พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน

พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน ย้อนวันวานผ่านของสะสม
จะมีชาวต่างชาติสักกี่คนที่จะเป็นที่รู้จักและยกย่องของคนในชาติบ้านเมืองอื่นนอกจากบ้านเมืองของตัวเอง ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่ผ่านมามีชาวต่างชาติหลายคนที่เข้ามาพัฒนา ให้ความรู้ และวิทยาการที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยให้เจริญมากขึ้น ทำให้ชื่อเสียงของคนเหล่านั้นได้ถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ผ่านตำราเรียน รูปปั้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ หรือแม้แต่ภาพยนตร์ เช่นเดียวกันกับชาวอเมริกันที่ได้มองเห็นถึงคุณค่าของศิลปหัตถกรรมไทยอย่างผ้าไหมไทย จนพัฒนาให้เป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วโลก และบ้านเรือนไทยของเขาผู้นี้ปัจจุบันได้กลายเป็น “พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวกลางกรุง ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ต่างสนใจเข้ามาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย

พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน หรือ The Jim Thompson House เป็นบ้านเรือนไทยเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ของจิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) หรือชื่อเต็มว่า เจมส์ แฮร์ริสัน วิลสัน ทอมป์สัน (James Harrison Wilson Thompson) ตั้งอยู่ภายในซอยเกษมสันต์ 2 ถนนพระรามที่ 1 กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสนามกีฬาแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์บ้านไทยฯ นี้ ภายในจะพบกับบ้านเรือนไทยไม้สักจำนวน 6 หลัง ซึ่งมาจากการซื้อต่อจากเจ้าของเดิมหลายที่ในประเทศไทย จากนั้นนำชิ้นส่วนของบ้านย้ายมาปลูกใหม่ยังที่ตั้งปัจจุบัน โดยสร้างแล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2502 บริเวณด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์บ้านไทยฯ เป็นร้านอาหารที่มีการจัดตกแต่งและบรรยากาศแบบไทย ในชื่อ Jim Thompson Restaurant and Wine Bar ส่วนรอบๆ พื้นที่เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับที่สวยงาม ส่วนตัวบ้านเป็นที่เก็บรวบรวมของสะสม
ของสะสมภายในพิพิธภัณฑ์บ้านไทยฯ ประกอบไปด้วยของจำพวกเครื่องกระเบื้องเคลือบ ทั้งเครื่องใช้กระเบื้องจีนสมัยราชวงศ์ซ่ง เครื่องลายครามสมัยราชวงศ์หมิง เครื่องเคลือบลพบุรี เครื่องเคลือบเบญจรงค์และเครื่องเคลือบลายน้ำทองเขียนลายไทย ที่ล้วนแล้วเป็นของเก่าที่หาได้ยากยิ่ง นอกจากนี้ยังมีศิลปวัตถุที่เก่าแก่อื่น ๆ อาทิ พระพุทธรูปสมัยอยุธยา ฉากไม้แกะสลักสมัยรัตนโกสินทร์ รูปไม้แกะสลักแบบพม่า ภาพจิตรกรรมโบราณที่มีเนื้อหาในเชิงศาสนา และพระบฏผืนผ้าบูชาที่เป็นผืนผ้าฝ้ายเขียนลายใช้สำหรับแขวนในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีของสะสมอื่น ๆ อย่างบ้านหนู และแผนที่อาณาจักรสยามและประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นผลงานของชาวฝรั่งเศสในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 อีกด้วย
จิม ทอมป์สัน ถือเป็นผู้ที่บุกเบิกอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยเริ่มมาจากในปีพ.ศ.2489 จิม ทอมป์สัน ได้ปลดประจำการจากกองทัพทหารสหรัฐที่อยู่ในเมืองไทย ทว่าเขายังคงต้องการอยู่ในเมืองไทย และระหว่างนั้นเขาได้เดินทางไปยังที่ต่างๆในภาคอีสาน ซึ่งได้ไปเห็นการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และทอผ้าของชาวบ้าน ครั้นได้สัมผัสกับผ้าไหมไทยที่เป็นงานหัตถกรรมในทุกขั้นตอนก็รู้สึกสนใจ จึงได้วางแผนที่จะฟื้นฟูการทอผ้าไหมไทยอย่างจริงจัง หลังจากกิจการทอผ้าซบเซาจากภาวะของสงคราม เพราะเชื่อว่าจะต้องเป็นที่นิยมในวงกว้างอย่างแน่นอน หลังจากนั้นจึงได้รวบรวมตัวอย่างของผ้าไหมไทยเท่าที่หาได้ ศึกษาตัวอย่าง ทำความรู้จักกับเหล่าช่างทอ และศึกษาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมทอผ้าไปด้วย ตลอดจนนำเสนอความประณีตสวยงามของผ้าไหมไทยให้กับบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นชั้นนำจากต่างประเทศได้รู้จัก
ต่อมาในปี พ.ศ.2491 จิม ทอมป์สันได้ก่อตั้งบริษัท และสนับสนุนให้ชาวบ้านทอผ้า จากนั้นเขาจะเข้าไปรับซื้อ ให้คำแนะนำ กระทั่งชาวบ้านที่ทอผ้านั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และธุรกิจผ้าไหมไทยในประเทศไทยก็เริ่มเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้จิม ทอมป์สัน จึงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประถมาภรณ์ช้างเผือก อันเป็นเรื่องราชฯที่พระราชทานให้กับชาวต่างชาติที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยนั่นเอง

สำหรับพิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน เป็นที่นิยมของบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย เนื่องจากภายในพิพิธภัณฑ์มีการบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาผ่านตัวหนังสือในหลายภาษา ซึ่งสะดวกกับผู้เข้าชม และมีนิทรรศการทางศิลปะที่น่าสนใจมาแสดง ณ หอศิลป์ภายในเป็นระยะ ๆ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่อยู่ใจกลางเมืองเดินทางได้สะดวก โดยสามารถใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีลม ลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ (W1) ใช้ทางออกที่ 1 จากนั้นเดินเข้ามายังซอยเกษมสันต์ 2 อีกประมาณ 200 เมตร ซึ่งจะพบพิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สันอยู่ทางซ้ายมือสุดซอย สถานที่แห่งนี้เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. การเข้าชมภายในบ้านจะต้องมีมัคคุเทศก์นำชม โดยมัคคุเทศก์จะนำชมรอบสุดท้ายที่เวลา 18.00 น. ส่วนค่าธรรมเนียมในการเข้าชมผู้ใหญ่ 150 ต่อคน นักเรียน-นักศึกษาที่อายุไม่เกิน 22 ปี 100 บาทต่อคน
แม้ทุกวันนี้ ยังคงเป็นปริศนาสำหรับการหายตัวไปอย่างไร้ร่องลอยของจิม ทอมป์สัน หลังไปพักผ่อนตากอากาศที่ประเทศมาเลเซีย ทว่าเรื่องราวของการทุ่มเทสร้างสรรค์ปลุกปั้นอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยให้กลับมามีชีวิตชีวา และเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกของเขานั้นจะกลายเป็นตำนานที่เล่าขานให้กับคนรุ่นหลังต่อไป รวมถึงมรดกอันทรงคุณค่าที่ยากต่อการประเมินราคาอย่างบ้านเรือนไทย และศิลปวัตถุที่เก่าแก่ งดงาม ของเขานั้น ยังกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนรู้ในแง่ประวัติศาสตร์และศิลปะ อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบความงามแห่งศิลปะ หรืออยากรู้ว่าเหตุใดชาวต่างชาติถึงสนใจพิพิธภัณฑ์บ้านไทยฯนัก ก็สามารถมาหาคำตอบได้ ณ ที่แห่งนี้.