขาพูดกัน แต่ถ้าเราระลึกถึงส่วนที่เป็นสิ่งอัศจรรย์ของวิถีชาวบ้านที่เขาเติบโตมาพร้อมกับทะเลสาบแห่งนี้ ที่ถึงแม้น้ำจะขุ่นเหลืองเป็นสีโคลน แต่เขาก็ใช้อาบใช้กิน ใช้น้ำแห่งนี้เป็นเหมือนเส้นโลหิตอีกเส้นของการดำรงชีวิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้แล้วมานานนับศตวรรษ ก็อาจทำให้เราเข้าใจ และรู้สึกดีใจไปกับพวกเขา กับโอกาสที่พวกเขามีแต่เราไม่เคยได้รับ ดังนั้นการได้มีโอกาสได้เห็นชีวิตของพวกเขานั้นถือเป็นสิ่งวิเศษ