“Toddler”/ “SealZip” โตไปกับผู้บริโภคทุกวัย
“วิธีคิดในการสร้างธุรกิจลำดับแรกเลยจะต้องแยกให้ออกว่าความชอบกับสิ่งที่ทำได้นั้นแตกต่างกัน เพราะความชอบสามารถมีได้หลายอย่าง แต่สิ่งที่สำคัญก็คือจะต้องปรับความถนัดให้กลายมาเป็นความชอบให้ได้ และพัฒนาไปได้ เพราะบางสิ่งที่เราชอบแต่ทำไม่ได้นั้นมี ซึ่งจะทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ
โดยทุกคนไม่ได้จะประสบความสเร็จจากสิ่งที่ชอบอย่างเดียว แต่ประสบความสำเร็จได้จากสิ่งที่ถนัด เพราะฉะนั้น หากสามารถปรับความถนัดให้เป็นความชอบได้ การทำงานก็จะมีความสุข เมื่อต้องประสบพบเจอกับอปุสรรคปัญหา ก็จะแก้ไขให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี”
คำพูดจาก “วิภาวรรณ วิวิธเทศ” สาวสวยนักธุรกิจที่ยอมรับตามตรงว่าเคยทำธุรกิจแล้วไม่ประสบความสำเร็จมาก่อน จากความชื่นชอบส่วนตัว และการโหนกระแสของตลาด แต่สามารถ Startup ธุรกิจของตนเองให้ติดตลาดได้ด้วยความถนัด
ปรับความถนัดให้กลายเป็นธุรกิจ
วิภาวรรณ เล่าย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจว่า ตัวเธอเป็นคนที่ชอบการทำธุรกิจมาตั้งแต่เรียนจบการศึกษา โดยเริ่มหาอะไรทำเพื่อที่จะสร้างธุรกิจเป็นของตนเอง ซึ่งในระยะแรกก็ยังเป็นการค้าขายไปเรื่อยตามกระแส แต่เมื่อวันหนึ่งที่อายุมากขึ้นทำให้รู้สึกได้ว่าจะต้องดำเนินการอะไรสักอย่างหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตไปได้มากกว่านี้ ความคิดในการสร้างแบรนด์จึงผุดขึ้น โดยมองไปที่ธุรกิจเครื่องสำอาง ซึ่งกำลังได้รับความนิยม รวมถึงตัวเธอเองก็ชื่นชอบ แต่เนื่องจากในตลาดมีคู่แข่งจำนวนมาก ในขณะที่ทุนการทำตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของตัวเธอมีไม่มาก ส่งผลให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไม่ได้อย่างที่หวัง ธุรกิจของตัวเธอไม่ประสบความสำเร็จ
ตัวเธอจึงเริ่มมองหาสิ่งที่ตนเองถนัด โดยมองย้อนไปถึงช่วงการทำงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ถุงซิปมาก่อน และเห็นว่าเป็นสิ่งที่คลุกคลีและมีความเชี่ยวชาญ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือ จะนำสิ่งที่ถนัดมานำเสนอในรูปแบบใดให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ซึ่งในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ ได้มีโอกาสพบเห็นถุงซิปที่มาลายน่ารักจำหน่ายอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ค่อยพบเจอที่ประเทศไทย ขณะที่ลูกค้าจากต่างประเทศของโรงงานก็ยังมาสั่งผลิตที่โรงงานผลิตถุงซิปในไทย ประกายไอเดียจึงเริ่มก่อตัวขึ้น
ขณะที่ไทยเองมีการผลิตถุงเก็บน้ำนมส่งไปต่างประเทศจำนวนมาก แต่กลับมีจำหน่ายในประเทศน้อยมาก อีกทั้งในยุคสมัยนั้น รัฐบาลเองมีการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น ซึ่งทำให้คนไทยหันมาใส่ใจและเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตัวเธอจึงมองเห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณพ์ถุงเก็บน้ำนมแม่ขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกก็ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จเลยทีเดียว เพราะผลิตภัรฑ์ของเธอยังไม่สามารถสร้างความแตกต่างในตลาดได้ รู้แค่เพียงว่าถุงที่ดีควรเป็นอย่างไร แบบไหนจึงจะเก็บน้ำนมได้ดีที่สุด และคุณภาพควรจะอยู่ที่ระดับใด
สร้างความต่างในตลาด
วิภาวรรณ บอกต่อไปอีกว่า แม้ผลิตภัณฑ์จะเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังเติบโตไปไม่ได้อย่างที่ใจต้องการในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ทำ เธอจึงกลับมาระดมความคิดกับทีมงาน และมองย้อนกลับไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ต่างประเทศซึ่งจะมีลาย และสีสันที่น่ารักบนถุง เธอจึงนำแนวคิดดังกล่าวมาปรับใช้กับการดีไซน์ผลิตภัณฑ์ให้ผสมผสานไปกับเรื่องของคุณภาพ โดยเลือกนำจุดเด่นเรื่องสีมาใช้ตามสีของวันให้เป็น 7 สี เพื่อความสะดวกสบายของคุณแม่ที่จะต้องปั๊มนม และผู้เลี้ยงซึ่งเป็นผู้นำน้ำนมออกมาให้เด็กได้รับประทานรู้ว่าจะต้องนำถุงไหนมาใช้งานก่อน
นอกจากนี้ ยังใช้สีมาช่วยแบ่งปริมาณน้ำนมว่ามีปริมาณกี่ออนซ์ เพราะเด็กแต่ละวัยจะมีความต้องการดื่มนมไม่เท่ากัน เรียกว่าเป็นการใช้ฟังก์ชั่นเสริมให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยเป็นแบรนด์แรกในประเทศ และต่างประเทศที่ทำออกมาในรูปแบบที่เน้นความน่ารัก และสีสันบนผลิตภัณฑ์ถุงเก็บน้ำนม ซึ่งอยู่ภายใต้แบรนด์ “Toddler”
การทำตลาดตั้งแต่เริ่มต้น จะมุ่งเน้นบนช่องทางออนไลน์ เนื่องจากเป็นสิ่งที่เธอถนัดมาจากการศึกษาที่ร่ำเรียนมา และแม้ว่าช่วงนั้นการซื้อของออนไลน์จะยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าใดนัก โดยสิ่งที่พบก็คือผลิตภัณฑ์ถูกใจผู้บริโภคแต่ก็ยังกระจายตัวไปได้ไม่มากนัก เพราะยังเหมือนกับแบรนด์ทั่วไปในตลาดอยู่ เด่นแค่เรื่องคุณภาพ แต่เมื่อแบรนด์มีรูปลักษณ์ หรือคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนขึ้นทำให้เริ่มเป็นที่สนใจ ยิ่งเมื่อแบรนด์เริ่มออกงานแสดงสินค้าตามงานที่เกี่ยวกับแม่และเด็ก โดยมีกลุ่มดาราที่มีลูกมาใช้ผลิตภัณฑ์ และมีการแชร์ต่อถึงความน่ารัก และคุณภาพจากการใช้งาน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคมากขึ้นไปอีก
“แบรนด์ของเราจะไม่มีหน้าร้าน แต่จะมีจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าทั่วไป และตัวแทนจำหน่ายซึ่งส่วนหนึ่งเป็นคุณแม่ที่ใช้งานแล้วเกิดความชอบและต้องการมีรายได้ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงร้านจำหน่ายของใช้เด็กทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าที่ไม่ซื้อ หรือยังกลัวการซื้อของออนไลน์ได้เข้าถึง ดังนั้น การทำตลาดของแบรนด์จึงอยู่ทั้งในออนไลน์ละออฟไลน์”
อย่างไรก็ดี แบรนด์ยังได้ดำเนินการต่อยอดธุรกิจไปสู่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นถุงซิปล็อก เพื่อใช้สำหรับการเก็บสิ่งของที่ต้องการขนาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ในการปั๊มนม ยา หรืออาหารสำหรับเด็ก เพื่อขยายฐานลูกค้า และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น โดยสามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัยภายใต้แบรนด์ “SealZip”
ปลอดภัยสำหรับเด็ก
วิภาพรรณ บอกอีกว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของเธออยู่ที่สีสันและลวดลายบนตัวถุงที่เป็นคาแรกเตอร์ ซึ่งแบรนด์มีการจดลิขสิทธิ์เอาไว้อยากถูกต้อง รวมถึงนวัตกรรมของถุงที่เป็นแบบผลิตพิเศษเฉพาะของแบรนด์ ซึ่งจะมีคุณภาพในการยืดหยุ่นกว่าถุงทั่วไปในตลาด เนื่องจากน้ำนมเมื่อถูกน้ำไปแช่แข็งจะมีการขยายตัวมากกว่าปกติ ความยืดหยุ่นของถุงจึงเป็นสิ่งสำคัญ และการเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทฟู้ดเกรด (Food Grade) ทั้งถุงและบรรจุภัณฑ์ เพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กซึ่งมักจะชอบนำสั่งของเข้าปาก และการเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานจริงตามพฤติกรรมของผู้บริโภค
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทปีนี้ แบรนด์ยังคงมุ่งเน้นไปที่การออกงานแสดงสินค้า และการทำธุกิจร่วมกับโรงพยาบาลทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้ได้พบกับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งในโรงพยาบาลจะเป็นการเข้าไปให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และวิธีการจัดเก็บ พร้อมทั้งเปิดช่องทางออนไลน์ให้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ และสอบถามปัญหา รวมถึงเป็นที่ปรึกษาให้กับกลุ่มของคุณแม่
ส่วนตลาดต่างประเทศ แบรนด์มีแผนที่จะขยายตลาดไปยังประเทศสเปน เพราะเป็นประเทศที่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทดังกล่าว แต่มีการจำหน่ายในราคาที่ค่อนข้างสูง และที่ประเทศอังกฤษซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนกาเจรจาทางธุรกิจกับตัวแทนจำหน่าย เพื่อเปิดหน้าหน้าร้านเป็นของตนเองร่วมกัน หลังจากที่แต่เดิมจะใช้วิธีสั่งสินค้าทางออนไลน์ เพื่อนำไปจำหน่ายผ่านทางเว็บไซด์อย่างอีเบย์ (eBay) และอะเมซอน (Amazon) ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
“เดิมทีแบรนด์จะมีลูกค้าต่างประเทศจากประเทศเวียดนาม ลาว มาเลเซีย และสิงคโปร์ที่นิยมสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายในประเทศของตน และเริ่มมีไปจำหน่ายแล้วที่ประเทศฮ่องกง หรือบางทีเราเองก็จะไปให้ข้อมูลในงานแสดงสินค้าของประเทศนั้นๆ เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ โดยล่าสุดคาดว่าจะได้ไปออกงานที่ประเทศเกาหลีร่วมกับกรมการระหว่างประเทศในลำดับถัดไป”
วิภาวรรณ บอกอีกว่า ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจะนำเสนอจะอยู่บนแนวทางของการเติบโตไปพร้อมกับเด็ก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของแบรนด์จะเริ่มตั้งแต่แรกเกิด นอกจากงานที่เกี่ยวกับถุงพลาสติดแล้ว แบรนด์ยังมีผลิตภัณฑ์ประเภทแผ่นสำลีขนาดใหญ่ขนาด 4X6 นิ้ว ผ้าเปียกสำหรับผิวเด็ก แผ่นซับน้ำนม ฯลฯ และล่าสุดคือถุงเก็บน้ำนมแบบต่อสายจากเครื่องปั๊มลงถุงได้เลยทันที