“ซาปา” แดนหิมะแห่งอาเซียน !
หากใครกำลังคิดว่าอยากจะไปสัมผัสกับหิมะดูสักครั้ง แต่ติดอยู่ตรงที่ประเทศที่มีหิมะนั้นอยู่ไกล
ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าครองชีพก็สูงตามไปด้วย ถ้าอย่างนั้นแล้วลองมองประเทศใกล้ ๆ ในภูมิอาเซียนดูดีไหม อย่างเมืองซาปาของประเทศเวียดนามซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของคนไทย เพราะนอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจสไตล์ธรรมชาติแล้ว ยังเป็นเมืองที่อากาศดีและมีหิมะตกอีกด้วย
ซาปา (Sa Pa) เป็นเมืองที่มีลักษณะเป็นหุบเขา อยู่บนระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,650 เมตร ทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ซาปาอยู่ในเขตจังหวัดลาวไค ทางทิศเหนือของประเทศเวียดนาม ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 350 กิโลเมตร เป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับชายแดนประเทศจีน ด้วยอากาศที่เย็นตลอดปี ทำให้ซาปานั้นสามารถเพาะปลูกพืชเมืองหนาวได้ดี ทำให้เป็นศูนย์กลางของแหล่งเพาะปลูกในภูมิภาคนี้ ปัจจุบันมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 37,000 คน และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์มากที่สุดในเวียดนาม ซึ่งในเวลาเช้าตรู่เราสามารถพบเห็นผู้คนแต่งกายชุดประจำเผ่ามาจับจ่ายสินค้ายังตลาดบริเวณตัวเมืองได้
ในอดีตซาปาเคยเป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสในยุคล่าอาณานิคม ช่วงปี พ.ศ. 2465 ทำให้มีการสร้างสถานีขึ้นบนภูเขา ปัจจุบันเมืองแห่งนี้ก็ยังคงเป็นเมืองตากอากาศสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากอากาศดี และเงียบสงบ ทำให้มีโรงแรม ที่พัก และร้านค้าเกิดขึ้นมากมาย จากการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว มนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังซาปา จนถึงขนาดเกิดปรากฏการณ์รถติดขึ้น นั่นก็คือ “หิมะตก” ที่ไม่เพียงแค่นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่คนเวียดนามเองก็จะรู้สึกลุ้น และตื่นเต้นทุกครั้งที่หิมะตก เพราะที่นี่ใช่ว่าจะมีหิมะตกทุกปีสม่ำเสมอเหมือนกับประเทศอื่น ๆ แต่ต้องขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของปีนั้น ๆ ช่วงที่หิมะตกเยอะ ๆ ซาปาจะถูกย้อมจนกลายเป็นเมืองสีขาว และมีทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตาไปอีกแบบ
ทิวทัศน์ของเมืองซาปานั้น จะเห็นว่าแวดล้อมไปด้วยขุนเขา สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของซาปาจึงหนีไม่พ้นภูเขาที่ทอดตัวอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาหว่าง เลียน เซิน (Hoang Lien Son) พรมแดนกั้นระหว่างประเทศเวียดนามและจีน มีสมญานามว่า เทือกเขาแอลป์แห่งอ่าวตังเกี๋ยเป็นเสมือนหลังคาแห่งอินโดจีน โดยมียอดสูงสุดคือ ยอดเขา ฟานสิปัน (Fansipan Summit) ที่มีความสูง 3,143 เมตร เป็น 1 ในสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากเหล่าผู้ชื่นชอบการปีนเขาอีกแห่งหนึ่ง เขาฮามรง (Ham Rong) หรือเขาปากมังกร ที่หากมองที่ยอดภูเขาจะดูเหมือนหัวของมังกรที่กำลังอ้าปาก ซึ่งชาวเวียดนามมีเรื่องเล่ากันว่า มีมังกร 2 แม่ลูกลงจากสวรรค์มาเพื่อเที่ยวชมความสวยงามของเมืองแห่งนี้ และเที่ยวจนเพลินลืมเวลาปิดประตูสวรรค์ ก่อนที่ประตูสวรรค์จะปิด สองแม่ลูกรีบบินขึ้นไป โดยแม่มังกรได้เสียสละให้ลูกขึ้นประตูสวรรค์ไปก่อน ทำให้ตัวเองขึ้นไม่ทัน จึงได้อ้าปากร้องเรียกหาลูก นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อเขาแห่งนี้ เขาฮามรงตั้งอยู่ใจกลางเมือง หากขึ้นไปจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองซาปาได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะวิวของทะเลสาบซาปา ในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุม
สถานที่เที่ยวน่าสนใจอื่น ๆ ของซาปา ได้แก่ ทุ่งนาขั้นบันได ไฮไลท์ของการท่องเที่ยวในเมืองนี้ โดยจุดที่สามารถชมวิวทุ่งนาขั้นบันไดนั้นมี 2 หมู่บ้าน คือ หมู่บ้านต่าวัน (Tavan Village) อยู่ทางทิศใต้ของเมืองซาปา ประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้ประกอบไปด้วยชาวเขาหลายเผ่า และหมู่บ้านก๊าต ก๊าต (Cat Cat Village) หมู่บ้านซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองซาปาประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่าม้งที่อพยพมาจากจีน ตั้งแต่เมื่อ 300 กว่าปีก่อน โดยคำว่า “ก๊าต” นั้นเป็นภาษาจีน ที่มีความหมายว่าเจริญรุ่งเรืองไปเรื่อย ๆ หมู่บ้านแห่งนี้จะเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชมนาขั้นบันไดจากนักท่องเที่ยวเล็กน้อยเพื่อนำไปใช้ในการบำรุงสาธารณประโยชน์ของหมู่บ้านต่อไปน้ำตกซิลเวอร์ (Silver waterfall) น้ำตกที่มีความสวยงามมองเห็นได้แต่ไกล ด้วยความสูงประมาณ 100 เมตร ไหลจากหน้าผาหิน ซึ่งหากใครต้องการขึ้นไปยังชั้นบนของน้ำตกจะต้องเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 3,000 ด่อง และตรามตอนพาส (Tram Ton Pass) จุดชมวิวที่มีความสูง 1,900 เมตร ตั้งอยู่บริเวณเขตรอยต่อของจังหวัดลาวไคและจังหวัดไลโจว สามารถมองเห็นทิวเขาต่างๆ โดยเฉพาะวิวของเขาฟานสิปันได้อย่างสวยงาม
สำหรับการเดินทางสู่เมืองซาปา สามารถทำได้โดยนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินฮานอย จากนั้นต่อรถไฟมายังเมืองลาวไค โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งหากต้องการรถไฟตู้นอนสามารถซื้อตั๋วได้จากโรงแรมและผู้ประกอบการท่องเที่ยวในเมืองฮานอย แต่ขากลับนั้นสามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีรถไฟ หรือหากต้องการเดินทางทางรถยนต์สามารถนั่งรถประจำทางไปยังจังหวัดหนองคาย เพื่อข้ามฝั่งไปประเทศลาว และขึ้นรถโดยสารจากเมืองเวียงจันทร์ไปยังฮานอยได้ โดยรถจะมีวันละ 1 เที่ยว ออกเวลา 18.00 น. ซึ่งจะจอดรอผู้โดยสารอยู่ใกล้กับสถานทูตอเมริกา การเดินทางโดยวิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 15 – 16 ชั่วโมง เมื่อมาถึงเมืองซาปานักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์ หรือจักรยานเพื่อขี่ชมสถานที่ต่าง ๆ รอบเมืองได้ หรือหากต้องการความสะดวกสบายในการไปยังจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็สามารถเลือกซื้อแพ็คเกจทัวร์แบบ One day trip จากผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้
หากใครอยากสัมผัสกับความงามของทุ่งนาขั้นบันไดควรไปในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน แต่หากต้องการสัมผัสอากาศหนาวบนขุนเขา และหิมะที่โปรยปราย ควรมาในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ แต่ไม่ว่าจะช่วงเวลาใด ซาปาก็พร้อมจะต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามเสมอ