“หมูฮ้อง แบรนด์ฮกเกี้ยน” สูตรออริจินอลพร้อมรับประทาน
เริ่มก่อนย่อมได้เปรียบใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ไม่เว้นแม้แต่ในโลกของธุรกิจ หากสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำตลาดมาก่อน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ยิ่งได้กลยุทธ์การทำตลาดที่มีประสิทธิภาพ ความสำเร็จก็อยู่เพียงแคเอื้อมมือถึง “สมโชค น่าเยี่ยม” ชายหนุ่มที่มีพื้นเพอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย คือผู้ที่สร้างธุรกิจขึ้นมาโดยการเลือกพิจารณาหาผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีในตลาด และ Startup ธุรกิจของตนเองขึ้นมา
–ต่อยอดไอเดียสู่ผลิตภัณฑ์
สมโชค ในฐานะผู้จัดการ บริษัท กระบี่ฟู้ดส์แอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด บอกถึงจุดเริ่มต้นของไอเดียในการทำธุรกิจว่า เดิมทีตนเองประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อมาขายไปสินค้าเกษตรทางภาคใต้ แต่ด้วยความที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ หรือกลุ่มสินค้าที่แยกความแตกต่างในเชิงคุณภาพได้ยาก (Commodities) ราคาจึงมีการขยับขึ้นลงได้ตลอดเวลา ประกอบกบที่ตนเองเป็นคนที่ชอบศึกษา และเปิดดูงบการเงินของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) อีกทั้งยังสนใจเรื่องหุ้น จึงได้มีโอกาสเข้าไปดูว่าธุรกิจเกี่ยวกับอะไรที่มีอัตราการเติบโตทุกปี โดยที่ไม่มีการปรับตัวลดลง ยอดไม่มีตก เรียกได้ว่าหากเป็นการแสดงผลในลักษณะของกราฟก็จะพุ่งสูงขึ้นตลอด ซึ่งส่วนใหญ่ก็พบว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร
ทั้งนี้ เมื่อได้ไอเดียที่คิดว่าน่าจะช่วยนำพาให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ หลังจากนั้นจึงมาพิจารณาดูว่าอาหารประเภทใดที่น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ แต่จะต้องยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดเคยทำมาก่อน เพราะจะถือว่าไม่ใช่ธุรกิจใหม่ที่ยังไม่มีคู่แข่งเข้ามา หรือบลูโอเชียล (Blue Ocean) และต้องสามารถเติบโตได้ในอนาคต ประกอบกับที่คุณแม่เป็นคนที่ทำอาหารอร่อย โดยมีเมนูหนึ่งที่เป็นอาหารที่หารับประทานได้ยากในปัจจุบัน เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการทำ และปรุงนานกว่าจะสำเร็จ
เมนูดังกล่าวนี้ก็คือ “หมูฮ้อง” ยิ่งพูดถึงรสชาติแบบดั้งเดิม หรือออริจินอลอย่างแท้จริงยิ่งหารับประทานได้ยากมาก ที่สำคัญยังไม่มีผู้ใดทำตลาด ดังนั้น ตนจึงเลือก หมูฮ้อง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับนำเสนอต่อผู้บริโภค และด้วยความที่เป็นเมนูตำหรับของจีนฮกเกี้ยน จึงตั้งชื่อแบรนด์ว่า “ฮกเกี้ยน”
–หมูฮ้องสูตรออริจินอล
สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์นั้น สมโชค บอกว่า อยู่ที่ความเป็นหมูฮ้องสำเร็จรูปเจ้าแรกในตาด โดยมีรสชาติที่เป็นออริจินอลอย่างแท้จริง และสามารถเก็บไว้รับประทานได้ถึง 1 ปีโดยไม่ต้องแช่ย็น ซึ่งเกิดจากนวัตกรรมที่เรียกว่าระบบรีทอร์ท (Retort) โดยเป็นกรรมวิธีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อ ซึ่งเป็นระบบแรงดันไอน้ำทำให้อาหารสามารถเก็บรักษาได้ยาวนาน และง่ายง่ายต่อการบริโภคเพียงแค่ฉีกซองก็รับประทานได้ทันที
“ตนไม่ได้จบทางด้านการออกแบบอาหาร แต่ก็รู้ว่ามีเทคนิคที่จะทำให้เก็บรักษาอาหารไว้ได้นาน แต่ยังไม่รู้ว่าจะเข้าถึงได้อย่างไร ตนจึงเริ่มค้นหาในกูเกิ้ลและได้พบกับสถาบันอาหาร ซึ่งจะช่วยให้สิ่งที่ตนคิดมีความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามใช่ว่าทุกอย่างจะดูง่ายดาย เพราะการส่งอาหารไปยังสถาบันเพื่อทดสอบก็เป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยาก เนื่องจากตนอยู่ที่จังหวัดกระบี่แต่อาหารต้องส่งไปทดลองที่กรุงเทพมหานคร และที่สำคัญอาหารจะต้องยังร้อนอยู่เมื่อไปถึง โดยเหนือกว่าความอร่อยก็คือวิธีการเก็บรักษาให้ได้ยาวนาน เมื่อได้กรรมวิธีที่เหมาะสมจึงกลับมาปรับปรุงสูตรให้ถูกใจผู้บริโภคมากที่สุด และยังคงไว้ซึ่งเครื่องเทศตามแบบฉบับดั้งเดิม เช่น อบเชย กระวาน พริกไทย รากผักชี และโป๊ยกั๊ก เพื่อรักษารสชาติอาหารตามต้นตำรับ ไม่มีการใช้ผงชูรสและวัตถุกันเสียแต่อย่างใด โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่ นักท่องเที่ยว ,วัยรุ่น ผู้บริโภคในจังหวัดกระบี่รวมถึงในพื้นที่ภาคใต้ และร้านอาหารที่ต้องการเพิ่มเมนูอาหาร”
–เล็งขยายตลาดพร้อมแตกไลน์ผลิตภัณฑ์
ส่วนช่องทางในการจำหน่ายนั้น มีทั้งรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์ โดยออฟไลน์จะเป็นการจำหน่ายผ่านร้านขายของฝากในภาคใต้ เช่น ที่พังงา ,กระบี่ ,ภูเก็ต เป็นต้น อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ไปร่วมงานไทยเฟล็ก (Thaiflex) ก็ได้รับความสนใจและดีรับการพิจารณาให้นำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายที่ร้าน กูร์เมต์ มาร์เก็ต (Gourmet Market) และท็อปส์ มาร์เก็ต (Tops market)ในช่วงกลางปีนี้ ขณะที่ช่องทางออนไลน์ก็จะมีการนำตลาดผ่านเพจเฟสบุ๊ก และไลน์แอด (Line@) เป็นหลัก
อย่างไรก็ดี ตนเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดในเมนู “แกงไตปลาน้ำสำเร็จรูป” ภายใต้แบรนด์ “หรอย” โดยยังยึดคอนเซ็ปป์การเป็นผู้ประกอบการายแรกที่เข้าไปทำตลาด เนื่องจากแต่เดิมแกงไตปลาที่มีในตลาดจะเป็นแต่แบบแห้ง โดยมุ่งหวังเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าในระดับล่าง ขณะที่ช่องทางการจำหน่ายจะมุ่งเน้นที่ร้านขายของฝาก และร้านโชว์ห่วยในพื้นที่ทางภาคใต้
“เรามุ่งเน้นที่อาหารท้องถิ่นของทางภาคใต้ที่รับประทานกันโดยทั่วไป พอมีไอเดียและเห็นว่ายังไม่มีผู้ประกอบการายใดเข้ามาทำตลาด บริษัทก็จะนำเสนอผลิตภัณฑ์นั้นออกสู่ตลาด โดยแกงไตปลาน้ำสำเร็จรูปจะมีอายุของผลิตภัณฑ์ประมาณ 1 ปีแบบไม่ต้องแช่เย็น นอกจากนี้ในส่วนของแบรนด์ ฮกเกี้ยน บริษัทก็เตรียมที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารที่เรียกว่า เกาหยุก ซึ่งทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์จะวางจำหน่ายในช่วงประมาณปลายปีนี้”
สมโชค บอกอีกว่า จากกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าวเชื่อว่า จะทำให้บริษัทมียอดรายได้เติบโตขึ้น 100% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณหลักล้านบาท เนื่องจากผลิตภัณฑ์เพิ่งเริ่มออกสู่ตลาด รวมถึงเพิ่งวางระบบโรงงาน จึงยังไม่ได้มีการทำตลาดมากนัก และเพิ่งเรียนรู้เรื่องบิหารจัดการทำให้ยังมียอดรายได้ไม่มากท่าใดนัก แต่จะค่อยๆทยอยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตามกลยุทธ์การทำตลาด.
–ผลิตภัณฑ์คุณภาพรักษามาตรฐาน
สมโชค บอกถึงหลักคิดในการทำธุรกิจด้วยว่า กุญแจที่ไขประตูไปสู่ความสำเร็จนั้น มองว่าหากตนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีให้ผู้บริโภค และรักษามาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะอย่างไรผู้บริโภคก็ย่อมมีความต้องการผลิตภัณฑ์ และเป็นฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นตลอดไป นอกจากนี้ การที่สามารถมองเห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงช่องว่างทางการตลาดที่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดเข้ามาทำตลาด และเป็นตลาดที่ใหม่อย่างแท้จริงความสำเร็จก็รอคอยอยู่ตรงหน้า