HOLEN จับวัฒนธรรมไทยใส่ไอเดียสู่ธุรกิจ
ธุรกิจส่วนใหญ่เริ่มต้นจากไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ มองเห็นโอกาสและช่องทางที่จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค วิพาสน์พร ศรีพุ่ม และกลุ่มเพื่อนอย่างอมรเทพ ธนะกูล ,ศีลวัตร วีรกุล และสุวโรจน์ รัตนทองคง คือกลุ่มคนรุ่นใหม่นักออกแบบที่หยิบจับศิลปวัฒนธรรมไทย
ซึ่งเป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งมาประยุกต์เป็นธุรกิจได้อย่างสมศักดิ์ศรี ที่ใครได้เห็นต่างก็ต้องประทับใจภายใต้แบรนด์ “ Holen ”
ต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม
วิพาสน์พร บอกเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของธุรกิจ Holen ว่า เดิมทีพวกเธอคือกลุ่มนักออกแบบที่เปิดบริษัทร่วมกัน โดยรับงานทางด้านของการดีไซน์เซอร์วิส การพัฒนาสินค้า และผลิตภัณฑ์การทำแบรนด์ดิ้ง จนได้มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมในการออกแบบสินค้าที่ระลึก 77 จังหวัดของประเทศไทยภายใต้โครงการ “ฝากไทย” ทำให้มองเห็นถึงโอกาสในการนำวัฒนธรรมของประเทศไทยมาต่อยอดเป็นธุรกิจของตนเอง ด้วยข้อดีทางด้านของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และสินค้าประเภทของทีระลึกก็เป็นตลาดที่น่าสนใจ
“ สินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่มีอยู่ในตลาดส่วนใหญ่จะมีลักษณะที่คล้ายๆกัน ดังนั้น จึงเกิดแนวคิดในการสร้างสินค้าที่ระลึกที่ผสมผสานวัฒนธรรมไทย โดยคำนึงถึงผู้รับซึ่งจะได้รับมอบประสบการณ์ความพิเศษจากผู้ให้ โดยเลือกสิ่งที่คุ้นชินเป็นอย่างดีกับสังคมไทยมาสร้างสรรค์ และออกแบบให้กลายเป็นสินค้าที่แตกต่างในตลาด แบรนด์ Holen จึง Startup ขึ้น ”
รามเกียรติ์ คือคาแรกเตอร์ หรือคอลเลคชั่นแรกที่ Holen เต็มใจที่จะนำเสนอสู่ผู้บริโภคให้ได้ร้อง“ ว้าว ” เวลาที่เห็น หรือได้รับเป็นของขวัญจากผู้ให้ โดยวิพาสน์พร ให้เหตุผลว่า ที่เลือกหยิบเรื่องราวของ รามเกียรติ์ ขึ้นมาเป็นสื่อที่จะส่งมอบความประทับใจให้กับลูกค้า ก็เพราะคาแรกเตอร์จากเรื่องดังกล่าวเปรียบเสมือนเป็นประตูด่านแรกที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ที่สนามบิน อีกทั้งเมื่อมาเที่ยวยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วก็ยังได้พบเห็นตัวละครที่อยู่ในเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะเกิดความคุ้นชินกับตัวละครเหล่านี้เป็นอย่างดี เมื่อถูกนำมารวมกับความคิดสร้างสรรค์ทางการออกแบบให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ จึงง่ายต่อการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ใส่ใจทุกรายละเอียด
สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Holen นั้น วิพาสน์พรบอกว่า อยู่ที่เรื่องของการออกแบบที่ผ่านขั้นตอนของการลองผิดลองถูก ทั้งทางด้านของเทคนิค รวมถึงด้านความสวยงาม และอาศัยความร่วมมือกับซัพพายเออร์ค่อนข้างมาก เพราะความตั้งใจที่จะทำให้สินค้าที่วางจำหน่ายเป็นมากกว่าของขวัญ ซึ่งผู้ที่ได้นอกจากจะได้เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมก็จะได้ส่งต่อวัฒนธรรมในรูปแบบของสินค้าที่ระลึก ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์แก้วเซรามิคที่ออกแบบให้มีความโดดเด่นจากคาแรกเตอร์ของตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งจะมีลักษณะของส่วนเว้า ส่วนโค้งให้เป็นลักษณะของใบหน้าจริงไม่ใช่เพียงแค่เป็นรูปปริ๊นสกรีนมาแปะไว้บนแก้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของบรรจุภัณฑ์ที่การออกแบบจะถูกออกแบบเป็น 2 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่ ด้านการใช้งาน และความสวยงาม ซึ่งทางด้านของการใช้งานนั้น Holen ได้มีการออกแบบโครงสร้างใหม่ให้สามารถปกป้องสิ่งของที่อยู่ภายในได้ ป้องกันการแตกหักที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุบนที่สูงในระดับหนึ่ง โดยกระบวนการผลิตทุกอย่างจะต้องผ่านการทดสอบนับครั้งไม่ถ้วน ว่าสามารถปกป้องสิ่งของที่อยู่ภายในได้จริง ไม่ทำให้แตก หรือเสียหาย ซึ่งพิสูจน์ได้จากการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ที่ยังไม่เคยประสบปัญหาเรื่องการแตกหักของสินค้า
ใช่ว่าการออกแบบโครงสร้างของบรรจุภัณฑ์จะคำนึงแต่เรื่องของการปกป้องผลิตภัณฑ์ แต่เรื่องของความสวยงามก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะมีการจัดวางโครงสร้างให้สามารถที่จะโชว์ความโดดเด่นของสินค้าได้ นอกจากนี้ยังมีการใส่เนื้อเรื่องย่อของรามเกียรติ์ลงไป เพื่อให้เห็นวิธีการคิดของโปรดักส์ และการนำเทคโนโลยี QR Code มาใช้ เมื่อผู้ซื้อสแกนลงไปกูเกิ้ลก็จะบ่งชี้ไปที่วัดพระแก้ว ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว
ขณะที่หนุมานจำแลงกายคืออีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากด้านการออกแบบ โดยวิพาสน์พรถึงกับให้คำนิยามว่า สมบูรณ์แบบทั้งในแง่ของคอนเซปป์ และดีไซน์ ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นตุ๊กตาหนุมาน แต่สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างให้กลายเป็นหมอนหนุนคอพร้อมฮู๊ดสำหรับใช้ในการเดินทางได้ ด้านผลิตภัณฑ์อื่นก็มีความโดดเด่นในลักษณะพิเศษที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นที่รองแก้ว ,ผ้าปิดตา ,ถุงกระเป๋าพับเก็บได้ และตุ๊กตาประจำวันเกิด
เล็งขยายช่องทางจำหน่าย
ปัจจุบัน Holen มีช่องทางหลักในการจำหน่ายบนออนไลน์ทางเว็บไซด์ www.holenhello.com รวมถึงมีสินค้าวางจำหน่ายอยู่ที่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ และการออกงานแสดงสินค้า อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางปี 2560 จะมีการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายไปสู่สนามบินสุวรรณภูมิ และการมีหน้าร้านเป็นของตนเองอย่างเป็นทางการ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ผู้ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย โดยเฉพาะผู้ที่มีเพื่อนชาวต่างชาติ รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ที่นิยมซื้อสินค้าเป็นของพรีเมี่ยมมอบให้กับลูกค้าต่างประเทศ และกลุ่มเด็กที่ชื่นชอบในเรื่องราวของรามเกียรติ์
ส่วนในอนาคตนั้น วิพาสน์พร บอกว่า จะมีสินค้าที่ระลึกคอลเลคชั่นอื่นออกมาทำตลาดเพิ่มเติมอย่างแน่นอน ขณะที่คอลเลคชั่นของรามเกียรติ์ก็จะมีการออกสินค้ารูปแบบอื่นออกมาจำหน่ายเพิ่มเติม เพราะถือว่าเป็นจุดแข็งของแบรนด์ และภาพจำของลูกค้าที่สามารถต่อยอดได้
“ สิ่งที่สำคัญที่เรามุ่งเน้นก็คือการไม่หยุดคิด และสร้างสรรค์สินค้าที่ดีออกสู่ตลาดให้ผู้บริโภคได้ตื่นตาตื่นใจ ส่วนยอดขายจะเป็นผลพลอยได้ที่ตามกลับมา ขณะที่การขยายแบรนด์ออกไปต่างประเทศ น่าจะเป็นทิศทางในอนาคตหากมีความเป็นไปได้ เพราะเรายังไม่แน่ใจว่าด้วยเนื้อหาความเป็นไทยอย่างมาก ตลาดต่างประเทศจะรู้สึกถึงได้มากน้อยแค่ไหน โดย Holen มีวัตถุประสงค์ในการเป็นสินค้าที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อกลับไป หรือคนไทยซื้อและส่งต่อไปยังต่างประเทศ ”