“ออไรซาน” นวัตกรรมข้าวสังข์หยดออร์แกนิกส์ 100%
องค์ประกอบทางการตลาดที่ดีจะต้องมีครบในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ แพคเก็จ ช่องทางการทำตลาด และราคาที่สมเหตุสมผล ยกตัวอย่างเช่น แม้ว่าผลิตภัณฑ์ดีแต่แพคเก็จไม่น่าสนใจ ผู้บริโภคก็จะไม่สามารถดึงดูดใจผู้บริโภคให้เข้ามาสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ที่ดีนั้นได้
หากใครเคยเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น หรืออยู่ที่ประเทศไทยและได้มีโอกาสเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่าทุกแพคเก็จของผลิตภัณฑ์จะถูกให้ความสำคัญในรายละเอียดเป็นอย่างมาก เรียกว่าเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคออกมาแล้วครึ่งกระเป๋าเมื่อได้พบเห็น แม้จะยังไม่รู้ว่าผลิตภัณฑ์ที่อยู่ข้างในจะเป็นอย่างไร
บริษัท ดี มี สุข (ไม่) จำกัด คือบริษัทที่ให้มีความเชี่ยวชาญทางด้านการทำตลาด โดยจะเลือกผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ดี แต่ยังขาดการเติมเต็มประสิทธิภาพการทำตลาด มาดำเนินการในรูปแบบของการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ซึ่งบริษัทจะนำมาสร้างแบรนด์ และทำตลาดตามทิศทางที่มองเห็นว่าดีที่สุดในการเข้าถึงผู้บริโภค
ชูกลยุทธ์ DBMS
วัชรากรณ์ ขันธจีระวัฒน์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี มี สุข (ไม่) จำกัด งขั้นตอนของการแปรรูบอกถึงที่มาที่ไปของการทำตลาดให้ผลิตภัณฑ์ชุมชน (Local Product)ล่าสุด ว่า ได้เลือกผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากข้าวสังข์หยด ของบริษัท บ้านไทยเฮิร์บ จำกัด ซึ่งบริษัทงานโดย “พัชรี หนูแดง” กรรมการผู้จัดการ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการปลูกข้าวสังข์หยดจนถึป หรือเรียกว่าตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ แต่ยังขาดประสิทธิภาพในการทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้น บริษัทจึงเข้าไปร่วมมือในการนำผลิตภัณฑ์มาทำตลาดให้ พร้อมสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อ “ออไรซาน” (ORIZAN)
“บริษัท ไทยเฮิร์บฯ เป็นบริษัทที่รู้จักกันที่ทำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ข้าวสังข์หยด โดยมองเห็นแล้วว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีสำหรับผู้บริโภคในตลาด แต่ยังขาดเรื่องการทำตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทจึงเข้าไปหารือเพื่อหาแนวทางในการทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งบริษัท ไทยเฮิร์บฯ จะทำหน้าที่เป็นผู้ผลิต และบริษัท ดี มีสุขฯ จะทำหน้าที่ในการทำตลาดให้”
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดของบริษัท จะดำเนินการผ่านรูปแบบของ DBMS ซึ่งประกอบไปด้วย D=Develop หมายถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ,B=Brand หมายถึง การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ,M=Marketing หมายถึงกาทำตลาดทั้งบนช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ และ S= Service หมายถึงการให้บริการในรูปแบบ CRM Logistic Database เรียกว่าบริษัท จะอยู่ในขั้นตอนของกลางน้ำไปจนถึงปลายน้ำ
เพิ่มมูลค่าข้าวสังข์หยด
วัชรากรณ์ บอกต่อไปอีกว่า ข้าวสังข์หยดเป็นพืชทางภูมิศาสตร์ (GI : Geographical Indications ) ซึ่งมีแหล่งเดียวเท่านั้นคือที่จังหวัดพัทลุง แต่ด้วยระบบของพ่อค้าคนกลาง ทำให้ข้าวสังข์หยดถูกกดราคารับซื้อให้อยู่ในระดับกว่าที่ควรจะเป็น แต่นำมาจำหน่ายในราคาที่สูง ดังนั้น บริษัทจึงมองว่าน่าจะนำข้างสังข์หยดมาเพิ่มมูลค่า โดยที่บริษัทจะให้ราคารับประกันที่ 20,000 บาทต่อตัน แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นการปลูกข้าวแบบออร์แกนิกส์ปลอดสารเคมี 100%
“เราต้องปรับเปลี่ยนความคิดของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไม่ให้ยึดติดอยู่กับชื่อแบรนด์ของตนเอง จะต้องเปลี่ยนระบบความคิด เพื่อให้สามรถเข้าถึงผู้บริโภคได้ เพราะผู้บริโภคจะพิจารณาผลิตภัณฑ์จากรูปลักษณ์ภายนอก หรือจากแพคเกจที่ได้พบเห็นเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะมาดูสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ว่าเป็นอย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ”
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “ออไรซาน” อยู่ที่การนำข้างสังข์หยดซึ่งสรรพคุณดีอยู่แล้วมาสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อผู้บริโภค โดยมอบประโยชน์จากธรรมชาติแบบ 100% (Organic) ตั้งแต่วัตถุดิบ กระบวนการผลิตต่างๆ ทุกขั้นตอน หีบห่อ หรือแม้แต่รูปในฉลากก็ใช้เกษตรกรในชุมชน เป็น Local Product อย่างแท้จริง
มีมาตรฐานรับประกัน
วัชรากรณ์ บอกอีกว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ข้าวสังข์หยดที่แปรรูปแล้วภายใต้แบรนด์ “ออไรซาน” ประกอบไปด้วย 1.ข้าวกล้องเพาะงอกพร้อมชงรสชาดต่างๆ เช่น รสดั้งเดิม ,กาแฟ ,กาบาน่า ซึ่งจะมีส่วนผสมของกล้วยสำหรับผู้บริโภคที่เป็นนักกีฬา โดยมีสรรพคุณในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น ,2.น้ำมันรำข้าวสังข์หยดชิดเข้มข้น 100% ,3.ชุดปลูกผมจากสารสกัดข้าวสังข์หยด ,4.โลชั่นข้าวสังข์หยด และเซรั่มบำรุงผิวหน้า เป็นต้น
“ทุกผลิตภัณฑ์มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ผ่านเกณฑ์ GMP (หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร เป็นเกณฑ์หรือข้อกำหนดขั้นพื้นฐานที่จำเป็นในการผลิตและควบคุมเพื่อให้ผู้ผลิตปฏิบัติตาม และทำให้สามารถผลิตอาหารได้อย่างปลอดภัย โดยเน้นการป้องกันและขจัดความเสี่ยงที่อาจทำให้อาหารเป็นอันตราย เป็นพิษ หรือเกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค) ,อย. และฮาลาล โดยเป็นหนึ่งในผู้นำนวัตกรรมข้าวสังข์หยดมีคุณค่าทางสารอาหารครบถ้วน ช่วยเรื่องการบำรุงสมอง ลดคลอเลสเตอรอล ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ซึ่งข้าวสังข์หยดพัทลุงอุดมไปด้วย วิตามิน A B E คอลลาเจนและโอเอ็นไซด์ Q10 ช่วยทำให้ผิวพรรณชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง กระชับริ้วรอย”
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา และทดลองการทำตลาดผลิตภัณฑ์จากข้าวสังข์หยดเพิ่มเติม เช่น บราวนี่ ,โจ๊ก ,สบู่ ลิปข้าวสังข์หยด ออร์แกนิกส์ โดยมองว่าหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีผู้เล่นในตลาดอยู่เป็นจำนวนมากก็ไม่ต้องการที่จะลงไปแข่งขัน เพราะตลาดโดยทั่วไปจะต้องมาอธิบายให้ผู้บริโภคได้เห็นถึงสรรพคุณ หรือมูลค่าที่ได้จากข้างสังข์หยดให้รับรู้
ส่วนช่องทางการทำตลาดในปัจจุบัน จะเป็นการทำตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือที่เรียกว่า นิช มาร์เก็ต (Niche Market) โดยเป็นตลาดของกลุ่มที่รักสุขภาพ ซึ่งบริษัทจะทำการตลาดร่วมกับเซ็นทรัล โดยการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคได้รู้จักแบรนด์ และเป็นการเข้าหาลูกค้าโดยตรง ซึ่งจะทำให้สามารถบอกข้อมูลสู่ผู้บริโภคได้อย่างถูกต้อง จะไม่ใช้การทำตลาดผ่านทางตัวจำหน่าย นอกจากนี้ยังมีช่องทางออนไลน์อย่างเพจเฟสบุ๊ก ,ไลน์แอด (Line@) และเว็บไซด์ ซึ่งบริษัทกำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาข้อมูล เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงแก่นของผลิตภัณฑ์
“ในปีแรกจะเป็นการทำตลาดผ่านเซ็นทรัล ส่วนปีที่ 2 จะมีช่องทางผ่านทางโรงพยาบาลเพิ่มเติม และจำหน่ายผ่านเลมอนฟาร์ม (Lemaon Farm) จำนวน 16 สาขา”
วัชรากรณ์ บอกด้วยว่า ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางถึงขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีเดเวลลอปเม้นท์แบงก์ (SME Development Bank) มีส่วนช่วยสนับสนุนธุรกิจให้สามารถขยายตัวได้ผ่านทางสภาพคล่องจากสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ เรียกว่าช่วยให้คนตัวเล็กสามรรถขยายธุรกิจให้เติบโตได้
ด้านหลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ อยู่ที่การส่งมอบคุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างให้กับผู้บริโภค และการจัดการห่วงโซ่อุปทาน หรือซัพพายเชน (Supply Chain) ซึ่งเป็นการจัดกระบวนการทั้งหมดที่มีตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยถ้าเรารู้ทั้งหมดทุกขั้นตอนก็จะสามรถถ่ายทอดออกไปสู้ผู้บริโภคได้