“บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์” สร้างธุรกิจจากวัฒนธรรมท้องถิ่น
ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบวิถีดั้งเดิมคือมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหล และเชื้อเชิญให้ได้เข้าไปสัมผัส “บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์” คือธุรกิจที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานของวิถีชุมชน โดย ประกาศิต เชอมือกู่ หรือโยฮัน ที่มีไอเดียแนวคิดในการนำเสนอวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวอาข่าให้กับนักท่องเที่ยวได้เข้ามารู้จัก และเรียนรู้ควบคู่ไปกับบรรยากาศความเป็นธรรมชาติที่สวยงาม
สร้างบ้านดินจากความเชื่อ
โยฮัน ซึ่งปัจจุบันคือเจ้าของกิจการ “บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์” และผู้นำชุมชนหมู่บ้านหล่อโย เล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นชาวอาข่าซึ่งมีความสนใจศึกษาหาความรู้อย่างมาก โดยเมื่อตอนที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้มีโอกาสเข้าไปเรียนที่ตัวเมืองจังหวัดเชียงราย หลังจากนั้นจึงได้ไปศึกษาที่ประเทศอิสราเอลอีก 2 ปี และต้องการจะไปศึกษาต่อที่ประเทศออสเตรเลีย แต่ติดปัญหาเรื่องของการขอวีซ่าโครงการศึกษาต่อจึงต้องยุติลง
เมื่อไม่ได้ไปศึกษาต่อจึงตัดสินใจกลับมาบ้านและใช้ชีวิตโดยการท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ จนได้มาพบกับลุงท่านหนึ่งซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับโฮมสเตย์พานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิถีชีวิตพื้นเมือง ทำให้ตนเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับโฮมสเตย์ โดยมองว่าคุณลุงที่จบการศึกษาชั้นประถมศึกษา 4 ยังสามารถทำได้ขนาดนี้ ตนที่มีวุฒิการศึกษาระดับอนุปริญญาตรีก็จะต้องไม่ยอมแพ้ พร้อมกับไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับมัคคุเทศก์เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจที่กำลังจะดำเนินการ
เมื่อความคิดทุกอย่างตกผลึกได้ที่แล้ว จึงตัดสินใจเลือกที่จะทำบ้านพักในรูปแบบของบ้านดิน เพราะดินที่หมู่บ้านจะเป็นดินที่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถนำมาสร้างเป็นบ้านพักได้ พร้อมกับที่ได้พบเห็นเศษขยะประเภทขวด และเศษไม้ที่ชาวบ้านตัดทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก เพราะทกคนจะเลือกใช้แต่ไม้ที่ตรงและไม่คดงอ ตนจึงรวบรวมวัสดุต่างๆดังกล่าวเหล่านี้มาสร้างเป็นบ้านดิน เพื่อทำเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว และ Startup ธุรกิจ “บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์” ขึ้นมาในปี พ.ศ. 2550
“ในช่วงแรกชาวบ้านเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตนต้องทำเป็นบ้านดิน แต่ก็ทำมาเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องด้วยความเชื่อในเป้าหมาย และเชื่อในสิ่งที่ตนกำลังทำจากบ้าน 4 หลังปัจจุบันก็มีเพิ่มเป็น 18 หลังในที่สุด พร้อมกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น”
ชูวัฒนธรรมชาวอาข่า
โยฮัน บอกต่อไปอีกว่า การทำธุรกิจในแนวทางของตนสามรถดำเนินการไปได้ด้วยดี เพราะไม่ต้องแย่งชิงทรัพยากรกับผู้ใด เนื่องจาก “บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์” เป็นการประยุกต์นำวัสดุเหลือใช้มาสร้างบ้านพัก โดยนำวิถีธรรมชาติ และการดำเนินชีวิตแบบชาวอาข่า ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน วัฒนธรรมการละเล่น มาเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะต้องดำเนินชีวิตในรูปแบบของชาวอาข่าทั้งหมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังมีทางเลือกให้สำหรับผู้ทีไม่สามารถรับประทานอาหารแบบอาข่าได้จริงๆด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ทางบ้านพักได้จัดเตรียมเอาไว้
“บ้านพักทั้ง 18 ห้องมีห้องน้ำในตัว และมีเครื่องทำน้ำอุ่นไว้คอยให้บริการ ที่สำคัญทุกห้องสามารถมองวิวที่เป็นธรรมชาติได้จากด้านหน้าห้องพัก โดยตนยังการท่องเที่ยวมาพัฒนาชุมชน จนปัจจุบันได้กลายเป็นผู้ใหญ่บ้าน และเป็นผู้นำในการพัฒนาชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านมีชีวิตความเป้นอยู่ที่ดีขึ้น โดยตนเชื่อเสมอว่าการให้มีความสุขมากกวาการรับเสมอ”
โซเชียลมีเดียหัวใจหลักการตลาด
สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดนั้น โยฮันเลือกที่จะใช้ช่องทางของโซเชียลทุกช่องทางที่จะสามารถทำได้ ทั้งในส่วนของเพจเฟสบุ๊ก และเว็บไซด์จองห้องพัก เป็นต้น นอกจากนี้ สิ่งที่ตนให้ความสำคัญเป็นอย่างมากก็คือการดูแลนักท่องเที่ยวเหมือนกับดูแลคนที่บ้าน หรือคนที่มาเยี่ยมเยือนบ้าน เมื่อนักท่องเที่ยวกลับไปก็จะไปเล่าถึงความประทับใจที่ได้พบ เสมือนเป็นการประชาสัมพันธ์แบบปากต่อปากที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก
“การใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการทำตลาดยุคปัจจุบันถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้สมาร์ทโฟนที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เนตได้ เมื่อมีการโพสภาพ หรือมีการรีวิวจากผู้ที่มาเข้าพัก ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวท่านอื่นต้องการที่จะเดินทางเข้ามาสัมผัสบ้าง ส่วนจุดเด่นของ “บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์” อยู่ที่การรักษาความเป็นธรรมชาติ รวมถึงได้ใกล้ชิดกับวัฒนธรรมชาวอาข่า และความเป็นชุมชนแบบชาวบ้าน โดยจะไม่เน้นการบริหารจัดการแบบโรงแรม”
ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจในอนาคต ต้องการจะให้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงที่ตนยึดหลักมาใช้ในการทำธุรกิจได้ถูกเผยแพร่ไปยังชุมชน และได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เพื่อนำไปพัฒนาชุมชนควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมตระหนักในเรื่องของการแบ่งปัน โดยให้ธุรกิจเติบโตไปอย่างช้าๆอยู่คู่กับชุมชน และให้เป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน
“ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางถึงขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีเดเวลลอปเม้นท์แบงก์ (SME Development Bank) มีส่วนสำคัญต่อการขยายธุรกิจของบ้านดินอาข่าโฮมสเตย์ทางด้านของการสนับสนุนเงินทุนในการให้สินเชื่อ ทำให้ได้มีงบประมาณมาต่อยอดจำนวนห้องพักจนขยายได้ถึง 18 ห้องในปัจจุบัน พร้อมทั้งยังสามารถนำมาปรับปรุงลานดิน และทางเดินต่างๆภายในที่พัก โดยช่วยให้สิ่งที่คิดได้กลายเป็นจริงขึ้นมาได้”