2KISS นวัตกรรมใหม่เพื่อริมฝีปาก
เครื่องสำอางถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างผู้ประกอบการอายุน้อย 100 ล้านมาแล้วนับไม่ถ้วน ทั้งที่ปรากฏออกสื่อ และไม่ประสงค์อยากเป็นบุคคลสาธารณะ เพราะไม่ว่าจะเป็นยุคไหนสมัยไหนเครื่องสำอางก็ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับสุภาพสตรี ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจช่วงนั้นจะเป็นเช่นไร
ทิพานัน ศิริชนะ คือหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่มองเห็นช่องทางจากตลาดเครื่องสำอาง และก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ และเป็นส่วนหนึ่งของตลาดการแข่งขัน โดยมุ่งมั่นสร้างผลิตภัณฑ์จากนวัตกรรม และสามารถ Startup ธุรกิจขึ้นมาได้ภายใต้แบรนด์ “ทูคิส” (2KISS)
มาก์สปากเจ้าแรกของไทย
ทิพานัน ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท บรรดามี จำกัด เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของไอเดียความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างธุรกิจให้ฟังว่า ตนเองมีงานประจำอยู่แล้วเป็นทนายความ และเป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย เพราะฉะนั้นจึงได้นำความเชี่ยวชาญดังกล่าวมาปรับประยุกต์ใช้ผสมผสานกับนวัตกรรม เพื่อสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ โดยเลือกที่จะทำในรูปแบบของแผ่นเจลลี่บำรุง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก (2KISS Jelly Lipmask) หรือมาก์สปาก ซึ่งถือเป็นเจ้าแรกในตลาดประเทศไทย จากเดิมที่ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์เพื่อริมฝีปากจะมาในรูปแบบของลิปมัน
2KISS Jelly Lipmask เป็นสารสกัดที่ทำมาจากทับทิบในรูปแบบของเจลลี่ โดยมีคุณสมบัติในการช่วยผัดเซลล์ผิวด้วยนวัตกรรมที่ช่วยผลักวิตามินเข้าไปที่เซลล์ริมฝีปาก ซึ่งจะมีผลทำให้เซลล์ที่แห้งที่ตายแล้วหลุดลอกออกจากปาก โดยไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บเหมือนเวลาที่ลอกออกด้วยมือ แต่หากผู้ใช้ริมฝีปากไม่ได้แห้ง หรือแตกตัวผลิตภัณฑ์ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ ซึ่งจะแตกต่างจากการใช้ลิปมันที่มีคุณสมบัติเพียงเพื่อเป็นการเคลือบริมฝีปากเอาไว้ และดึงน้ำในร่างกายออกมา แต่ 2KISS Jelly Lipmask จะผลักเข้าไป
“2KISS Jelly Lipmask จะมีสารสกัดเข้มข้นจากทับทิมเปอร์เซีย บำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น (Pomegranate) พร้อมด้วยคุณสมบัติเติมเต็มร่องลึกบนผิวริมฝีปากให้เนียนสวย (Hyaluron) และลดรอยหมองคล้ำให้ริมฝีปากเนียนนุ่ม จากวินตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระ”
รุกออนไลน์และออฟไลน์
สำหรับช่องทางในการทำตลาดนั้น ทิพานัน บอกว่า ใช้ทั้งช่องทางของออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยในส่วนของออนไลน์ ประกอบด้วย เว็บไซด์บิวติคูลดอทคอม (www.beauticool.com), เว็บไซด์บิวตี้นิสต้าดอทคอม (www.Beautynista.com), เฟสบุ๊กของบริษัท (www.facebook.com/2kissofficial) และไลน์ (https://line.me/R/ti/p/%402kiss) ขณะที่ช่องทางออฟไลน์จะมีจำหน่ายที่ร้าน สตาร์ดัซท์ (STARDUST) ทั้ง 8 สาขาทั่วประเทศ
ขณะที่การทำตลาดในต่างประเทศ จะเป็นแผนในระยะ 6-7 เดือนข้างหน้า โดยมองไปที่ตลาดผู้บริโภคในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เนื่องจากเคยมีลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวนี้มาซื้อผลิตภัณฑ์ไปใช้ อีกทั้งด้วยวัฒนธรรมการแต่งกายเวลาที่จะต้องออกนอกทีอยู่อาศัยจะต้องเป็นไปในลักษณะที่มิชิด สิ่งที่จะปรากฏให้กับผู้คนได้เห็นก็คือปากและดวงตา เพราะฉะนั้น ริมฝีปากจึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
“หากถามถึงเป้าหมายทางด้านรายได้ ต้องบอกว่าเป็นผลลัพธ์ที่ตามมาจากการทำธุรกิจ เพราะจุดประสงค์ที่แท้จริงของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ก็เพื่อต้องการให้เครื่องสำอางแบรนด์ไทย และแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมที่คนไทยก็สามารถทำได้ โดยในช่วง 1-2 ปีแรกที่ทำตลาดอาจจะไม่ได้มีการสรุปตัวเลขที่ชัดเจนแต่จะมุ่งเน้นที่การสร้างแบรนด์ และแนะนำผลิตภัณฑ์มากกว่า เพราะผู้บริโภคกว่า 90% ไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากในรูปแบบดังกล่าวนี้ ปกติจะใช้เป็นแบบลิปมัน แต่ 2KISS Jelly Lipmask จะเป็นการบำรุงแบบใหม่ โดยที่คุณภาพจะเป็นแบบ food grade เพราะใช้กับริมฝีปากซึ่งเป็นส่วนที่บอบบางที่สุด เพราะฉะนั้นจึงต้องมีความปลอดภัยในระดับสูง”
คุณภาพสูงและปลอดภัย
ทิพานัน บอกถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ด้วยว่า อยู่ที่การใช้แล้วเห็นผล หรือเห็นความแตกต่างในทันทีหลังจากที่ใช้ โดยสามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย อีกทั้งยังเป็นมาส์กปากเจ้าแรกของประเทศไทย และผลิตจากโรงงานที่มีคุณภาพมาตรฐาน GMP/ISO รวมถึงได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) และไม่มีแอลกอฮอล์ หรือสารอันตราย ที่สำคัญยังมาพร้อมนวัตกรรมการผลักวิตามินล้ำลึกเข้าสู่เซลล์บริเวณริมฝีปาก
การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ 2KISS Jelly Lipmask มีเป้าหมายหลักคือ ตนนั้นต้องการทำผลิตภัณฑ์ให้เป็นลายเส้น (Signature) ของประเทศไทย โดยการที่เข้ามาตรงนี้ทำได้ทั้งความรู้และความสามารถในการควบคุมผลิตภัณฑ์ ซึ่งมุ่งหวังให้เป็นจุดตั้งต้นในการปลุกกระแสให้เกิดการตื่นตัวเรื่องความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ เพราะผลิตภัณฑ์ของเราจะมุ่งเน้นว่าต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด แม้ว่าจะมีต้นทุนในการผลิตสูงก็ตาม แต่มั่นใจว่าผู้บริโภคจะต้องปลอดภัย และชื่นชอบเมื่อได้ทดลองใช้
“เป้าหมายในภาพรวมของธุรกิจในอนาคตนั้น ต้องการให้ผลิตภัณฑ์ 2KISS Jelly Lipmask เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น โดยให้มองว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องใช้เป็นประจำ ที่สำคัญจะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจที่จะเลือกใช้ โดยคนส่วนใหญ่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะดื่มน้ำน้อย นอนดึก หรือแพ้อาหาร จึงเป็นสาเหตุของการทำให้ริมฝีปากแห้ง แตก ดำ และคล้ำ”.