PERHAPS RABBITS เปิดประสบการณ์คาเฟ่แบบมีไสตล์
เมื่อโลกยุคใหม่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวด้วยการ “ชิม ช็อป แชะ แชร์” กลยุทธ์ทางการตลาดจึงต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วย ผู้ประกอบการจึงต้องงัดแงะกลเม็ดเด็ดมาห้ำหั่นกัน ผู้ใดที่ทำให้ผู้บริโภคซึ่งถือว่าเป็นผู้เลือกร้อง “ว้าว” ได้ตั้งแต่แวบแระที่เห็นย่อมได้เปรียบ
รับขวัญ จิรบวรวิสุทธิ์ คือหญิงสาวผู้สร้างความแตกต่างในตลาดของเบเกอร์รี่ได้อย่างเด็ดขาด ด้วยไอเดียความคิดสร้างสรรค์ในการตกแต่งร้าน และรูปลักษณ์ของขนมที่มีสไตล์ในแบบฉบับของทางร้าน จนสามารถสร้างปรากฎการณ์ความต้องการเข้ามาสัมผัสบรรยากาศ และลิ้มลองรสชาติของขนมที่เปี่ยมไปด้วยไอเดียของเจ้าของความคิดดังกล่าว
สร้างประสบการณ์แปลกใหม่
รับขวัญ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เค้กสนุก จำกัด และเจ้าของร้าน Perhaps Rabbits เล่าย้อนกลับไปให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของร้านให้ฟัง ว่า ก่อนหน้านี้ในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมามีความคิดที่จะทำร้านในรูปแบบคาเฟ่ โดยตั้งโจทย์ว่าจะต้องเป็นคาเฟ่ที่สร้างประสบการณ์ (experience) แปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค และแตกต่างจากร้านอื่นที่เปิดให้บริการ ซึ่งเมื่อตกผลึกทางความคิดบทสรุปของคาเฟ่ที่จะทำก็คือจะต้องเป็นรูปแบบของ “อลิซ อิน วันเดอร์แลนด์” (Alice In Wonderland) โดยมองว่าในตลาดของประเทศไทยยังไม่มีร้านในสไตล์แบบนี้
เมื่อได้ไอเดียแนวคิดของร้านที่แน่วแน่แล้ว โจทย์ในลำดับถัดมาก็คือ จะทำอย่างไรให้ร้านออกมามีความน่าสนใจ จนสามารถทำให้ผู้บริโภคต้องการที่จะเข้ามาสัมผัส และสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน และรูปลักษณ์ของขนมที่จะคอยให้บริการกับลูกค้า เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่น และชาวต่างชาติ เพราะการ์ตูนเรื่อง Alice In Wonderland เป็นการ์ตูนซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป โดยเด็กรุ่นใหม่จะดูการ์ตูนอย่างยูนิคอร์น (Unicorn) ,โฟรเซ่น (Frozen) และเอลซ่า (Elsa) เป็นต้น
สำหรับการตกแต่งร้านนั้น ก็ช่วยกันคิดขึ้นมาเองโดยมีสถาปนิก และอินทีเรีย (Interior) ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา เพราะเราจะไม่เข้าใจเรื่องขนาดของพื้นที่ และการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้พอดี แต่เรื่องของไอเดียในการตกแต่ง รวมถึงการเลือกสี และลวดลายการเพ้นท์บนกำแพงเราจะกำหนดกันเอง
เช่นเดียวกับไอเดียในการทำขนมซึ่งเราจะคิดรูปแบบกันขึ้นมาเอง โดยเรามีทีมงานที่คอยออกแบบให้อยู่แล้ว จากร้าน “ป็อบ มี อัพ” ซึ่งเปิดให้บริการก่อนหน้านี้ ร้าน Perhaps Rabbits จึงเสมือนเป็นการต่อยอดขนมมาอีกทอดหนึ่ง ซึ่งขนมที่ออกมาแม้ว่าจะเป็นเมนูแบบที่ร้านอื่นมี แต่จะต้องมีความอลังการของวันเดอร์แลนด์เป็นเอกลักษ์ โดยเราจะขายให้เป็นซิกเนเจอร์ (Signature) เมนูของที่ร้าน
“ทุกองค์ประกอบของ Perhaps Rabbits ได้กลายเป็นจุดเด่นของทางร้าน ที่ทำให้ผู้บริโภคต้องการเข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ที่เราได้สร้างสรรค์เอาไว้”
ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยระบบ
รับขวัญ บอกว่า กลยุทธ์ในการทำตลาดในช่วงเริ่มต้นนั้น คือ การรีวิวผ่านทางบทความของบล็อกเกอร์ (Blogger) รวมถึงการมีสื่อต่างๆที่สนใจในความคิดสร้างสรรค์เข้ามาสัมภาษณ์ ทั้งที่เป็นช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ควบคู่กันไป ขณะที่กลยุทธ์ในปัจจุบันก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด โดยจะเป็นรูปแบบของการซื้อโฆษณาผ่านเฟสบุ๊ก (Facebook) ซึ่งจะต้องมุ่งเน้นการใช้คำสำคัญ (Keyword) ที่สื่อให้บริโภคสนใจ
หลักคิดในการบริหารธุรกิจสำหรับ รับขวัญ นั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดเธอมองว่าคือแผนงาน เพราะเราต้องเดินหน้าไปด้วยบุคลากรทุกแผนก ดังนั้นจึงต้องมีแผนงานที่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น หากวันไหนที่มีผู้ใดหยุดงาน หรือผู้ใดงอแง หรือมีเหตุการณ์ที่ผู้ใดต้องลาออกไป ทุกคนจะต้องมีคนรับช่วงทำงานต่อได้ไวที่สุด ขณะที่ตัวเธอเองซึ่งเป็นเจ้าของร้านยังต้องสามารถทำได้ทุกอย่างภายในร้าน แม้ว่าหน้าที่หลักจะเป็นการบริหารงานอยู่หน้าร้าน แต่ตัวเธอเองก็สามารถที่จะเข้าไปทำหน้าที่อบขนม หรือบริหารงานหลังร้านได้ด้วย
“ระบบทุกอย่างในร้านเราจะเป็นผู้ที่ติดต่อเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบการขายหน้าร้าน (Point of sale: POS) หรือการติดต่อซัพพายเออร์ ที่สำคัญการทำงานทุกอย่างจะมีการแชร์ข้อมูลตลอดในกรุ๊ปไลน์เวลาทำงาน เมื่อตรงไหนเกิดสะดุดก็จะมีผู้ที่สามารถทำงานทดแทนได้”
ลงลึกถึงแก่นแท้ของขนม
รับขวัญ ยอมรับว่า ธุรกิจที่ทำอยู่ถือว่ามีความเสี่ยง เพราะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหารซึ่งอาจจะมีการเสีย โดยธรรมชาติของธุรกิจคาเฟ่คือ ช่วง 1-2 เดือนแรกจะค่อนข้างเติบโตแบบก้าวกระโดด ไม่เหมือนแต่ก่อนที่กว่าจะทำให้ดังได้ต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่สมัยนี้คือโตเร็วแต่จะอยู่ได้ยากกว่า เพราะจะค่อยๆแผ่วลงมาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทราบอยู่แล้วตั้งแต่ต้น สิ่งที่สำคัญก็คือจะทำอย่างไรเมื่อกระแสแผ่วลงแล้วแต่ยังสามรถรักษาระดับเอาไว้ได้ โดยที่ผ่านมาเราประสบปัญหาเรื่องของพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะรับประทานขนมเพียงแค่คนละชิ้น
ทั้งนี้ ในความที่เราต้องการเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ด้วยรูปแบบของวันเดอร์แลนด์ เราเลยดำเนินการจัดทำวันเดอร์แลนด์ในรูปแบบของการนำกลับไปรับประทานที่บ้าน ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถเก็บขนมได้โดยไม่เสียรูปทรง ทำให้ความเป็นวันเดอร์แลนด์ของขนมยังคงอยู่ไปจนถึงที่บ้าน ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ดี ล่าสุดทางร้านกำลังจะเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ด้วยรูปแบบของการทำเค้กในรูปแบบของตนเอง (D.I.Y.) อีกทั้งในอนาคตอาจจะมีผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมในรูปแบบของเสื้อ จาน ชาม และแก้ว เป็นต้น ที่เป็นวันเดอร์แลนด์ เพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับทางร้าน
ส่วนภาพรวมของธุรกิจในอนาคตนั้น รับขวัญ บอกว่า ต้องการขยายสาขาออกไปอีก 3 สาขาให้ได้ และต้องการพัฒนาให้ถึงแก่นมากขึ้น เช่น การมีฟาร์มเป็นของตัวเอง เพื่อผลิตวัตถุดิบที่สำคัญในการทำขนม หรือเครื่องดื่มป้อนให้กับทางร้าน เพื่อที่เราจะได้สามารถควบคุมทุกอย่างได้ด้วยตนเอง โดยเชื่อว่าเป็นแนวทางที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนของธุรกิจ.