“P Herb plus” สเปรย์แอลกอฮอล์สมุนไพร
การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) ได้กลายเป็นกระแสคลื่นลูกมหึมาที่พัดถล่มเศรษฐกิจอย่างไม่อาจต้านทานได้ ส่งผลให้หลายธุรกิจที่ถูกกระทบอย่างหนักต้องปิดกิจการลง
ขณะที่อีกหลายธุรกิจก็กำลังพยายามดิ้นหาทางพาตนเองให้สามารถอยู่รอดได้ และอีกหลายธุรกิจที่พลิกวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสด้วยการปรับเปลี่ยนไลน์การผลิตของตนเองไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความต้องการของตลาด เช่น หน้ากากอนามัยแบบผ้า เป็นต้น
“ณัฐวี บัวแก้ว” เป็นเด็กหนุ่มที่ไม่เคยหยุดนิ่งทางความคิดในการสร้างธุรกิจ โดยล่าสุดได้มีแนวคิดไอเดียในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างสูง อย่างสเปรย์แอลกอฮอล์ผสมสารสกัดจากสมุนไพรขึ้นมา เพื่อช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 และเริ่ม “Startup” ธุรกิจขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
-จุดกำเนิดสเปรย์แอลกอฮอล์สมุนไพร
“ณัฐวี” บอกว่า ไอเดียนี้ได้มาจากกระแสของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการใช้เจลแอลกอฮอล์ในการล้างมือเพื่อฆ่าไวรัสในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่ด้วยความที่โดยส่วนตัวแล้วเป็นผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นของแอลกอฮอล์ และมองว่าการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยครั้งทำให้ผิวแห้ง เพราะแอลกอฮอล์จะดูดความชุ่มชื้นออกจากผิว โดยมองว่าจะเป็นการดีหรือไม่ หากมีผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันแต่สามารถตอบโจทย์ได้มากกว่า
ทั้งนี้ ตนจึงเดินทางไปที่คณะเภสัชศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) ทำให้ได้พบว่ามีสมุนไพร 3 ชนิดที่มีสรรพคุณในการต่อต้านไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และอนุมูลอิสระ เป็นต้น ประกอบด้วย มังคุด ,ทองพันชั่ง และพญายอ ตนจึงมองว่าน่าจะนำข้อดีของสมุนไพรดังกล่าวเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการนำมาผสมกับแอลกอฮอล์ทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อทำความสะอาด และยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19
เมื่อแนวคิดดังกล่าวตกผลึกดีแล้ว จึงก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า สเปรย์แอลกอฮอล์ผสมสารสกัดจากสมุนไพร ภายใต้แบรนด์ “พี เฮิร์บ พลัส” (P Herb plus) ที่หมายถึงการเพิ่มมูลค่าของสมุนไพร โดยเป็นสเปรย์ที่ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ แต่จะมีกลิ่นหอมสดชื่นของ มะนาว ลาเวนเดอร์ และเปเปอร์มินท์ให้ผู้บริโภคได้เลือก ซึ่งการนำเสนอผลิตภัณฑ์ดังกล่าวตนได้ดำเนินการก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาในชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นเฮอร์บานซ์
-ยับยั้งแบคทีเรียยาวนาน
ณัฐวี กล่าวต่อไปอีกว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ พี เฮิร์บ พลัส มาจากการที่มีส่วนผสมของสารสกัดสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด ซึ่งจะมีฤทธิ์ในการช่วยยับยั้งแบคทีเรียได้อย่างยาวนานแม้ว่าแอลกอฮอล์จะระเหยไปเลย เนื่องจากสารสกัดจะยังคงอยู่ที่ผิว และกระบวนการการผลิตที่ทำให้ผิวของผู้ใช้งานมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน และที่สำคัญคือการไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์
“สารสกัดสมุนไพรที่เลือกใช้เป็นองค์ประกอบในสูตรตำรับ ได้แก่ ทองพันชั่ง เปลือกผลมังคุด และพญายอ ซึ่งเป็นสารสกัดสมุนไพรไทยที่มีรายงานว่ามีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย รา และไวรัส นอกจากนี้ในสารสกัดยังมีสารกลุ่มกรดฟีนอลลิกในธรรมชาติหลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ลดการอักเสบ ดังนั้นการเพิ่มสารสกัดสมุนไพรเหล่านี้ในสูตรตำรับโลชันแอลกอฮอล์ล้างมือจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อและถนอมผิว เพราะสารสกัดเหล่านี้จะยังคงอยู่ที่ผิวหลังจากที่แอลกอฮอล์ระเหยจากผิวไปแล้ว”
-เน้นจำหน่ายพื้นที่ภาคใต้ก่อน
สำหรับช่องทางการจำหน่ายนั้น ปัจจุบัน พี เฮิร์บ พลัส ได้ดำเนินการผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ผสมสารสกัดจากสมุนไพร กลิ่นมะนาว และลาเวนเดอร์จำหน่ายเรียบร้อยแล้ว บนช่องทางของร้านขายยาในมหาวิทยาลัยของจังหวัดนครศรีธรรมราช และสงขลา และจะขยายไปยังร้านขายยาทั่วภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงขาดแคลนผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันไวรัวโควิด-19 อยู่ นอกจากนี้ พี เฮิร์บ พลัส ยังทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อกระจายผลิตภัณฑ์ไปทั่วประเทศ
แอลกอฮอล์ล้างมือที่มีในท้องตลาด ณ ขณะนี้ มักอยู่ในรูปแบบของเจลแอลกอฮอล์ โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมักจะต้องมีความเข้มข้นของเอทานอล (ethanol)ไม่น้อยกว่า 70% โดยปริมาตร จึงจะมีประสิทธิภาพครอบคลุมในการฆ่าเชื้อหลายชนิด มีรายงานการวิจัยพบว่าความเข้มข้นของเอทานอลเริ่มต้นในผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ล้างมือที่ 42.6% โดยน้ำหนักหรือประมาณ 54% โดยปริมาตรสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนา ซารส์ (SARS coronavirus) และไวรัสโคโรนา เมอรส์ (MERS coronavirus) ได้ภายในเวลา 30 วินาที และผลิตภัณฑ์จะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเติมกรดที่ปลอดภัยลงในผลิตภัณฑ์ (อ้างอิง: Journal of Hospital Infection (2018) 98, 331-338)
อย่างไรก็ดี การใช้ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ล้างมือที่มีความเข้มข้นสูง อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังหรือทำให้ผิวหนังแห้งแตกได้เมื่อใช้บ่อยหรือใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น พี เฮิร์บ พลัส จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1.เพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในการฆ่าเชื้อไวรัสจากสารสกัดสมุนไพรซึ่งมีฤทธิ์ต้านไวรัสและกรดฟีนอลลิกจากธรรมชาติ ,2.เพิ่มคุณสมบัติการการถนอมผิวจากสารต้านอนุมูลอิสระจากสารสกัดสมุนไพรและสารให้ความชุ่มชื้นกับผิว(moisturizer) ในสูตรตำรับ และ3.ลดการใช้สารก่อเจลคาร์โบพอล (carbopol) ที่กำลังขาดตลาดในปัจจุบันและลดการใช้ด่างในสูตรตำรับ
“สเปรย์แอลกอฮอล์ผสมสารสกัดจากสมุนไพร พี เฮิร์บ พลัส มีองค์ประกอบหลักที่สำคัญคือ เอทานอล (72% โดยปริมาตร) สารสกัดสมุนไพร และกลีเซอริน (glycerin)”