“Trihub” ครบเครื่องเรื่องไตรกีฬา
ร้าน “ไตรฮับ” (Trihub) เป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับการเล่น ไตรกีฬา (วิ่ง ,ว่ายน้ำ และปั่นจักรยาน) ที่ถือว่าครบเครื่องที่สุด และเป็นร้านแรกที่ดำเนินธุรกิจโดยยึดกีฬาประเภทดังกล่าวเป็นแกนกลางในการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากทั้งการนำเข้า และแบรนด์ที่ผลิตภายในประเทศ
“ศศิทัต กุลทรัพย์ตระกูล” คือหนุ่มนักบินจากสายการบินแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ Start up ธุรกิจนี้ขึ้นมาจากความชอบ จนถึงขั้นหลงไหล (Passion) ในกีฬาชนิดดังกล่าวจนซึมเข้าไปอยู่ในดีเอ็นเอ (DNA) จนสามารถเชื่อมโยงให้ออกมาจนกลายเป็นธุรกิจของตนเองได้
จากผู้เล่นสู่ธุรกิจ
ศศิทัต ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท บี แอนด์ บี เอาท์ดอร์ สปอร์ต จำกัด บอกถึงที่มาที่ไปในการทำธุรกิจ ว่า มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ตนเริ่มเล่นไตรกีฬาเมื่อประมาณปี 54 โดยที่ในขณะนั้นอุปกรณ์เกี่ยวกับการเล่นกีฬาประเภทดังกล่าวยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย ต้องเดินทางไปซื้อที่ต่างประเทศ เมื่อเห็นตนชื่นชอบซื้ออยู่เป็นประจำจึงมีผู้แนะนำให้ทดลองผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับไตรกีฬาเข้ามาจำหน่าย จึงเปรียบเสมือนเป็นการจุดประกายไอเดียในการสร้างธุรกิจของตนขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ตนไม่ชอบทำธุรกิจแบบหิ้วของเข้ามาจำหน่าย เนื่องจากมองว่าไม่น่าจะเป็นแนวทางการทำธุรกิจที่ยั่งยืน แต่ตนต้องการที่จะทำให้เป็นระบบมากกว่า ไม่ใช่แค่พอทำแล้วเหนื่อยก็เลิกทำไป โดยธุรกิจที่ดีจะต้องมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายในระยะยาว ซึ่งในช่วงนั้นตนทำธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่าย(Distributor) กระเป๋าแบรนด์หนึ่งจากประเทศอังกฤษในภูมิภาคเอเชีย โดยจะต้องมีการเดินทางไปพบกับผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่จากประเทศเพื่อบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ฟิลิปปินส์ ,สิงคโปร์ ,ญี่ปุ่น ,เกาหลี และฮ่องกง
จากจุดดังกล่าวทำให้ตนมีโอกาสได้เห็นตลาดไตรกีฬาของประเทศเหล่านั้น ซึ่งมีการเติบโตอย่างมาก โดยมองว่าหลายแบรนด์ยังไม่มีจำหน่ายในไทย ตนจึงเริ่มนำอุปกรณ์ประเภทรองเท้า แว่นตาว่ายน้ำและขยายเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อต้องการสร้างแบรนด์ หรือสร้างความรับรู้ให้กับผู้บริโภคทำให้ตนต้องมีการออกงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับไตรกีฬาทุกงาน ทำให้ได้รู้จักกับแบรนด์อื่นเพิ่มเติม หรืออุปกรณ์อื่นที่มีจำหน่ายในตลาด จากที่เคยมีบ้านเป็นออฟฟิต และทำร่วมกับแฟนพร้อมกับพนักงานอีก 1-2 คนเริ่มจะไม่พอ เริ่มต้องการมีพื้นที่ในการโชว์ผลิตภัณฑ์
“จากการที่ออกบูธทำให้ได้รู้ว่าผู้ประกอบการรายอื่นก็ยังไม่มีพื้นที่ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหมือนกัน ตนจึงนำทั้งผลิตภัณฑ์ที่ตนนำเข้ามาจำหน่าย รวมถึงของผู้ประกอบการายอื่นทั้งที่นำเข้า และแบรนด์ไทยมาจำหน่ายด้วย พร้อมทั้งขายจักรยานให้กลายเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับไตรกีฬาที่สมบูรณ์แบบอย่างจริงจัง ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าแรกของไทยที่เป็นร้านเฉพาะของกีฬาประเทศนี้ และเกิดเป็นร้าน Trihub ขึ้นมาในที่สุดเมื่อปี 60 เนื่องจากไตรกีฬาในไทยมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างมาก”
ร่วมมือกันสร้างตลาด
ศศิทัต บอกว่า ตนเลือกที่จะใช้กลยุทธ์การร่วมมือกับผู้ประกอบการรายอื่นให้เติบโตไปด้วยกัน เนื่องจากมองว่าตลาดมีความกว้างพอสำหรับผู้เล่นทุกราย เพียงแค่จับมือกันทำให้เติบโต ช่วยกันขยายตลาด โดยหากคิดว่าตลาดมีอยู่เพียงเท่านี้ และต้องมาชิงกันจะลำบาก เพราะฉะนั้นจึงควรจะต้องร่วมมือกันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกัน น่าจะเป็นแนวทางการทำธุรกิจที่ยั่งยืนมากกว่า
“การร่วมมือกันเชื่อว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ โดยทั้งช่องทางของเราเอง และช่องทางของพาสเนอร์จะช่วยส่งกันทำให้ภาพรวมของตลาดใหญ่ขึ้น เปรียบเสมือนเป็นการช่วยกันโหมตลาด”
ส่วนกลยุทธ์ในการทำตลาดระยะต่อไปของ Trihub นั้น จะมุ่งเน้นการบริหารจัดการ และการวางระบบให้เป็นระเบียบในรูปแบบองค์กร หรือทำให้มีเสถียรภาพ เพื่อให้การเติบโตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จากเดิมที่การเติบโตจะเป็นเสมือนการหว่านแห โดยร้านจะมีการวางระบบสต็อก จัดทำระบบบัญชี ซึ่งจะทำให้รู้ได้ทันทีว่าผลิตภัณฑ์ชนิดใดจำหน่ายได้ดี และจะต้องสั่งมาเพิ่มเติมเมื่อใด ไม่จำเป็นจะต้องสต็อกไว้คราวละมากๆ เรียกว่าเป็นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีศักยภาพ
“เดิมทีตนจะใช้ความรู้สึกว่าควรสั่งผลิตภัณฑ์ใดเข้ามาจำหน่าย และมักจะสต็อกของไว้ครั้งละมากๆ ทำให้ต้นทุนจม แต่เมื่อมีการวางระบบแล้วตัวเลขจะบ่งบอกได้ชัดเจนว่าเราควรสั่งอะไร เมื่อไหร่ ผลิตภัณฑ์ชิ้นไหนที่ลูกค้านิยมซื้อ ตนเองก็จะสามารถวางมือไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้น มีการวางสายงานให้มีผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วน”
อย่างไรก็ดี เมื่อสามารถจัดสรรทุกอย่างให้เป็นระบบได้ ก็จะเป็นการปูทางไปสู่การขยายสาขาแห่งที่ 3 ในอนาคต โดยในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายเรื่องของรายได้ไว้ที่ 36 ล้านบาท และจะขยายเพิ่มเป็น 60 ล้านบาทในปี 63 ซึ่งจะมาจากการหาตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเติมในการสร้างยอดขาย โดยเป็นการเพิ่มเป้าอย่างมีเหตุมีผล เพื่อที่พนักงานจะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไปและรู้สึกว่าสามารถทำได้
“ช่องทางจำหน่ายปัจจุบันอยู่ที่ ร้าน Trihub สาขาพัฒนาการ ซอย 53 ,สาขาที่ห้างสรรพสินค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ,เพจเฟซบุ๊ก ,ยูทูป ,อินสตราแกรม (IG) และเว็บไซด์ (www.trihub.store)”
ตลาดยังเติบโตได้อีกมาก
ศศิทัต บอกอีกว่า แนวโน้มการเติบโตของตลาดทางด้านไตรกีฬายังมีอีกมาก เพราะผู้เล่นจะไม่เลิกเล่นกีฬาประเภทนี้ แต่จะเสพติดการพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งมากขึ้น อีกทั้งการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องของสุขภาพก็จะเป็นปัจจัยผลักดันที่ทำให้ตลาดขยายได้มากขึ้น นอกจากนี้ร้าน Trihub ยังถือว่ามีความได้เปรียบจากการรวบรวมกีฬาทั้ง 3 ประเภทมาไว้ด้วยกัน โดยสามารถตอบโจทยได้ทั้งนักไตรกีฬา และผู้ที่เล่นกีฬาแต่ละประเภทโดยเฉพาะ
“การทำตลาดในอดีตและปัจจุบันมีความยากง่ายแตกต่างกันไป โดยในอดีตการทำตลาดจะเป็นแบบการเจาะจง แต่การทำตลาดทุกวันนี้ต้องเป็นแบบบูรณาการ จะต้องมีการให้ความรู้ การให้บริการ การชี้นำเพื่อนำมาสู่ผลิตภัณฑ์ที่จะจำหน่าย ซึ่งผู้ประกอบการยุคใหม่จะต้องปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยี และช่องทางการทำตลาดใหม่ๆ เพราะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา”