ความงามระคนพิศวง ณ ทุ่งไหหิน ประเทศลาว
เมื่อเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิศวงชวนให้ฉงนแห่งประเทศลาว
ที่เหมาะสำหรับการเที่ยวชมเพื่อหาความรู้ หลาย ๆ คนจะต้องนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวอย่างทุ่งไหหินเป็นแน่แท้ สาเหตุก็เนื่องมาจากความน่าพิศวงชวนสงสัยที่ทำให้หลายต่อหลายคนปรารถนาจะค้นหาคำตอบว่า ทุ่งไหหินนี้มีที่มาจากสิ่งใดกันแน่ ซึ่งการหาคำตอบด้วยตัวของตัวเองน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ทุ่งไหหิน มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มอยู่บริเวณเชียงขวง ประกอบไปด้วยหินน้อยใหญ่รูปร่างเหมือนไหเป็นพันลูกที่กระจัดกระจายตัวอยู่ตลอดแนวทิวเขาและอยู่ล้อมรอบขุนเขาสูงตระหง่าน ตัวไหอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจีเป็นภาพชวนมอง
ความงามระคนความพิศวง ทุ่งไหหินแห่งนี้เป็นทุ่งแห่งความอัศจรรย์ด้วยไหที่ทำจากหินทรายขนาดใหญ่ ก่อให้เกิดความใคร่รู้ว่าท้องทุ่งที่เต็มไปด้วยไหรูปทรงประหลาดนี้สร้างขึ้นเพื่อสิ่งใดกันแน่ ซึ่งไม่เพียงแค่ในไหจะเป็นรูปทรงชวนสงสัยแล้ว ไหบางลูกก็ยังมีโครงกระดูกมนุษย์ บางไหพบว่ามีลูกปัดที่ลักษณะคล้ายคลึงกับลูกปัดจากประเทศจีนหรือเครื่องประดับเผ่าไทย บางไหพบรูปสำริดชาวเวียดนาม ชวนให้นักท่องเที่ยวที่ได้ไปเยือนตั้งคำถามเกี่ยวกับไหเหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
การค้นพบทุ่งไหหินอย่างบังเอิญ เนื่องจากทุ่งไหหินแต่เดิมนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักของชาวโลกเท่าใดนัก แต่ทว่าวันหนึ่งเมื่อชาวบ้านเข้าไปล่าสัตว์และหาของแปลกจากป่า จึงได้พบกับภาชนะรูปร่างดูคล้ายกับไห แต่ว่าทำด้วยหินทราย บางใบเล็ก บางใบใหญ่ และบางใบมีน้ำหนักมากถึง 15 ตัน ในขณะที่บางใบมีน้ำหนักเพียง 50 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งไหแต่ละใบก็กระจัดกระจายเต็มท้องทุ่ง ที่นี่จึงได้รับการขนานนามว่าทุ่งไหหิน นับแต่นั้นมา
ประวัติความเป็นมา ด้วยการสำรวจไหที่ทุ่งแห่งนี้ของนักประวัติศาสตร์ ทำให้พบว่าไหบางใบทำจากหินที่อยู่ในท้องถิ่น แต่ทว่าไหของที่นี่บางใบกลับมีรอยชักลากมาจากสถานที่ต่าง ๆ บางใบกลับมีลักษณะแลดูคล้ายว่ายังสลักไม่เสร็จ บางใบที่พบโครงกระดูกมนุษย์ในนั้น ทำให้นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าเป็นไหที่ใช้ในการประกอบพิธีศพ สำหรับลูกปัดต่าง ๆ นั้น นักวิชาการลงความเห็นว่าเผ่าที่สร้างไหต่าง ๆ เหล่านี้น่าจะมีความเจริญมากพอสมควร ซึ่งอาจจะเป็นฝีมือของชาวจามที่อยู่ในเวียดนาม หรืออาจจะ
ไหหินที่ไม่ควรพลาดชม สำหรับไหหินในทุ่งนี้แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ซึ่งกลุ่มแรกจะอยู่ห่างจากเมืองโพนสะหวันไปทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นช่วงระยะทางราว 5 กิโลเมตร ในทุ่งแห่งนี้ พบว่ามีไหกระจายเต็มท้องทุ่งราว 200 ใบ ขนาดโดยรวมของไหใหญ่กว่าไหกลุ่มอื่น ๆ ส่วนไหที่ขนาดใหญ่น่าทึ่งมากที่สุดนั้น ตั้งอยู่ที่เนินเขาโดยหันปากไหไปที่บริเวณสนามบินทุ่งไหหิน สันนิษฐานว่าการตั้งปากไหไปในทิศทางดังกล่าวอาจจะมีความหมายใดแอบแฝงอยู่ก็เป็นได้ ทั้งนี้ การชมทุ่งไหหินที่บริเวณนี้นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมความพิศวงของไหขนาดใหญ่แล้ว ยังได้ชมทัศนียภาพตระการตาของสถานที่ในละแวกใกล้เคียง ซึ่งสามารถมองเห็นสนามบินทุ่งไหหินและตัวเมืองโพนสะหวัน นับเป็นภาพที่หาชมได้ยากยิ่ง
เยือนถ้ำแห่งประวัติศาสตร์ ยุคสงคราม ในบริเวณไม่ไกลกัน นักท่องเที่ยวจะแลเห็นถ้ำแห่งหนึ่งที่มีรูปทรงคล้ายกับปล่อง สูงประมาณ 60 เมตร ซึ่งภายในถ้ำไม่ลึกมากเท่าใดนัก แต่ว่าสามารถรองรับผู้คนได้ถึง 60 คน เชื่อกันว่า ถ้ำนี้เคยเป็นที่สำหรับหลบภัยสงครามที่ชาวเมืองเชียงขวางหลบหนีมาพำนักที่นี่ระหว่างเกิดระเบิดขึ้น บางฝ่ายสันนิษฐานว่าที่แห่งนี้อาจเป็นที่เก็บอาวุธ ซึ่งจำเป็นมากในยามสงคราม เนื่องจากว่ามีร่องรอยการขุดสนามเพลาะรายล้อมรอบทุ่งไหหิน โดยเชื่อว่าจุดประสงค์ในการขุดนั้นมาจากการป้องกันเครื่องบินทิ้งระเบิดนั่นเอง ทั้งยังพบหลุมระเบิดหลายหลุมอีกด้วย
ไหหินภูสลาโต สำหรับไหหินกลุ่มที่สองนั้น นิยมเรียกกันว่า “ไหหินภูสลาโต” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางใต้ของเมืองโพนสะหวันราว 25 กิโลเมตร และความกว้างของทุ่งไหหินแห่งนี้ครอบคลุมไปทั่วทั้งเนินเขา 2 ลูก ยามที่มองมาจากมุมสูงจะเห็นได้ชัดเจนถึงจำนวนไหที่กระจัดกระจายราว 94 ใบ
ไหหินลาดค่าย สำหรับไหหินกลุ่มที่สามนี้เป็นไหหินลาดค่ายที่อยู่ห่างจากไหหินกลุ่มที่สองมาประมาณ 10 กิโลเมตร โดยในทุ่งนี้มีไหหินจำนวนมากที่กระจายตัวอยู่ นับรวมแล้วได้ 150 ใบ เมื่อมองลงมาจากบริเวณจุดชมวิวของสถานที่แห่งนี้จะเห็นที่ราบของทุ่งนาเขียวขจีแห่งหมู่บ้านเชียงดีได้อย่างชัดเจน สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับนักท่องเที่ยวด้วยทัศนียภาพสวยงามและอากาศสดชื่นเกินบรรยาย
การเดินทาง: นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถโดยสารจากหมอชิตไปยังหนองคาย จากนั้นต่อรถเพื่อไปแขวงเชียงขวาง รถจะจอดที่เมืองโพนสะหวัน จากจุดนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถรับจ้างเพื่อไปยังทุ่งไหหินได้ตามต้องการ หรือจะเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงเทพมหานครไปเวียงจันทร์แล้วนั่งเครื่องบินในประเทศลาวต่อเพื่อไปยังเมืองเชียงของก็สะดวกไม่แพ้กัน
ที่ตั้ง: ทุ่งไหหินตั้งอยู่ห่างจากเมืองโพนสะหวัน ในแขวงเชียงขวาง ประเทศลาว เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 – 17.30 น. และมีค่าบริการเข้าชมท่านละ 10,000 กีบ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่เพียงหลงใหลในความงดงามที่ชวนพิศวง พร้อมทั้งต้องการรับรู้ถึงประวัติศาสตร์ในช่วงสงคราม การเดินทางไปยังทุ่งไหหินจะมอบประสบการณ์อันมีค่าได้ไม่แพ้การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่ใด ๆ ในโลกเลยทีเดียว.