“เรือนไม้หอม” ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรสด

การเริ่มต้นของธุรกิจไม่จำเป็นต้องพร้อมทุกอย่างเสมอไป ขอเพียงแค่เริ่มลงมือทำด้วยความเชื่อมั่นในตัวของผลิตภัณฑ์ว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จก็อยู่อีกไม่ไกล หากผู้บริโภคให้การตอบรับ
แบรนด์ “เรือนไม้หอม” มีจุดเริ่มต้นมาจากความตั้งใจในการมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่ตนเองทำใช้แล้วเห็นผล เพื่อส่งต่อคุณภาพให้ตลาดได้รับรู้ จนเกิดการใช้งานที่เห็นผลจริง และมีการแนะนำกันไปแบบปากต่อปาก จนนำมาสู่การ “Start up” ธุรกิจในรูปแบบของวิสาหกิชุมชนเรือนไม้หอมในที่สุด
จากใช้งานจริงสู่ธุรกิจ
“เกวลี ชื่นสงวน” ในฐานะประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเรือนไม้หอม บอกถึงที่มาที่ไปของจุดเริ่มต้นไอเดียในการทำธุรกิจ ว่า มีการดำเนินกิจการมาแล้วกว่า 23 ปี ตั้งแต่รุ่นของคุณแม่ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการผลิตแชมพูสระผมจากสมุนไพรประคำดีควาย โดยที่ช่วงนั้นคุณแม่เองก็มีปัญหาเรื่องของผมร่วงจนถึงขนาดที่มองเห็นหนังศรีษะ ท่านจึงทดลองนำผลิตภัณฑ์ประคำดีควายที่ได้ร่ำเรียนมาไปใช้ ซึ่งปรากฎว่าสามารถรักษาอาหการผมหลุดร่วงได้ และมีไรผมเกิดใหม่ให้เห็น
ทั้งนี้ เมื่อเห็นผลดังนั้น ตัวคุณแม่เองก็เกิดความดีใจเป็นอย่างมาก และคิดว่าน่าจะทำออกมาจำหน่ายให้ผู้อื่นได้ใช้บ้าง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะจำหน่ายได้หรือไม่ ผู้บริโภคจะให้การตอบรับเป็นอย่างไร อีกทั้งเงินทุนก็มีไม่มาก โดยในระยะแรกก็เริ่มต้นจากการทำแจกให้กับญาติ พี่น้อง เพื่อน และคนในละแวกแถวบ้าน ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดีอย่างมาก โดยต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าให้ทำออกมาจำหน่าย

อย่างไรก็ดี ในยุคนั้นคุณแม่เองไม่ได้มีความรู้เรื่องการทำตลาด และไม่มีเงินทุนในการทำแพคเกจจิ้งที่สวยงาม แชมพูที่ผลิตออกมาไม่ว่าจะเป็นแชมพูจากประคำดีควาย ,อัญชัญ และว่านหางจระเข้ จะถูกบรรจุใส่ในถุงร้อนขนาดครึ่งกิโลกรัม โดยมีรถกะบะเก่าๆหนึ่งคัน ขับตระเวนจำหน่ายแบบเปิดท้ายตามตลาดนัดใกล้บ้าน
“ด้วยความที่คุณแม่เป็นคนพูดเก่ง และตัวคุณแม่เองก็ใช้แล้วเห็นผลจริง ทำให้สามารถพูดถึงสรรพคุณได้อย่างเต็มปาก ซึ่งลูกค้าเมื่อเห็นแล้วก็เชื่อเลยทดลองซื้อกลับไปใช้ หลังจากนั้นจึงเริ่มมีการพูดถึงกันแบบปากต่อปากถึงประสิทธิภาพ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
รุกช่องทางออนไลน์
เกวลี บอกต่อไปว่า ผลิตภัณฑ์เริ่มเติบโตมากขึ้นอย่างเข้มแข็ง จนเกษตรจังหวัดสมุทสงครามเข้ามาและเห็นว่าเราทำงานกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวคิดให้ก่อตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนขึ้นมา นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของวิสาหกิจชุมชนเรือนไม้หอมอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
สำหรับตนนั้นเริ่มเข้ามาบริหารงานต่อจากคุณแม่ได้ประมาณ 13 ปี โดยกลยุทธ์การทำตลาดในในระยะถัดไปจะมุ่งเน้นการทำตลาดบนช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งล่าสุดแบรนด์กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ซึ่งมีกว่า 70 ชนิดโดยเฉพาะ ซึ่งคาดว่น่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 63 จากเดิมที่มีจำหน่ายอยู่แล้วบนช่องทางของไลน์แอด ,เว็บไซด์ ,ลาซาด้า (Lazada) และช๊อปปี้ (Shopee) เป็นต้น
เมื่อแอพฯของแบรนด์เปิดใช้อย่างเป็นทางการ และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค แบรนด์ยังมีแผนที่จะต่อยอดไปส่การนำผลิตภัณฑ์ชุมชนของจังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดโดยรอบมาจำหน่ายผ่านแอพฯ โดยใช้รูปแบบของการหักเปอร์เซ็นต์จากยอดขายในการสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับแอพฯได้มากขึ้นในการดึงดูดใจผู้บริโภคให้เข้ามาใช้งาน เพื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แบรนด์ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย และพัฒนา (R&D) ผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาเพื่อนำเสนอต่อผู้บริโภค ซึ่งจะเปนรูปแบบของการนำนวัตกรรมเข้ามาปรับใช้เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์จากใบขลู่ที่เป็นพืชท้องถิ่นของสมุทรสงคราม โดยอาจจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการบำรงผิวหน้าในลักษะของการมาร์กหน้า เป็นต้น
“ใบขลู่เป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกเป็นจำนวนมากที่อำเภอบางจะเกร็ง โดยมีสรรพคุณหลากหลาย ทั้งการลดเบาหวาน ลดไขมันในเส้นเลือด และล้างของเสียในไต เป็นต้น ซึ่งแบรนด์จะรับซื้อใบขลู่จากชาวบ้านเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน”
สร้างแบรนด์เพิ่ม
เกวลี บอกอีกว่า แบรนด์ยังมีแผนที่จะสร้างแบรนด์ใหม่เพิ่มอีกหนึ่งแบรนด์ โดยจะเป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เป็นเกรดแบบพรีเมี่ยมจากสมุนไพรสด ซึ่งจะมีการนำนวัตกรรมเข้าใช้ในขั้นตองการผลิต เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น โดยขั้นตอนในปัจจุบันอยู่ระหว่างการค้นหาข้อมูลเพื่อใช้ในการผลิต ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มทำตลาดในปี 63 ขณะที่ในส่วนของการรับจ้างผลิต (OEM) เพื่อให้ผู้ประอบการรายอื่นได้นำผลิตภัณฑ์ไปทำตลาด หรือสร้างแบรนด์ต่อก็ยังคงเปิดรับทำอย่างต่อเนื่อง
ส่วนของช่องทางการจำหน่ายแบบออฟไลน์แบรนด์ก็จะดำเนินการควบคู่กันไป โดยจะพยายามหาช่องทางการจำหน่ายให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีจำหน่ายผ่านหน้าร้านเรือนไม้หอมจำนวน 6 สาขา ,ร้านจำหน่ายของฝาก ,ร้านขายยาทั่วประเทศ เป็นต้น อีกทั้งยังมีการจัดโปรโมชั่นแบบต่อเนื่องทั้งบนช่องทางออนไลน์ และออไลน์ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้กับผลิตภัณฑ์
“ในปีนี้เชื่อว่าแบนด์จะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 25% จากปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นการเติบโตจากช่องทางออนไลน์ประมาณ 15-20% และช่องทางออฟไลน์ประมาณ 5-10% ซึ่งจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ เรือนไม้หอม อยู่ที่การนำสมุนไพรสดมาแปรรูปให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ ที่ใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ว่าจะเป็นยาสระผม ,ครีมนวดผม ,ครีมทาส้นเท้า ,น้ำมันแก้ปวดเมื่อย ,น้ำหอม และอโรม่า เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ไม่มีการผสมสารเคมีอีกด้วย”
ด้านผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ในปัจจุบันมีมากกว่า 70 ชนิด โดยจะถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.เครื่องสำอางค์ ,2.ยาหม่อง และชาเขีวใบขลู่ โดยทุกผลิตภัณฑ์จะมีความปลอดภัย ช่วยรักษาสุขภาพและความงามให้กับผู้บริโภค ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเรือนไม้หอมจะใช้สีจริงของสมุนไพร ไม่มีการผสมสีอื่นลงไปเพิ่มเติม