OH! MINE สลัดกรอบเพื่อสุขภาพอร่อยและมีประโยชน์
แนวทางการทำธุรกิจส่วนใหญ่มักมีจุดเริ่มต้นมาจากความชอบ หรือมาจากปัญหาที่ตนเองต้องประสบพบเจอจนสามารถมองเห็นแนวทางในการทำธุรกิจ “ปฤณ จำเริญพานิช” ก็เช่นเดียวกัน เลือกที่จะต่อยอดปัญหาของตนเองให้กลายเป็นธุรกิจ ภายใต้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแบรนด์ “โอ้มาย” (Oh!Mine) และ Startup ธุรกิจขึ้น
-จากปัญหาสู่ธุรกิจ
ปฤณ ในฐานะกรรมการ บริษัท เฮลตี้คอนเซ็ปต์ จำกัด บอกถึงจุดเริ่มต้นของไอเดียในการทำธุรกิจว่า มาจากความเจ็บปวดส่วนตัวที่เป็นโรคเก๊าท์ ซึ่งหมอก็จะสั่งให้ลดความอ้วน หรือห้ามรับประทานของที่มีกลูเตน (Gluten) และของหวาน แต่ว่าตนเองเป็นคนที่ชอบรับประทานขนมมาตั้งแต่เด็ก เมื่อหมอสั่งให้หยุดรับประทานก็คิดว่าจะต้องทำอย่างไรดี อีกทั้งตนเองยังเป็นคนที่ติดหนัง และซีรีย์ เมื่อถูกห้ามรับประทานขนมก็เสมือนทำให้อรรถรสในการชมขาดหายไป
จากประเด็นดังกล่าวทำให้ตนมาคิดว่า เหตุใดของที่มีประโยชน์อย่างผัก และผลไม้ต้องไม่อร่อย และจะมีหรือไม่ที่ขนมจะอร่อยและมีประโยชน์ด้วย ทำให้เกิดไอเดียในการทำธุรกิจขึ้นมา ประกอบกับคนไทยในปัจจุบันมีปัญหาเรื่องสุขภาพกันมาก ทำให้ต้องหันมามุ่งเน้นเรื่องการรักษาสุขภาพ แต่ส่วนใหญ่มักจะคิดว่ารับประทานอะไรก็ได้ เพราะออกกำลังกายที่ฟิตเนสอยู่แล้ว แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวเชื่อว่าสุขภาพที่ดีเริ่มต้นมาจากสิ่งที่รับประทานเข้าไปสู่ร่างกาย ไม่ใช่ว่ารับประทานอะไรก็ได้แล้วค่อยไปออกกำลังกาย เพราะเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ แต่ต้นเหตุที่แท้จริงมาจากอาหารที่รับประทาน
“อีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญก็คือแล้วอาหารอะไรล่ะที่ดีต่อสุขภาพ โดยตามหลักแล้วมนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ดังนั้น ผักและผลไม้จึงสำคัญต่อร่างกาย แต่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบ เพราะหากินยากและส่วนใหญ่คิดว่าวิตามินและแร่ธาตุสามารถหากินได้จากอาหารประเภทอื่น แต่มีสารอาหารประเภทหนึ่งที่เรียกว่า ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) ซึ่งเป็นสารสกัดจากพืช อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ได้ โดยเป็นสารอาหารที่มีอยู่ในผักผลไม้หลากสีเท่านั้น ยังไม่รวมสารอาหารประเภทไฟเบอร์ และประเภทอื่นๆ โดยที่คนส่วนใหญ่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงก็เพราะขาดสารอาหารประเภทดังกล่าวเหล่านี้”
-นวัตกรรมทอดสูญญากาศ
ปฤณ บอกต่อไปอีกว่า หลังจากที่ไอเดียตกผลึกแล้ว ตนก็ไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจนได้พบกับนวัตกรรมที่เป็นการทอดแบบสูญญากาศ ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณน้ำมันจากการทอดลงเหลือแค่เพียง 2% หรือประมาณ 15 เท่าจากการทอดขนมปกติ ซึ่งจะมีน้ำมันหลงเหลืออยู่ประมาณ 30% ตนจึงเลือกที่จะนำนวัตกรรมดังกล่าวมาปรับใช้กับผัก จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ผักที่เสมือนการอบแห้ง หลังจากนั้นจึงนำมามาปรุงรสด้วยผงสลัด ซึ่งไม่มีส่วนผสมของผงชูรส และสารประเภทอื่น
อย่างไรก็ดี ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ (Fiber) รวมถึงแร่ธาตุ วิตามินในปริมาณที่สูง และสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายอย่างไฟโตนิวเทรียนท์ ภายใต้คอนเซ็ปป์การเป็นผักที่แท้จริง (REAL VEGGIE) ,รับประทานได้อย่างมีความสุข (EAT HAPPY) และรับประมานได้โดยที่ไม่ต้องละอาย หรือรู้สึกผิด (NO GUILTY) เพราะนี่คือผัก โดยมีคำนิยามว่าเป็น “สลัดกรอบ” ซึ่งเบื้องต้นจะเริ่มทำตลาด 2 รสชาติ ได้แก่ 1.รสน้ำสลัดซีซาร์ และ 2.รสน้ำสลัดงาญี่ปุ่น
“เรื่องของสูตรต่างๆเราจะมีทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่คอยดูแล เราเข้าไปพูดคุยถึงคอนเซ็ปป์ที่ต้องการและให้ทีมวิจัยออกมา ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสูตร รสชาติ และกระบวนการต่างๆให้ลงตัวที่สุด โดยจากจุดเริ่มต้นไอเดียจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ต้องใช้ระยะเวลานาน 7-8 เดือน เพื่อให้สมบูรณ์แบบมากที่สุดก่อนที่จะนำออกสู่ตลาด”
-1 ซองเท่ากับผัก 200 กรัม
สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบรนด์ “โอ้มาย” นั้น ปฤณ บอกว่า เปรียบเสมือนการที่รับประทานสลัดหนึ่งจานในรูปแบบของสแนค หรือขนมรับประทานเล่น โดยถือเป็นอาหารหรือขนมแห่งอนาคต เนื่องจากสามารถแก้ปัญหาในการรับประทานของที่มีประโยชน์ได้ โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักที่คนรุ่นใหม่ และกลุ่มที่รักสุขภาพ ซึ่งสลัดกรอบ 1 ซองเท่ากับการรับประทานผัก 200 กรัม
ด้านกลยุทธ์ในการทำตลาดจะมุ่งเน้นที่ตลาดออนไลน์เป็นลำดับแรก เพราะกลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์เป็นคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ และพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพก็อยู่บนโลกออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นช่องทางที่ตนมีความถนัด หลังจากนั้นจึงขยายเข้าสู่ตลาดออฟไลน์บนช่องทางของโมเดิร์นเทรด และการเปิดรับตัวจำหน่าย
ส่วนการขยายต่างประเทศก็ได้มีการวางแผนเอาไว้แล้ว โดยจะมุ่งเน้นการออกบูธตามงานต่างๆ ผสมผสานกับเครือข่ายส่วนตัวที่มีอยู่ โดยที่ตนมีความเชื่อว่าการที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักของตลาดต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยาก เพราะปัจจุบันมีเครื่องมือประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นเสมือนประเทศหนึ่งประเทศที่มีประชากรทั้งโลกรวมอยู่นั่นก็คือเฟสบุ๊ก ดังนั้น เพียงแค่แบรนด์ไปสร้างการรับรู้ หรือสร้างความต้องการให้กับลูกค้าต่างประเทศ เมื่อลูกค้ามีความต้องการในโลกที่เชื่อมต่อกันด้วยระบบโลจิสติกส์ก็จะมีคำสั่งซื้อเข้ามา
“สำหรับประเทศที่มองไว้คือ โซนอเมริกา, โซนยุโรป, กลุ่มตะวันออกกลาง และก็จะมีกลุ่มประเทศในเออีซี (AEC) บ้าง โดยได้มีการวางแผนที่จะขอเครื่องมายฮาลาล เพื่อรับรองผลิตภัณฑ์ หลงักจานั้นบริษัทก็อาจจะมีรสชาติถัดไป หรือผลิตภัณฑ์ตัวถัดไปออกมาทำตลาดภายใต้คอนเซ็ปป์เดิมคือการเป็นอาหารที่มีประโยชน์และอร่อย”
-เล็งรายได้ 50 ล้านปี 61
ปฤณ บอกต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าวทั้งหมดเชื่อว่าจะทำให้มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาทในปี 61 และมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 5 ปี โดยมองภาพรวมของธุรกิจในอนาคตต้องการให้แบรนด์ “โอ้มาย” เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจว่าในความเป็นจริงแล้วการรักษาสุขภาพไม่ใช่เรื่องยาก โดยการออกกำลังก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือสิ่งที่รับประทานเข้าสู่ร่างกาย เราต้องการส่งต่อแนวคิดนี้ให้กับผู้บริโภคในวงกว้าง เพราะฉะนั้นคอนเซ็ปป์ของผลิตภัณฑ์เราทั้งในปัจจุบัน หรือในอนาคตทุกอย่างจะเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รับประทานแล้วมีความสุข
ขณะที่กุญแจที่ไขประตูไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจนั้น มองว่าอยู่ที่เรื่องของความสุข โดยคนส่วนใหญ่จะชอบอดทนแล้วก็ทนฝืนโดยมีความหวังว่าปลายทางจะมีความสุข แต่ตนมีความเชื่อว่าหากเราทำงานด้วยความสุขในแต่ละช่วง ก็จะมีแรงผลักดันให้มีก้าวที่ 2 และ 3 ต่อไปเรื่อยๆจนการทำงานไม่เหมือนกับการทำงาน และสุดท้ายก็จะไปถึงปลายทางได้เอง.