“STOCKRADARS” เพื่อนคู่คิดนักลงทุน
จุดเริ่มต้นจากการเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น ทำให้มีโอกาสได้เห็นช่องทางจากความต้องการของตนเอง
ซึ่งต้องการเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์การลงทุน และมีความเชื่อว่านักลงทุนรายอื่นก็น่าจะต้องการใช้งานเช่นเดียวกัน ทำให้เกิดแนวคิดที่จะทำแอพพลิเคชั่นผ่านสมาร์ทโฟนขึ้นมา โดยมุ่งหวังให้เป็นเพื่อนคู่คิดสำหรับนักลงทุนที่ใช้งานได้ง่ายแบบไม่ยุ่งยาก “Stockradars” จึงเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่บัดนั้น
ธีระชาติ ก่อตระกูล CEO and Co-Founder บริษัท สยามสแควร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า ด้วยประสบการณ์ที่เคยร่วมงานกับบริษัทโบรกเกอร์มาก่อนเป็นระยะกว่า 5 ปี ในการรับจ้างผลิตแอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนในฐานะที่เปรียบเสมือนเป็นมือปืนรับจ้าง เมื่อวันหนึ่งธุรกิจเกิดการสุกงอม จึงเกิดประกายไอเดียในการปรับเปลี่ยนธุรกิจจากซอฟท์แวร์เฮ้าส์ธรรมดา หรือการรับจ้างทำแอพฯ มาเป็นธุรกิจซอฟท์แวร์แบบเต็มตัว เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนสถานะจาก SME มาเป็น Start Up ด้วยการสร้างโปรดักส์ของตนเอง ภายใต้แอพพลิเคชั่น Stockradars
วางตำแหน่งแค่ผู้ช่วยนักลงทุน
สำหรับ Stockradars นั้นจะเป็นเสมือนเรดาร์ให้กับนักลงทุน เนื่องจากในตลาดหุ้นจะมีเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างรวดเร็ว มีข้อมูลเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นโจทย์ของเราก็คือจะทำอย่างไรให้นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูล และมีเรดาร์ที่ช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหวของตลาด
“ตัวอย่างที่เห็นประโยชน์ของ Stockradars อย่างง่ายก็คือ หากนักลงทุนกำลังจะซื้อหุ้นของบริษัทหนึ่ง แต่ปรากฏว่าเจ้าของธุรกิจกำลังขายอยู่ในราคาเดียวกัน ผู้ลงทุนที่ใช้แอพลพิเคชั่นของเราและตั้งค่าเรดาร์ไปที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็จะรู้ทันที ซึ่งก็จะสามารถนำกลับมาพิจารณาทบทวนได้ก่อนที่จะมีการซื้อขายจริง”
จุดเด่นที่สำคัญของ Stockradars ก็คือการไม่ระบุให้ผู้ลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทนั้นหรือบริษัทนี้ แต่จะเป็นเครื่องมือที่ทำให้นักลงทุนเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งในขั้นตอนสุดท้ายจะมีการซื้อขายหรือไม่ผู้ลงทุนจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเอง โดยเราจะเปรียบตัวเองเป็นช่างตีดาบ เพราะฉะนั้นเราจะต้องตีดาบให้เก่งที่สุด หรือให้ดีที่สุดเพื่อให้ได้ดาบที่ดีที่สุดในโลก นั่นคือหน้าที่เราแต่เมื่อใดก็ตามที่เราเริ่มบอกว่าหุ้นของบริษัทนี้ดี ราคานี้เหมาะสมสามารถเข้าซื้อได้เลยหรือขายได้เลย หมายความว่าช่างตีดาบเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเก่ง ฉลาดและลงไปออกรบเอง ซึ่งต่อให้ช่างตีดาบที่เก่งที่สุดไปออกรบเองก็ใช่ว่าจะชนะคู่ต่อสู้เสมอ ดังนั้น เราจึงมีหน้าที่เป็นเครื่องมือเท่านั้น เราต้องวางตำแหน่งของตัวเองให้ดี
“เราจะมีความสุขทุกครั้งที่นักรบ (ผู้ลงทุน) กลับมาบอกเราว่า ดาบเราเจ๋ง มีความคมพอ สามารถช่วยให้เอาชนะศัตรูได้ การทำเครื่องมือของเราก็คือการสร้างอาวุธให้กับนักลงทุน แต่เราไม่ได้เป็นอัศวินไปออกรบเอง”
ชูเรดาร์ใช้งานมากกว่า 150 สัญญาณ
ธีระชาติ เล่าต่อไปอีกว่า ในแอพฯ Stockradars จะมีสัญญาณตรวจจับให้นักลงทุนตั้งค่าได้ประมาณ 150 สัญญาณ ทำให้นักลงทุนสามารถนำไปผสม หรือประยุกต์ใช้กับการลงทุนได้ ซึ่งจะทำให้ได้ไอเดียในการลงทุนที่กว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรดาร์วอลุ่ม ซึ่งจะคอยตรวจจับว่าหุ้นของบริษัทใดมีการซื้อขายมากขึ้นจนผิดปกติเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งในตลาดหุ้นจะมีกรณีแบบนี้อยู่มากมาย
อินไซด์เดอร์บายเซลล์ (Insider by sale) ซึ่งจะเป็นเรดาร์ที่คอยตรวจจับความเคลื่อนไหวของผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการของบริษัทนั้นๆ โดยหากผู้บริหารมีการซื้อขาย เรดาร์ที่นักลงทุนตั้งค่าไว้ก็จะแจ้งเตือนให้รู้ว่าเจ้าของกิจการมีการแอบซื้อขายหุ้นอยู่ ซึ่งข้อมูลต่างๆ เหล่านี้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะเราซื้อข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.)
“การที่ผู้บริหารซื้อหุ้นของตนเองไม่ได้แปลว่าเป็นหุ้นปั่น แต่แสดงได้อย่างหนึ่งว่าผู้บริหารยังมองว่าราคานี้ซื้อได้อยู่ ตัวผู้บริหารเองมีความมั่นใจในธุรกิจของตนเอง ขณะเดียวกันบริษัทที่เรากำลังจะเข้าไปซื้อ แต่ผู้บริหารกำลังขายในราคานั้น แสดงว่าน่าจะอะไรที่ผิดปกติจะต้องระวัง โดยข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่มีคุณค่าสูงมาก แต่นักลงทุนไม่ค่อยนำมาใช้หรือนำมาดู”
ยอดดาวน์โหลดกว่า 3.8 แสนราย
ปัจจุบัน Stockradars มีผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานอยู่ที่ประมาณ 3.8 แสนราย โดยมีผู้สมัครใช้งานแบบพรีเมี่ยมหรือแบบเสียค่าบริการ 5,000 บาทต่อคนต่อปีประมาณหลักพันราย ซึ่งความแตกต่างของลูกค้าทั้ง 2 กลุ่มนั้น หากเป็นผู้ใช้งานที่ดาวน์โหลดใช้งานฟรีจะดูได้แค่เพียงราคาหุ้น ดูความเคลื่อนไหวของหุ้น แต่จะไม่ได้เป็นแบบเรียลไทม์และดูข้อมูลต่างๆ ได้ แต่หากเป็นลูกค้าที่สมัครเป็นพรีเมี่ยมจะสามารถใช้เรดาร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวทางด้านต่างๆ บนแอพพลิเคชั่นได้ครบทุกฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นราคาย้อนหลัง กราฟราคาหุ้นซึ่งจะมีเรดาร์ระบุด้วยว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรเกิดขึ้นบ้างก่อนที่ราคาหุ้นจะขึ้นหรือลง โดยทุกอย่างสามารถทำได้บนสมาร์ทโฟน ซึ่งสะดวกสบายเป็นอย่างมาก
“ปัญหาที่สำคัญของนักลงทุนก็คือ ไม่รู้ว่าหุ้นของบริษัทใดที่ต้องการให้เข้าไปลงทุน นั่นก็คือไม่มีเครื่องมือคอยช่วย แต่เมื่อมี Stockradars นักลงทุนจะรับรู้ข้อมูลทั้งหมดของแต่ละบริษัทที่สนใจว่าเป็นอย่างไร บริษัทไหนมีรายได้เพิ่มขึ้นหรือไม่อย่างไร บริษัทใดมีการซื้อข้อมูลกลับ โดยเราเป็นเจ้าแรกที่ทำสัญญาณแบบสัญลักษณ์ของสีไฟจราจร เพื่อให้นักลงทุนตีความได้โดยง่ายตามสีที่ปรากฏ”
ภายในแอพฯ Stockradars นักลงทุนยังสามารถเทรดหุ้นได้ผ่านสมาร์ทโฟน โดยเราร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ซึ่งลูกค้าสามารถเปิดพอร์ตการลงทุนได้ที่ www.stockradars.co/open เพียงแค่กรอกชื่อและเบอร์ติดต่อไว้ก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการให้ เมื่อลูกค้าเทรดหุ้นผ่าน Stockradars เราก็ชาร์ตค่าใบอนุญาต (ไลน์เซ่น) ได้จากโบรกเกอร์ ที่สำคัญลูกค้ายังได้รับสิทธิ์ในการใช้งาน Stockradars แบบพรีเมี่ยมได้ฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าบริการรายปี 5,000 บาท เพราะโบรกเกอร์จะเป็นผู้จ่ายให้แทน
อยากเห็นคนไทยสนใจการลงทุน
ส่วนเป้าหมายในอนาคตนั้น ธีระชาติหวังเพียงแค่ให้คนไทยหันมาสนใจการลงทุนในตลาดหุ้นกันมากขึ้น เพราะหัวใจหลักของ Stockradars ก็คือ การทำเรื่องหุ้นให้เป็นเรื่องง่าย เราพยายามออกแบบให้ใช้งานง่ายทำให้นักลงทุนได้เข้าถึง เมื่อมีผู้ลงทุนมากขึ้นก็จะมีคนที่เข้ามาใช้งาน Stockradars มากขึ้นตามไปด้วย โดยปัจจุบันมีเพียง 1% ของประชากรไทยที่ลงทุนในตลาดหุ้น หากทำให้เพิ่มขึ้นได้เป็น 2% ก็หมายความว่าขนาดของตลาดเราจะโตจาก 100% เป็น 200% ซึ่งเป็นจำนวนที่มหาศาล
“ประเทศฮ่องกงมีผู้ลงทุนในตลาดหุ้นประมาณ 52% ของประชากรทั้งหมด มีแค่ในไทยเท่านั้นที่ไม่ค่อยสนใจตลาดทุน เราไม่ต้องไปถึง 52% เหมือนที่ฮ่องกง ขอแค่ 10% ขนาดของตลาดก็จะโตมากกว่านี้ 10 เท่า บริษัทเราก็จะโตได้อีกแบบไม่จำกัด นอกจากนี้เรายังต้องการให้ชาวต่างชาติใช้นวัตกรรมจากคนไทยในการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น เพราะเราเป็นซอฟท์แวร์ของคนไทยที่เกี่ยวกับไฟแนนซ์ที่ได้ที่ 1 ในระดับเอเชียแปซิฟิค จาก 17 ประเทศภายใต้รางวัล APICTA ทำให้เรามีโอกาสในการเข้าไปทำตลาดที่ประเทศอื่นได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีการการันตีด้วยรางวัล ซึ่งนักลงทุนให้ความสนใจและเป็นเครื่องหมายที่แสดงว่าในภูมิภาคไม่มีใครทำเรื่องหุ้นให้เป็นเรื่องง่ายได้เท่าเรา” ธีระชาติกล่าวปิดท้าย