เที่ยวเกาะสวยใกล้กรุงสุดคลาสสิคที่ “สีชัง”
หากเอ่ยถึงเกาะที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพมหานครที่สุดและเดินทางได้สะดวกมากที่สุด
หลาย ๆ คนย่อมนึกถึงเกาะสีชังเป็นอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน ด้วยความที่เกาะแห่งนี้เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์คลาสสิคไร้เงื่อนไขของกาลเวลา ไม่ว่าใครก็จะต้องประทับใจกับสะพานสีขาวทอดยาวลงไปจรดท้องทะเล สวยจนปรารถนาจะหยุดเวลาไว้ ณ ที่แห่งนี้ เกาะสีชัง
อำเภอเล็กที่สุดในประเทศไทย บางคนอาจยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วอำเภอที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศไทยนั้นอยู่ที่อำเภอเกาะสีชังแห่งนี้นั่นเอง และจำนวนประชากรก็ยังไม่มากนัก แต่ถึงอย่างไรก็ดีด้วยความที่ผู้คนไม่แออัดกลับทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้สมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เงียบสงบอย่างแท้จริง และมีความโดดเด่นจากน้ำทะเลสีเขียวอมฟ้าตัดกับท้องฟ้าสีครามใส อากาศเย็นสดชื่นสมกับเป็นเกาะกลางอ่าวไทย สายลมเย็นจากทะเลพัดเอาไอแดดหอมกรุ่นมาฝาก สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
ย้อนเวลากลับสู่อดีตที่พระจุฑาธุชราชฐาน สิ่งพิเศษที่ทำให้เกาะสีชังเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์แตกต่างจากเกาะอื่น ๆ ได้แก่ พระราชวังบนเกาะแห่งเดียวของประเทศไทย นามว่าพระจุฑาธุชราชฐาน ซึ่งพระราชวังแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในช่วงสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 และพระองค์ท่านได้ใช้เป็นที่ประทับพักผ่อนตามพระราชอัธยาศัยพร้อมพระญาติ ว่ากันว่า หากผู้ใดป่วยและเลือกมาพักฟื้นที่เกาะสีชังจะทำให้อาการป่วยหายได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ทว่าด้วยเหตุการณ์ข้อพิพาทระหว่างไทยและฝรั่งเศสเมื่อสมัยรัตนโกสินทร์ศกที่ 112 จึงมีกองกำลังทหารเข้ามาปิดบริเวณอ่าวไทยและบุกขึ้นทางเกาะสีชัง ส่งผลให้การสร้างพระตำหนักหยุดชะงักลงเพียงเท่านี้
ทัศนียภาพงดงามเกินบรรยายที่สะพานอัษฎางค์ สถานที่ท่องเที่ยวอันจัดได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของเกาะสีชัง ได้แก่ สะพานอัษฎางค์และเปรียบได้กับสัญลักษณ์ของเกาะแห่งนี้ สะพานอัษฎางค์สร้างขึ้นในปีพุทธศักราช 2434 ด้วยวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธทรงหายจากพระอาการประชวร ณ ที่แห่งนี้ ทำให้ทรงดำริสร้างสะพานไม้สักสีขาว และมีศาลาทรงปั้นหยา 3 หลัง ตัวสะพานโดดเด่นด้วยสีขาวสะอาดตาตัดกับท้องฟ้าสีความเข้มและน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียว นอกจากจะมีความงดงามที่มองเห็นได้ด้วยตาแล้ว การมองทัศนียภาพจากบนสะพานไปยังปลายขอบฟ้าจรดกับน้ำทะเลก็เป็นทัศนียภาพที่งดงามเกินบรรยาย นับเป็นความงามจากการสรรค์สร้างของบรรพชนที่หลงเหลือเป็นอนุสรณ์สถานไว้ให้คนรุ่นหลัง
หอมกลิ่นลั่นทม ณ เรือนพระที่นั่ง นอกจากเกาะสีชังจะโดดเด่นด้วยสถานที่ทั้งสองแห่งตามที่แนะนำไว้ข้างต้นนี้แล้ว การเดินชมในตึกและบริเวณอาคารของพระจุฑาธุชราชฐานยังสร้างความประทับใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน บรรยากาศของที่นี่ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกลั่นทมที่ชื่นใจไปทั่วทั้งพระราชวัง จนอาจจะกล่าวได้ว่า ดอกลั่นทมคือดอกไม้แห่งเกาะสีชังที่ไม่ว่าใครได้มาเยือน ก็ต่างประทับใจในความงามและกลิ่นหอมเสน่ห์แบบไทย ๆ ที่ไม่จางไปตามกาลเวลา
สักการะวัดอัษฏางค์นิมิตร วัดแห่งเกาะสีชัง วัดอัษฏางค์นิมิตรตั้งอยู่บนยอดเขา นับเป็นศาสนสถานที่รวมจิตใจของชาวเกาะสีชัง โดดเด่นด้วยการก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมไทยที่ผสมผสานกับความเป็นตะวันตกได้อย่างลงตัว ตัวพระอุโบสถเป็นรูปทรงกลมหรือที่เรียกว่าเจดีย์ทรงลังกา แต่ทว่า การตกแต่งใช้ศิลปะแบบโกธิคของตะวันตก พร้อมกันนั้นประตูและหน้าต่างยังเป็นรูปทรงโค้งและมียอดแหลม ส่วนช่องแสงเป็นกระจกสีลวดลายสวยงาม สะท้อนให้เห็นถึงการตกแต่งตามแบบฉบับตะวันตกให้เห็นเด่นชัดเยือน
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ อีกหนึ่งสถานที่อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวเกาะสีชัง ซึ่งนักท่องเที่ยวควรหาโอกาสไปเยือนให้ได้ นั่นก็คือศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ตั้งอยู่ที่เขาคยาศิระ บริเวณศาลเจ้าสร้างในแบบฉบับของวิหารจีน ส่วนองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำ ส่วนใหญ่ผู้มาเยือนก็มักจะสักการะบูชาและขอให้มีความเจริญรุ่งเรืองค้าขายร่ำรวย สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้เข้ามาเยี่ยมเยือนที่ศาลแห่งนี้ ต่างก็รู้สึกประทับใจนั้น ก็คือการได้ชมทัศนียภาพจากมุมสูงของเกาะสีชัง และสามารถมองเห็นท่าเรือยาวลงไปในท้องทะเลสีฟ้าคราม ตลอดจนเรือโดยสารและเรือหาปลาที่จอดกันเนืองแน่นที่บริเวณหน้าท่า อีกทั้ง บ้านเรือนชาวบ้านและประภาคารก็สามารถมองเห็นเป็นจุดเล็ก ๆ นับเป็นภาพวิถีชีวิตชาวเกาะสีชังที่หาชมได้ยากยิ่ง
รอยพระพุทธบาทบนภูเขาคยาศิระ นอกจากศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่แล้ว ที่ภูเขาคยาศิระแห่งนี้ ยังมีการประดิษฐานรอยพระพุทธบาท ซึ่งได้มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 อีกด้วย เพื่อความเป็นสิริมงคลกับตนเองนักท่องเที่ยวควรหาโอกาสสักการะรอยพระพุทธบาทได้เมื่อมาเยือนที่เขาคยาศิระแห่งนี้
ที่ตั้ง : อำเภอเกาะสีชัง มีที่ตั้งอยู่ในอ่าวไทย โดยอยู่ด้านนอกชายฝั่งของอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เดิมที่ขึ้นกับจังหวัดสมุทรปราการ แต่กระทรวงมหาดไทยได้ทำการย้ายไปขึ้นกับจังหวัดชลบุรีในปี พ.ศ. 2486
ค่าโดยสารเรือไปเกาะสีชัง : 50 บาทต่อคน
ค่าเข้าชมพระราชวังพระจุฑาธุชราชฐานและสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังอื่นๆ : ไม่เสียค่าเข้าชม
การเดินทาง : เดินทางด้วยรถยนต์หรือรถประจำทางสาธารณะมายังจังหวัดชลบุรี จากนั้นเดินทางมายังเกาะสีชังด้วยการโดยสารเรือที่ท่าเรือเกาะลอยฝั่งศรีราชา เวลาการเดินทาง 45 นาที เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตรจะถึงเกาะสีชัง