เยือนถิ่นช้างไทย ณ หมู่บ้านช้างสุรินทร์

เยือนถิ่นช้างไทย ณ หมู่บ้านช้างสุรินทร์
“ช้าง” ถือเป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำประเทศไทย มีความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะในฐานะสัตว์มงคลที่ร่วมรบกับทหารกล้าของไทยในอดีต หรือสัตว์คู่บ้านคู่เมือง โดยเมื่อพูดถึงช้างไทยแล้วนับเป็นสัตว์ที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยากมาสัมผัสตัวจริงให้ได้สักครั้ง รวมถึงการสนใจซื้อสินค้าของฝากที่มีสัญลักษณ์รูปช้างกลับไปเสมอ ๆ
และสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้ชาวต่างชาติได้สัมผัสกับช้างอย่างใกล้ชิด หากไม่นับปางช้างที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว จังหวัดสุรินทร์ดินแดนแห่งอีสานใต้ ถือเป็นปลายทางสำคัญของคนรักช้าง เพราะนอกจากจะไม่ได้เห็นแค่เพียงการแสดงความสามารถของช้างไทยเท่านั้น แต่ยังได้เห็นถึงความผูกพันของคนกับช้างที่เมืองแห่งนี้อีกด้วย

หมู่บ้านช้าง ณ บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ห่างจากตัวเมืองจังหวัดสุรินทร์ไปทางทิศเหนือประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องช้าง ของภาคอีสาน ภาพที่เห็นในหมู่บ้านแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไว้เพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ช้างสำหรับหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเสมือนอีกหนึ่งสมาชิกของครอบครัว บรรดาช้างทั้งหลายสามารถนอนร่วมชายคาเดียวกับคนได้ ซึ่งเป็นความเชื่อที่สืบต่อกันมาของชาวส่วยโบราณ หรือชาวกวย (กูย) ที่ทุกบ้านต้องเลี้ยงช้างเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับบ้านเรือนของตนมาตั้งแต่อดีต ทำให้วันนี้ บ้านตากลาง ที่เลี้ยงช้างแทบทุกหลังคาเรือน กลายเป็นหมู่บ้านเลี้ยงช้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จึงไม่แปลกใจเมื่อเดินไปตามบ้านเรือนของชาวบ้านละแวกนี้จะสามารถสัมผัสช้างได้อย่างใกล้ชิด ได้ขี่ช้าง และได้เห็นควานช้างพาช้างลงไปอาบน้ำเล่นน้ำที่บริเวณวังทะลุ หรือจุดที่แม่น้ำมูลกับแม่น้ำชีไหลมาบรรจบกันอีกด้วย
ชาวบ้านในหมู่บ้านเลี้ยงช้างแห่งนี้ มีความเชี่ยวชาญในการคล้องช้าง เลี้ยงช้าง และฝึกหัดช้าง ซึ่งช้างที่ชาวบ้านคล้องได้นั้น เป็นช้างที่อยู่บริเวณชายแดนเขตรอยต่อกับประเทศกัมพูชา ที่ถึงแม้ปัจจุบันปัญหาความตึงเครียดแนวชายแดนจะทำให้ชาวบ้านไม่สามารถเดินทางเข้าป่าเพื่อไปคล้องช้างในบริเวณนั้นได้เช่นเดิม จากที่ออกไปคล้องช้างปีละ 2 – 3 ครั้ง แต่ก็ไม่ทำให้วิถีชีวิตของคนที่นี่เปลี่ยนไปเท่าใดนัก เนื่องจากชาวบ้านยังคงเลี้ยงช้าง และฝึกช้างเพื่อโชว์ เพื่อเข้าร่วมการแสดงในงานประจำจังหวัดทุกปีเช่นเดิม ควบคู่ไปกับการทำเกษตรกรรม ได้อย่างมีความสุข
ศูนย์กลางของช้างที่บ้านตากลาง อยู่ที่ศูนย์คชศึกษา ซึ่งเป็นศูนย์รวมของสมาชิกช้างทั้งในบ้านตากลาง และหมู่บ้านอื่น ๆ กว่า 200 ตัว ซึ่งช้างแต่ละตัวต่างเป็นช้างแสนรู้ ไม่ดุร้าย สามารถเข้ากับคนทั่วไปได้ง่าย ภายในศูนย์คชศึกษาแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับการแสดงโชว์ของช้าง ที่ทำการแสดงให้ชมวันละ 2 รอบในช่วง 10.00 น. และ 14.00 น. และหลังการแสดงจริงอาจได้เห็นการซ้อมทำกิจกรรมของช้าง อย่างการฝึกหัดวาดรูป การซ้อมแสดงโชว์ต่าง ๆ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับช้าง ไม่ว่าจะเป็นบอร์ดความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับช้าง อาทิ ความเป็นมาของช้างในจังหวัดสุรินทร์ การจับช้างในสมัยก่อน ลักษณะของช้างที่มีลักษณะดี เป็นต้น โครงกระดูกช้างของจริง และอุปกรณ์เครื่องใช้ของหมอช้างในอดีต อย่างหนังปะกำ รวมถึงมีศาลปะกำ ซึ่งเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ของผู้เลี้ยงช้างที่ตามธรรมเนียมโบราณก่อนออกไปคล้องช้าง จะต้องทำพิธียังศาลปะกำแห่งนี้ก่อนทุกครั้งตั้งอยู่ด้วย นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมายังศูนย์คชศึกษาสามารถเดินทางมาได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ค่าธรรมเนียมในการเข้าชม ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท และนักเรียนในเครื่องแบบ 10 บาท ส่วนชาวต่างชาติ 100 บาท

การเดินทางมายังหมู่บ้านช้างสุรินทร์ สำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองจังหวัดสุรินทร์ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 214 ไปอำเภอท่าตูม จนถึงหลักกิโลเมตรที่ 36 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงชนบท สร 3027 หรือบ้านหนองตาด ประมาณ 22 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาผ่านโรงเรียนบ้านบะ และอบต.กระโพ และเลี้ยวขวาที่วัดโพธิ์ทอง จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปอำเภอสตึก ผ่านบ้านจินดา และเลี้ยวซ้ายผ่านโรงเรียนบ้านตากลาง ตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะพบกับศูนย์คชศึกษาบ้านตากลาง ส่วนการเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง สามารถขึ้นรถสองแถวสายสุรินทร์ – กระโพ จากสถานีขนส่งจังหวัดสุรินทร์ได้ โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 50 บาทต่อคน หรือสามารถนั่งรถแท็กซี่จากสถานีขนส่งฯเพื่อไปยังศูนย์คชศึกษาก็ได้เช่นกัน โดยค่าโดยสารประมาณ 700 บาท
ความสำคัญของช้างไทยและคุณค่าความผูกพันทางวัฒนธรรมประเพณีนั้น ไม่เพียงแค่จังหวัดสุรินทร์เท่านั้น แต่หลายๆ พื้นที่ในประเทศไทยต่างก็มีความผูกพันกับช้างมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากบางพื้นที่ที่มีการแห่นาคด้วยช้าง เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามหากพูดถึงความเหนียวแน่นทางประเพณี และธรรมเนียมที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น คงไม่มีที่ใดในประเทศไทยเทียบเท่าเมืองสุรินทร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นประเพณีกราบไหว้ศาลปะกำประจำตระกูล ประเพณีลอดท้องช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล ธรรมเนียมข้อปฏิบัติของหมอช้างที่สืบทอดกันมาอย่างเคร่งครัด ดังนั้นหากใครที่ชอบช้างไทยและอยากสัมผัสใกล้ชิดกับช้างและวิถีชีวิตความเป็นอยู่แล้วล่ะก็ หมู่บ้านช้างจังหวัดสุรินทร์ ดูจะสร้างความทรงจำและความประทับใจให้นักท่องเที่ยวเช่นคุณไม่มากก็น้อย.