ทวนเข็มนาฬิกา ย้อนรอยความเจริญย่านบางแค

สำหรับคนที่อยู่ในย่านใจกลางกรุงฯ เมื่อนึกถึงตลาดบางแคแล้ว รู้สึกว่ามันช่างอยู่ไกลแสนไกลเหลือเกิน แต่หลังจากที่บริการรถไฟฟ้า BTS เปิดให้บริการถึงสถานีบางหว้าแล้ว การเดินทางก็สะดวกขึ้น และก็คงจะสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก
หลังจากเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่วิ่งระหว่าง หัวลำโพง–บางแค ในอนาคตอันใกล้นี้
เขตบางแคนั้น เป็น 1 ใน 50 เขตการปกครองของกรุงเทพมหานคร ที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่ 2 รองจากเขตสายไหม มีทำเลอยู่ในกลุ่มเขตกรุงธนใต้ ซึ่งเป็นเขตเกษตรกรรมผสมผสานแหล่งที่อยู่อาศัย สภาพแวดล้อมโดยรวมยังคงบรรยากาศบ้านสวนริมน้ำอยู่ไม่น้อย สอดคล้องตามคำขวัญประจำเขตที่ว่า “ลำคลองสี่ทิศ แหล่งเศรษฐกิจใหม่ สุขใจบ้านบางแค งามแท้สวนเพชรกาญจนารมย์ ชมวิถีเกษตรพอเพียง ”
บรรยากาศบ้านสวนริมน้ำของบางแคนั้น จะซ่อนสายตาอยู่หลังแนวอาคารพาณิชย์สองฟากถนนเพชรเกษม ต้องเดินเท้าลงไปสำรวจจึงจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ว่าไว้ตามคำขวัญ สำหรับจุดน่าสนใจที่อยากแนะนำให้ไปเดินซอกแซกกันในเที่ยวนี้ ต้นทางอยู่ไม่ไกลจากหน้าตลาดบางแค เท่าไรนัก
จุดเริ่มต้นอยู่ตรงบริเวณเชิงสะพานข้ามคลองคลองราชมนตรีริมถนนเพชรเกษม ช่วงก่อนจะข้ามไปตลาดสดบางแค ข้างแนวห้องแถวไม้เก่าแก่จะเป็นตรอกเล็กๆ ด้านขวามือจะเป็นห้องแถวไม้เลียบคลอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านตัดเย็บเสื้อผ้าและร้านทำผมที่ยังคงตกแต่งร้านแบบดั้งเดิมเหมือนสมัยเมื่อ 30-40 ปีก่อน ได้บรรยากาศย้อนยุคแบบไม่มีการจัดฉากใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นวิถีดั้งเดิมที่ยังคงลมหายใจมาได้จวบจนปัจจุบัน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมีทำเลติดถนนใกล้ตลาดสด ก็เลยทำให้สามารถทำมาค้าขายกันได้เรื่อยๆ

ส่วนที่เป็นร้านค้าดั้งเดิมในตรอกนี้ จะมีเป็นระยะทางยาวสักประมาณ 100 เมตรเห็นจะได้ เดินพ้นออกไปก็จะเจอพื้นที่โล่งริมคลองบริเวณหน้าโรงเรียนนิมมานนรดี มองเห็นแถวเรือนไม้เก่าแก่อยู่อีกฝั่งคลองทางขวามือ ซึ่งมีหลายสะพานให้สามารถเดินข้ามไปยังอีกฝั่งได้ แต่ไม่สามารถเดินไปได้ตลอดรอดฝั่งคลองเหมือนอย่างทางฝั่งคลองด้านซ้าย
เดินตรงไปข้างหน้าอีกแค่ 5 นาที ก็จะพบกับวัดนิมมานนรดี หรือวัดบางแค ที่เคยเรียกขานกันในอดีต ตามหลักฐานในจดหมายเหตุบันทึกไว้ว่า สร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น รัชกาลที่ 1 ประมาณปี พ.ศ. 2350 เคยเป็นวัดหัวเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมากวัดหนึ่งในยุคนั้น
สภาพโดยรวมของวัดนิมมานนรดีในปัจจุบัน แทบจะไม่ได้มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่หลงเหลือให้ชมอีกแล้ว แต่เป็นวัดที่โดดเด่นแห่งหนึ่งในย่านบางแค โดยเฉพาะช่วงวันลอยกระทง เพราะมีทำเลอยู่ตรงปากคลองราชมนตรีและคลองภาษีเจริญ
เมื่อเดินมาถึงวัดแห่งนี้แล้ว สิ่งที่น่าสนใจสุดๆ เหมาะแก่การเดินซอกแซกยืดเส้นกันต่อไป ก็คือบริเวณเรือนแถวไม้เก่าแก่ริมน้ำคลองภาษีเจริญบนฝั่งตรงกันข้าม ซึ่งมีสะพานปูนเก่าแก่ให้เดินข้ามไปได้
ช่วงประมาณปีพ.ศ.2533 ชาวชุมชนเคยรวมตัวกันเปิด ตลาดน้ำวัดนิมมานรดี ให้เป็นตลาดน้ำอีกแห่งในเขต กทม. โดยสร้างจุดขายให้เป็นตลาด 5 แผ่นดิน ร.ศ.102 เพื่อพลิกฟื้นวิถีเกษตร ย่านบางแคและคลองภาษีเจริญ แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าทีควร และเมื่อโดนซ้ำเติมด้วยมหาอุทกภัยในปี 2554 ตลาดโบราณแห่งนี้ก็เลยมีแต่ความเงียบเหงาตั้งแต่ช่วงหลังน้ำลดมาจวบจนปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี ในความเงียบเหงานั้นก็ยังพอมีความงามในความเก่าแก่ให้ได้เดินซอกแซกชมกันพอสมควร ก็ได้อรรถรสไปอีกแบบ เหมือนได้กลับเดินย้อนยุคในฉากหนังไทยสมัยเมื่อ 50 ปีก่อน อาจจะไม่มีผู้คนเดินไปมาหรือค้าขายทางเรือให้เห็นกันอย่างคึกคัก แต่ตลาดเก่าแก่ริมน้ำแห่งนี้ก็ยังพอมีลมหายใจของผู้คนพื้นถิ่นให้ได้ค้นหาอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นร้านขายชาเย็น ร้านทำขนมเปี๊ยะสูตรดั้งเดิม ไปจนถึงก๋วยเตี๋ยวเรือขนานแท้ที่จะแวะเวียนมาให้บริการกันในบางช่วงบางเวลา

ในสมัยอดีตนั้น คลองภาษีเจริญ เป็นเส้นทางการค้าสำคัญเชื่อมระหว่างปากคลองบางกอกใหญ่ไปออกแม่น้ำท่าจีน แถวๆ ตำบลดอนไก่ดี จังหวัดสมุทรสาคร เป็นเส้นทางที่ขุดขึ้นโดยเงินภาษีฝิ่นพระราชทานจำนวน 112,000 บาท ในระหว่างสมัยรัชกาลที่ 4 เคยเป็นเส้นทางการค้าที่คึกคักและสำคัญยิ่งในยุคที่แม่น้ำคูคลองเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักในบางกอก
ปัจจุบัน ร่องรอยความรุ่งเรื่องทางการค้าในอดีตที่ยังพอมีหลงเหลือให้เห็นในย่านตลาดเก่าริมคลองภาษีเจริญแห่งนี้ ก็คือโรงไม้เก่าแก่ที่ถูกทิ้งร้าง และเรือนแถวไม้กลุ่มใหญ่ ที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัส ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะคงอยู่กันได้อีกนานแค่ไหน เมื่อความเจริญเริ่มคืบคลานเข้ามาในย่านนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ใครที่อยากเห็นรากเหง้าความเจริญในย่านตลาดบางแค ย้อนกลับไปสัมผัสกับบรรยากาศน่าถวิลหาในสมัยก่อนมีถนนเพชรเกษม คงต้องลองหาโอกาสไปเดินซอกแซกย่านริมน้ำวัดนิมมานนรดีดูสักครั้ง แม้ว่าวันนี้จะไม่มีตลาดน้ำ แต่ก็รับรองว่าได้ไปเยือนแล้ว…คุ้มค่าคุ้มเวลาแน่นอน.