สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่าย สโลว์ไลฟ์ที่ปาย

ปายเป็นอำเภอเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ที่ภาคเหนือของประเทศไทย ความสูงตระหง่านของขุนเขาแห่งนี้โอบล้อมอำเภอปายด้วยบรรยากาศแสนสดชื่นที่ไม่ว่าใครได้สัมผัสก็ย่อมประทับใจอย่างแน่นอน
เมืองเล็กๆแห่งนี้ก็เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของขุนเขาสำหรับผู้ที่ถวิลหาธรรมชาติแห่งเมืองเหนือ การเลือกไปเที่ยวปายนับเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มความสนุกให้กับการท่องเที่ยวเมืองปายเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์มากกว่าเดิม การเลือกแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจคืออันดับแรกที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาด
Coffee in Love: ร้านกาแฟ Coffee in Love เป็นร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเมืองปายและจัดได้ว่าเป็นแลนด์มาร์ค ของปายอีกด้วย จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือการเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดัง นอกจากจะมีการขายกาแฟและขนมแล้วยังมีการขายบรรยากาศที่แสนสวย ด้วยการสร้างมุมถ่ายรูปสำหรับคนรักการโพสต์โซเชียลนั่นเอง อย่างเช่นมุมเด่นที่พลาดไม่ได้เลยกับการถ่ายรูปเซลฟี่คู่กับป้าย Coffee in love ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหลักกิโลขนาดใหญ่ยักษ์เกือบเท่ากับความสูงของเรา ซึ่งเป็นมุมที่นักท่องเที่ยวต่างเลือกเก็บภาพเป็นที่ระลึก และนับว่าป้ายนี้เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการปักหมุดว่ามาถึงเมืองปายแล้ว นอกจากนี้ จุดเด่นของ Coffee in Love คือการคัดสรรค์แต่เมล็ดกาแฟชั้นยอด เพื่อผู้รักการดื่มกาแฟโดยเฉพาะ สำหรับคนที่รักการถ่ายภาพนั้น
สะพานข้ามแม่น้ำปาย: สำหรับสะพานข้ามแม่น้ำปายนั้นถือเป็นอีกจุดหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับการถ่ายรูปคู่ด้วยไม่น้อย ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับอำเภอปายประมาณ 10 กิโลเมตร หากจะกล่าวว่าสถานที่นี้เป็นหน้าด่านเมืองปายก็คงไม่ผิดนัก ลักษณะของสะพานมีความคล้ายคลึงกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว โดยจุดที่สร้างสะพานเมืองปายนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์นับแต่ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งกองทัพญี่ปุ่นได้ใช้เป็นทางเดินทัพนับจากเชียงใหม่ลงมายังอำเภอปายจนกระทั่งถึงประเทศพม่า แต่แรกนั้นสะพานข้ามแม่น้ำปายเป็นสะพานไม้ที่สร้างขึ้นเพื่อการสงครามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทว่าหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองได้จบลงก็ทำให้ทหารญี่ปุ่นถอยทัพกลับและเผาสะพานนี้ทิ้งไปเสีย แต่ด้วยความต้องการอนุรักษ์สะพานข้ามแม่น้ำปาย ทำให้ชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ในการสัญจร เมื่อมาถึงปีพ.ศ. 2516 ก็ได้เกิดอุทกภัยจนทำให้สะพานถูกน้ำพัดหายไป และทางอำเภอจึงได้ริเริ่มก่อสร้างเป็นสะพานเหล็ก และตั้งชื่อว่า สะพานประวัติศาสตร์ท่าปายมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหากนักท่องเที่ยวได้ไปเยือนที่แห่งนี้ ก็จะสังเกตเห็นว่ามีสะพานปูนอยู่ใกล้ ๆ กัน และสะพานแห่งนี้ก็ยังคงเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษเช่นเคย

หมู่บ้านจีนฮ่อ: หมู่บ้านจีนฮ่อแห่งนี้มีครบถ้วนทั้งตลาดชิมชาและอาหารจีนฮ่อแท้ๆ ที่นำมาวางจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้หมุนเวียนเข้ามาลองลิ้มชิมรสได้อย่างไม่จำกัดเมนู สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเลือกซื้อของฝากที่ระลึกกลับไปให้คนที่ตัวเองรัก ก็สามารถซื้อของฝากรสชาติดีได้ที่หมู่บ้านแห่งนี้ เนื่องจากมีทั้งชา, ผลไม้ดองและผลไม้แปรรูปต่าง ๆ ให้เลือกสรรค์มากมาย
โป่งน้ำร้อนท่าปาย: โป่งน้ำร้อนแห่งนี้สามารถเข้าถึงได้จากทางบ้านท่าปาย ซึ่งทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นทิวทัศน์ธรรมชาติ และถนนลาดยางรองรับการขับขี่ของพาหนะทุกชนิด โดยสภาพของโป่งน้ำร้อนแห่งนี้จะมีควันกรุ่นออกมาตลอดเวลาและมีน้ำเดือดอยู่เสมอ ทั้งนี้ บริเวณที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความร้อนได้พอประมาณก็คือบริเวณน้ำร้อนไหลเอื่อยเรื่อยรินซึ่งจะมีอุณหหภูมิของน้ำร้อนอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเซลเซียสและบริเวณโดยรอบยังคงไว้ซึ่งป่าไม้สักที่อุดมสมบูรณ์อย่างครบถ้วน นับเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง นอกจากนี้การมาเยือนเมืองปายยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวควรสัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง เพื่ออิ่มเอมไปกับวิถีชีวิตของคนเมืองปายและธรรมชาติบริสุทธิ์ที่จะเติมเต็มช่วงเวลาวันหยุดพักผ่อนให้สดใสอย่างแท้จริง เช่น
ปั่นจักรยานชมเมือง: กิจกรรมลำดับที่หนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาถึงเมืองปายก็คือการปั่นจักรยานเสือภูเขาในเส้นทางที่ลัดเลาะไปตามโค้งต่าง ๆ สองข้างทางของเส้นทางปั่นจักรยานสวยงามชวนให้ประทับใจ โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศสดชื่นและพืชพรรณเขียวสดสะพรั่งสุดลูกหูลูกตา โดยเฉพาะช่วงเขตต่อกันระหว่างอำเภอแม่แตงและอำเภอปายนั้นสวยงามชวนประทับใจเป็นอย่างยิ่ง นอกจากจะแวะชมความงามที่เรียงรายตลอดทางแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถปั่นจักรยานแวะชมความงามของวิถีชีวิตคนเมืองปายที่ยังดำรงความเรียบง่ายในบรรยากาศท่ามกลางขุนเขาไว้ได้เป็นอย่างดี
นั่งช้าง: การชมความงามของธรรมชาติที่ดีที่สุดก็คือการได้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติในวิถีดั้งเดิมเช่น การนั่งช้างซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อบริเวณปางช้างบ้านท่าปายที่อยู่ไม่ไกลจากปายฮอทสปริงรีสอร์ท หรือสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากป้ายบอกทางไปน้ำพุร้อนบ้านท่าปายนั่นเอง

ล่องแก่ง: การล่องแก่งจะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความสนุกตื่นเต้นระทึกใจไปกับกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากบนแม่น้ำปาย อันมีแหล่งกำเนิดมาจากเทือกเขาถนนธงชัย สำหรับระยะทางในการล่องแก่งนั้นมีความยาวรวมทั้งสิ้น 50 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสนุกและความสวยงามที่มาพร้อมๆ กัน หากนักท่องเที่ยวคนใดต้องการล่องแก่งควรเลือกมาที่นี่ในช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากเป็นช่วงที่มีน้ำมากพอสำหรับการล่องแก่งนั่นเอง
การเดินทางมาเยือนปาย นักท่องเที่ยวควรเลือกใช้บริการรถโดยสารเนื่องจากเส้นทางค่อนข้างลาดชันและไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ชำนาญทาง โดยสามารถต่อรถจากเชียงใหม่มายังปายได้ที่สถานีขนส่งอาเขต ซึ่งจะมีรถให้บริการตรงมายังอำเภอปาย ทั้งนี้ไม่มีค่าบริการในการเข้าชมเมืองปาย แต่จะมีคิดค่าบริการกรณีล่องแก่งที่ 600 บาทต่อลำและค่าบริการนั่งช้างที่ 500 บาทต่อชั่วโมง สำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยขุนเขาและอากาศที่เย็นจัด สภาพวิถีชีวิตเรียบง่าย การเลือกปายเป็นจุดหมายการเดินทางในวันหยุดครั้งต่อไปคือสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดมากที่สุด