อะบัคฟู้ด สารพัดแมลงทอดอบกรอบสร้างรายได้หลักล้าน
ประตูสู่โลกธุรกิจไม่เคยปิดตาย แต่เปิดกว้างพร้อมต้อนรับผู้ประกอบการที่มีไอเดีย และความคิดสร้างสรรค์ในการเสาะหาผลิตภัณฑ์ที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใดจะมองเห็นช่องทางในการเข้ามายืนอยู่บนเวทีของการแข่งขันในตลาดได้ไปจนตลอดรอดฝั่ง
วุฒิชัย วัฒนภูริกวิน กรรมการผู้จัดการบริษัท วัฒนภูริกวิน จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแมลงแช่แข็ง และรูปแบบทอดอบกรอบภายใต้แบรนด์ “อะบัคฟู้ด” คือผู้ที่มองเห็นโอกาส และสามารถฉกฉวยช่วงเวลาดังกล่าวได้ จนสามารถ Startup ธุรกิตจนกลายมาเป็นผู้ประกอบการที่เป็นผู้เล่นหลักในตลาดได้อย่าสง่างาม
จากงานประจำสู่ธุรกิจส่วนตัว
ธุรกิจของวุฒิชัยเกิดขึ้นได้ด้วยกระบวนการทางความคิดที่ไม่สลับซับซ้อน แต่สิ่งที่สำคัญก็คือการหาข้อมูล และศึกษาเรื่องนั้นอย่างถ่องแท้ โดยวุฒิชัยบอกว่าตนเองนั้นเริ่มต้นมาจากการที่ได้มีโอกาสไปทำงานประจำในเขตพื้นที่ภาคเหนือทำให้ได้พบกับช่องทางในการทำธุรกิจที่น่าสนใจหลายอย่าง ซึ่งช่วงแรกมองไปที่การทำการเกษตร แต่เมื่อศึกษาแล้วพบว่าเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งมาก หรือเป็นธุรกิจแบบเรดโอเชียน (Red ocean) ดังนั้น จึงมองไปที่แมลงซึ่งยังได้ชื่อว่าเป็นธุรกิจแบบบลูโอเชี่ยน (Blue ocean) หรือยังมีการแข่งขันน้อย
ทั้งนี้ จากการสำรวจความต้องการของผู้บริโภคทำให้พบว่า ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะซื้อแมลงทอดตามรถเข็นที่มีทั่วไปในท้องตลาด แต่ลึกๆในความเป็นจริงแล้วพบว่ามีผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอยู่เป็นจำนวนมากตั้งแต่ชนชั้นล่างไปจนถึงผู้ที่มีฐานะร่ำรวย แต่กลุ่มคนระดับกลางถึงบนขึ้นไปอาจจะหาแมลงรับประทานได้ค่อนข้างลำบาก หลังจากนั้นจึงเริ่มสำรวจไปที่ฟาร์มเลี้ยงแมลง เพื่อดูว่าเราจะสามารถนำแมลงประเภทใดมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริฟต่อให้กับผู้บริโภคในตลาดได้
สำหรับผลิตภัณฑ์ในลำดับแรกของบริษัทจะทำออกมาในรูปแบบของแมลงแช่แข็ง โดยจำหน่ายผ่านช่องทางของเฟสบุ๊ก (Facebook) หลังจากนั้นจึงมีห้างค้าส่งขนาดใหญ่ติดต่อเข้ามาเพื่อขอนำแมลงแช่แข็งของของบริษัทไปจำหน่ายที่ พี มาร์ท ซุบเปอร์สโตร์ โดยมีลูกค้าเป็นร้านอาหาร และผู้บริโภคที่ซื้อไปทอดรับประทานเองที่บ้าน หลังจากนั้น จึงเริ่มมีการเรียกร้องให้บริษัททำในรูปแบบทอดออกมาจำหน่าย ซึ่งในช่วงเริ่มต้นจะทำเป็นแบบห่อใหญ่ และจำหน่ายเป็นกิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม เมื่อบริษัทเริ่มทำแมลงในรูปแบบทอดอบกรอบออกมาจำหน่าย จึงมีเสียงเรียกร้องจากผู้บริโภคอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการทดลองผู้บริโภคแมลงทอดอบกรอบ แต่ยังไม่ต้องการซื้อในปริมาณมาก บริษัทจึงเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีขนาดเล็กลง และจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “อะบัคฟู๊ด”
ชูจุดเด่นแมลงนานาพันธุ์
ผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั้น วุฒิชัยบอกว่ามีแมลงให้เลือกมากกว่า 10 ชนิด ได้แก่ ดักแด้ไหม หนอนรถด่วน สะดิ้ง จิ้งหรีด แมงกะชอน ตั๊กแตน เขียด แมงดานาตัวผู้ และตัวเมีย เป็นต้น โดยถือว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของบริษัท ในการมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้กับผู้บริโภคได้เลือกสรร นอกเหนือไปจากการคัดสรรแมลงที่มีคุณภาพจากฟาร์มเลี้ยงแมลงที่บริษัทเข้าไปร่วมพัฒนา และทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงแมลงทำให้ได้ตามมาตรฐานที่บริษัทต้องการ
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยที่ในปัจจุบันก็กำลังดำเนินการขอมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) หรือหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีสำหรับการผลิต เป็นการจัดการสภาวะแวดล้อมขั้นพื้นฐานของกระบวนกาผลิตในโรงงาน ขณะที่ในส่วนของผลิตภัณฑ์ อะบัคฟู๊ด ยังใช้นวัตกรรมในการดูดซับน้ำมัน ทำให้ได้แมลงทอดอบกรอบที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มรักสุขภาพด้วย
ด้านช่องทางการจำหน่ายในปัจจุบันหากเป็นรูปแบบของแมลงแช่แข็ง จะมีวางจำหน่ายอยู่ที่ห้างพี มาร์ท ซุบเปอร์สโตร์ ซึ่งเป็นห้างค้าส่งขนาดใหญ่ที่มีเปิดให้บริการประมาณ 30 สาขาในเขตพื้นที่ภาคอีกสาน และภาคเหนือ ขณะที่รูปแบบของการทอดอบกรอบจะมีจำหน่ายผ่านเว็บไซด์ของบริษัทเป็นหลัก โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางถึงขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีเดเวลลอปเม้นท์แบงก์ (SME Development Bank ) มีส่วนช่วยในการส่งเสริมทางด้านสินเชื่อ ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องในการบริหารจัดการต้นทุน อีกทั้งยังช่วยในการพาไปออกงานแสดงสินค้าทำให้มีฐานลูกค้าเพิ่มมารกขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เล็งขยายรายได้ 50 ล้านใน 3-5 ปี
วุฒิชัย บอกถึงแผนการทำตลาดว่า ในปี 2560 บริษัทวางเป้าหมายที่จะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 15-20 ล้านบาท จากเดิมที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ5-6 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยสำคัญจะมาจากการขยายตลาดของผลิตภัณฑ์แบบทอดอบกรอบภายใต้แบรนด์ “อะบัคฟู้ด” เข้าสู่ร้านจำหน่ายของฝากในแขตพื้นที่ภาคเหนือ ตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่ลงมาถึงนครสวรรค์ ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการทำสัญญาในการร่วมทำธุรกิจเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่ทำผลิตภัณฑ์ส่งให้กับร้านจำหน่ายของฝากดังกล่าวทั้งหมดตามออเดอร์เท่านั้นอีกทั้ง ยังเตรียมนำเสนอแพคเกจใหม่ในรูปแบบกล่อง เพื่อเจาะตลาดลูกค้าในระดับบน นอกจากนี้ ยังมีการทำตลาดในรูปแบบของออนไลน์ ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ได้เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้น ปัจจุบันกำลังดำเนินการเจรจาธุรกิจการค้ากับตัวแทนจำหน่ายในประเทศแถบยุโรป ซึ่งมีความสนใจในตัวของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก จากเดิมที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะมีตัวแทนจำหน่ายจากต่างประเทศติดต่อไปจำหน่ายทั้งในรูปแบบของแมลงแช่แข็ง และนำไปทอดขายเอง รวมไปถึงรูปแบบของการรับจ้างผลิต (OEM) หรือเป็นการทอดอบกรอบส่งไปจำนวนมาก เพื่อนำไปแบ่งขาย โดยปัจจุบันมีจำหน่ายที่ประเทศออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และเยอรมัน
นายวุฒิชัย กล่าวต่อไปอีกว่า ตามแผนระยะสั้นของบริษัท 3-5 ปี บริษัทมีแผนที่จะขยายช่องทางการตลาดของแมลงแช่แข็งไปสู่ศูนย์การค้าส่งแมคโคร โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาหาความเหมาะสม เนื่องจากแมคโครจะมีระยะเวลาของเครดิตค่อนข้างนาน ซึ่งอาจจะทำให้บริษัทมีปัญหาในเรื่องของสภาพคล่องได้ นอกจากนี้ ยังมีห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลที่สนใจนำผลิตภัณฑ์แมลงทอดอบกรอบไปจำหน่ายที่ ท็อปซุบเปอร์มาร์เกต
อย่างไรก็ดี บริษัทยังเตรียมที่จะนำผลิตภัณฑ์ อะบัคฟู้ค เข้าวางจำหน่ายที่บิ๊กซี และโลตัสด้วย เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยความคืบหน้าล่าสุดอยู่ในระหว่างขั้นตอนของการเจรจาหาข้อสรุปที่มีความเหมาะสมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งจากแผนการทำตลาดดังกล่าวทั้งหมด เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ประมาณ 50 ล้านบาทภายใน 3-5 ปี