อายุน้อย 700 ล้านทำได้แค่ลงมือทำก่อน-พร้อมที่จะเหนื่อย
วันเดือนปีเกิดที่ถูกสลักลงบนบัตรประชาชนไม่ใช่สิ่งที่จะพิสูจน์ความสำเร็จของการทำธุรกิจ ไม่เช่นนั้นคำกล่าวที่ว่า “อายุน้อยร้อยล้าน” คงจะไม่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ วาล์วน้ำ แวววรรณ กันต์นันท์ธร คือบทพิสูจน์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี กับการปั้นแบรนด์ “โรสโกลด์” จนมีมูลค่าหลายร้อยล้านบาทด้วยวัยเพียง 21 ปี
จุดเริ่มต้นธุรกิจ
แวววรรณ บอกว่า ตัวเธอเดินทางตามสายของแม่ค้ามาตั้งแต่ยังเด็ก จากการที่ธุรกิจของครอบครัวที่บ้านเปิดร้านขายส่งเครื่องประดับอยู่ที่สำเพ็ง ทำให้เธอซึมซับและชอบการค้าขาย และทำให้ชอบการค้าขายมาตั้งแต่เด็ก อย่างไรก็ดี มีเหตุการณ์ที่พลิกผันจากปัญหาทางธุรกิจของครอบครัว ส่งผลทำให้ครองครัวของเธอต้องมีหนี้สินเกินกว่า 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นเสมือนเป็นแรงผลักดันให้ตัวเธอเริ่มหาเงินเพื่อเลี้ยงตนเอง โดยมีความใฝ่ฝันว่าต้องการที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจให้ได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขอเงินพ่อกับแม่ใช้ และหันมาตั้งตัวเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวตั้งแต่อายุ 13 ปี
อย่างไรก็ดี แม้ว่าด้วยอายุที่น้อยต่อการเป็นนักธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อเรื่องความน่าเชื่อถือ เพราะตัวเธอได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าอายุ หรือวันเดือนปีเกิดก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือโลกยุคใหม่ที่ไม่ใช่โลกใบเดิม ซึ่งเปิดกว้างไม่ปิดกั้น โดยสิ่งที่ตัวเทอทำ การกระทำ หรือแม้กระทั่งคำพูด ทุกอย่างที่ทำในธุรกิจ จะต้องไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าตัวเทออายุ 21 ปี จะต้องสร้างให้เกิดความเชื่อมั่น
“ทุกวันนี้ลูกค้า หรือพาร์ตเนอร์ที่เข้ามาแล้วให้ความศรัทธาให้ความไว้วางใจ ล้วนแล้วเกิดจากสิ่งที่ต้องสัมผัสได้จริงเสมอว่า รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ว่าเชื่อใจในตัวเรา”
ลงมือทำก่อน ยอมที่จะเหนื่อยกว่า
แวววรรณ บอกต่อไปว่า จุดเริ่มต้นของแบรนด์ เกิดขึ้นจากความหลงใหล ชื่นชอบ (Passion) ความรักในการดูแลผิว โดยที่ตัวเธอชอบสะสมพวกสกินแคร์ หรือเครื่องสำอางมากมาย จนทำห้เธอต้องหมดเงินไปกับเรื่องดังกล่าวเป็นหลักล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ตัวเธอเองอาจจะไม่ได้กล้าที่จะบอกว่าวันนี้สำเร็จที่สุด เพราะแน่นอนว่ายังมีคนที่เก่งกว่าอยู่อีกมากมาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจของตัวเธอ ก็คือการลงมือทำก่อนคนอื่น ยอมที่จะเหนื่อยกว่า และใช้ระยะเวลามากกว่า นอกเหนือจากความสำเร็จ คือ การที่เราทำธุรกิจแล้วจะต้องสำเร็จระยะยาวให้ได้
“วันนี้จะต้องเติบโต ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง และต้องรู้อยู่ตลอดเวลาว่ามีคนที่เก่งกว่าอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นต้องห้ามหยุดพัฒนาตัวเอง และก็ยึดมั่นในความถูกต้องอยู่ตลอดเวลา บริษัทก็จะเติบโอย่างมั่นคง นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับตน”
แวววรรณ บอกว่า ลงทุนก้อนแรกด้วยเงินประมาณ 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินตัวเองทั้งหมดจากการทำธุรกิจหลากหลายรูปแบบที่ตัวเธอสะสมมา บวกกับไปหากู้คนอื่นมาด้วย พร้อมกับมีเป้าหมายในชีวิตว่าต้องสำเร็จให้ได้ แม้จะมีคนรอบข้างบอกว่าเป็นไปไม่ได้ และห้ามไม่ให้ทำ เพราะเสี่ยงเกินไป แต่ด้วยความคิดที่ใหญ่เกินตัว เธอก็ทำได้สำเร็จ สินค้าที่นำเข้ามาถึงเมืองไทยตอนนั้น 20,000 ชิ้น ขายหมดภายในอาทิตย์เดียว
“สินค้าที่เลือกนำมาจำหน่ายเป็นครีมที่ตัวเธอเดินทางไปผลิตที่ประเทศเกาหลีกับแล็บชื่อดังที่ฮานาคอส ซึ่งเป็นแล็บที่เคาน์เตอร์แบรนด์ทั่วโลกทำ เรียกว่าเป็นสินค้าชิ้นแรกของแบรนด์โรสโกลด์เลยที่เป็นตำนานมากๆ ในการที่มีวันนี้ได้ ในตอนนั้นตนต้องเจอสิ่งมากมายที่อยู่รอบข้าง ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อน หรือใครก็ตามล้วนบอกว่าไม่ให้ทำ เพราะดูใหญ่เกินตัว ถ้าพลาดคือจบเลย แต่ว่าตนไม่เชื่อ เชื่อตัวเองมากๆ ในการใช้ทุนทั้งหมดที่มีไปผลิตที่ต่างประเทศ แล้วกลับมามีตัวเลือกเดียวที่ให้ทำคือ สินค้าที่ทำมาต้องหมดเท่านั้น”
ห้ามมีข้ออ้าง
แวววรรณ บอกต่ออีกว่า ยอดขาย 700 ล้านเป็นยอดขายที่เป็นยอดขายตั้งแต่เปิดแบรนด์โรสโกลด์มา โดยยอดขายนี้เป็นยอดขายธุรกิจมากกว่า เป็นยอดธุรกิจของตัวแทนโรสโกลด์ ที่ขายของสู่ผู้ใช้จริงๆ เป็นยอดมูลค่าของแบรนด์โรสโกลด์ที่ตอนนี้มูลค่าถึง 700 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นตัวครีมที่ขายหมด (Sold Out) หรือครีมที่ก้าวเข้าสู่ล็อตที่ 11 แล้ว หรือจะเป็นซาคานะ คอลลาเจนที่ก้าวเข้าสู่ล็อตที่ 9 และยังมีสินค้าตัวอื่น ที่เคียงคู่กันไป ไม่ว่าจะเป็นเจลล้างหน้า หรือเจลแต้มสิว หรือสินค้าตัวต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้น
“สิ่งสำคัญในการทำให้ธุรกิจสำเร็จได้ในระยะยาว คือ ต้องสำเร็จบนความสำเร็จของลูกค้า ซึ่งหมายความว่า ทุกคนต้องมีรายได้และมีผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ไม่ใช่สำเร็จเพียงแค่เจ้าของธุรกิจ แต่ตัวแทนจำหน่ายก็ต้องสำเร็จด้วย รวมไปถึงลูกค้าด้วยเช่นเดียวกัน”
อย่างไรก็ดี ที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ได้ แวววรรณบอกว่าเกิดจากการลงมือทำทั้งสิ้น หากมัวแต่มีข้ออ้างให้กับตัวเอง ก็คงไม่เจอกับความสำเร็จได้ในวันนี้อย่างแน่นอน โดยหลายคนมักมีข้ออ้าง หรือข้อจำกัดให้ตัวเองในขณะที่ยังไม่ลองลงมือทำ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าทำไม่ได้
“ไม่ว่าจะอายุไหนก็แล้วแต่ ทุกคนมีข้ออ้างให้ตัวเองได้หมด แต่ถ้าเราเอาข้ออ้างนั้นออกไป แล้วลุยในสิ่งที่เราเป็น มั่นใจในสิ่งที่เราทำ นั่นคือ สิ่งสำคัญที่สุด หรือแม้กระทั่งข้ออ้างในความรัก ถ้าตนพูดถึงความสำเร็จในความรัก ในครอบครัว ถ้าเรามีข้ออ้างที่จะดูแลครอบครัว มีข้ออ้างที่จะรักกัน มีข้ออ้างที่จะให้เวลากัน มันก็ล้มเหลว ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่เจอ”
นอกจากนี้ การทำธุรกิจไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร แข่งขันกับตัวเองดีที่สุด เพราะเธอมองว่าหากมัวแต่มองคนอื่น แล้วนำกรอบความคิดคนอื่นมาครอบงำตัวเอง จะไม่สามารถพัฒนาตัวเองเติบโตได้ในอนาคต โดยมองว่าวิธีคิดสำคัญกว่าวิธีการ คนส่วนใหญ่จะชอบคิดว่าสำเร็จยังไง แม้กระทั่งทุกวันนี้ทำช่องยูทูบจะมีแฟนคลับคอมเมนต์มาเยอะมาก อยากรู้วิธีการเข้ามาเยอะมาก ถ้าเจออุปสรรคต้องทำยังไง เจอลูกค้าพูดแบบนี้ต้องทำยังไง จะเจอมาเยอะมาก
สำคัญกว่าคือวิธีคิดว่าจะคิดแก้ปัญหาแต่ละปมยังไง ทุกเรื่องที่เจอ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านความรู้สึก ปัญหาทางด้านธุรกิจ ปัญหาในด้านอะไรก็แล้วแต่ สิ่งแรกที่ต้องตั้งสติคือใจของตนเอง ต้องตั้งสติให้ได้ก่อนว่า สิ่งที่เจอ จะแก้ปัญหาได้ยังไง