ออมสินนำร่อง “เพื่อสมุย” สู่ “สีชมพูเพื่อสังคมไทย”
จากโครงการ “ออมสินเพื่อสมุย” ถึง “ออมสินชวนเที่ยวสมุย” ธนาคารออมสิน ยุค “วิทัย รัตนากร” ได้สร้างปรากฏการณ์ “สีชมพูเพื่อสังคมไทย” ที่พร้อม “นำร่อง” ขยายวงกว้างความช่วยเหลือ ไปสู่พี่น้องคนไทยในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ดั่งแสงสว่างในวันมืดมิด…กับภารกิจ “ธนาคารออมสินเพื่อสมุย (Samui Model)”
โครงการนำร่อง “ฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนและการท่องเที่ยว” ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่ง คณะกรรมการฯ ผู้บริหาร และพนักงานธนาคารออมสิน ภายใต้การนำของ นายวิทัย รัตนากร ผอ.ธนาคารออมสิน ได้ร่วมกันตอกย้ำความเป็น “ธนาคารเพื่อสังคม” ตลอดวันที่ 8 และ 9 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา
การยกคณะฯ ลงพื้นที่ อ.เกาะสมุย แบบเกาะติดและลงลึกถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบมีกลยุทธ์ อันเป็นผลพวงของการลงพื้นที่สำรวจความเดือนร้อนและความต้องการแท้จริงของคนในพื้นที่ แบบปูพรมของ “คนออมสิน” กว่า 500 ชีวิต ตลอด 2 เดือนก่อนหน้านี้
นำมาซึ่งการกำหนดจัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) และกิจกรรมเพื่อเยียวยา…ช่วยเหลือธุรกิจระดับต่างๆ มากมาย
ตั้งแต่ การจัดมอบทุนการศึกษา จัดหาอาหารกลางวัน และการให้สินเชื่อ ฯลฯ ครอบคลุมทุกกลุ่มคนในพื้นที่ฯ ไม่ว่าจะเป็น…เด็กก่อนวัยเรียน เด็กนักเรียนทุกระดับชั้น พ่อแม่ผู้ปกครอง สถานศึกษา ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไปจนถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ ด้านธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว
ทั้งหมด…ล้วนได้รับผลกระทบโดยตรงและรุนแรง จากภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นับแต่ช่วงต้นปี ด้วยเหตุที่เกาะกลางอ่าวไทยแห่งนี้ มีระบบเศรษฐกิจและฐานรายได้หลัก จากธุรกิจท่องเที่ยวและภาคบริการที่เกี่ยวข้อง
กว่า 90% ของรายได้มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยแต่ละปี…เกาะสมุยแห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ระดับ “กลางขึ้นบน” เดินทางมาท่องเที่ยว ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน
ทว่า…เมื่อโลกทั้งใบถูกคุกคามอย่างหนักหน่วงจากไวรัสโควิดฯ จนทำให้การเดินทางระหว่างประเทศ ถูกปิดกั้น…ตั้งแต่ประเทศต้นทาง ยันปลายทาง…อันเป็นจุดหมายของการเดินทางท่องเที่ยวฯ ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ชาว อ.เกาะสมุย จึงตกอยู่ในภาวะ “รายได้เป็นศูนย์” ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา
หากไม่มีภาครัฐและหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชน เข้ามาร่วมสร้างปรากฏการณ์ “แสงสว่างปลายอุโมงค์” แล้ว ทุกคนทุกชนชั้นบนเกาะแห่งนี้…คงต้องทนทุกข์ทรมาน ยิ่งกว่าผู้คนจากหลายๆ พื้นที่ ที่แม้จะได้รับผลกระทบเหมือนกัน แต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้น กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
โชคดีของชาว อ.เกาะสมุย ที่ได้รับการ “ปักหมุดหมาย” ให้เป็นพื้นที่และโครงการนำร่อง…เพื่อการฟื้นฟูฯ จากธนาคารออมสิน ปัญหาของพวกเขาจึงถูกหยิบยกขึ้นเป็น “กรณีศึกษา” สร้างปรากฏการณ์ “ชมพู (สีของธนาคารออมสิน) ทั่วทั้งเกาะ”
สร้างความหวังและกำลังใจให้กับชาวเกาะสมุยได้เป็นอย่างดี…
นายวิทัย รัตนากร ผอ.ธนาคารออมสิน ย้ำว่า จากการลงพื้นที่แบบเข้าถึงและทั่วถึงในลักษณะปูพรมทั่วทั้งเกาะสมุย เพื่อสำรวจความเดือดร้อน สำรวจความต้องการทั่วทั้งเกาะของลูกค้า ประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ พบว่า ส่วนใหญ่ต้องการเงินทุน เพื่อการประกอบอาชีพ เพื่อหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องให้กิจการ จึงเกิดปรากฏการณ์การอนุมัติสินเชื่อ อนุมัติเสริมสภาพคล่องเป็นกรณีพิเศษอย่างเร่งด่วน
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มประชาชนฐานราก ลูกค้ารายย่อย SMEs ลูกค้ารายใหญ่ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือให้การสนับสนุน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ (CSR) ในหลากหลายโครงการ โดยตั้งใจช่วยพี่น้องชาวสมุยให้สามารถยืนหยัดในช่วงเวลายากลำบาก และเตรียมพร้อมให้สามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ต่อไปเมื่อถึงเวลา
ทั้งนี้ ได้มีการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเสริมสภาพคล่องเป็นกรณีพิเศษ แก่ผู้ประกอบการและรายย่อย ให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้เลยทันที สามารถนำเงินไปหมุนเวียนประคองธุรกิจให้อยู่ได้โดยไม่ต้องปิดกิจการ ซึ่ง โครงการออมสินเพื่อสมุย สามารถอนุมัติสภาพคล่อง หรือสินเชื่อกว่า 2,500 ราย แบ่งเป็นผู้ได้รับวงเงินเสริมสภาพคล่อง 2,000 ราย วงเงิน 1,500 ล้านบาท และเป็นผู้ได้รับความช่วยเหลือด้านภาระหนี้ จำนวน 500 ราย มูลค่าหนี้รวม 446 ล้านบาท
โดย ธนาคารออมสินได้โอนเงินสินเชื่อเพื่อสภาพคล่องลูกค้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อ Soft Loan ช่วย SMEs ภาคการท่องเที่ยว สินเชื่อ Soft Loan สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด สินเชื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจท่องเที่ยว SAMUI MODEL และสินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน จำนวนรวมกัน 194 ราย วงเงินกว่า 1,300 ล้านบาท และ สินเชื่อรายย่อย จำนวน 1,826 ราย วงเงิน 176 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ช่วยเหลือลูกค้าเดิมกว่า 500 ราย ที่มีปัญหาชำระไม่ได้ตามเงื่อนไขเดิมเมื่อครบกำหนดพักหนี้ ภาระหนี้รวม 446 ล้านบาท รวมถึงการไกล่เกลี่ยลูกหนี้หลังการฟ้องที่กรมบังคับคดีอีกจำนวนกว่า 30 ราย ภาระหนี้รวม 2.6 ล้านบาท
ภายใต้โครงการนี้ ธนาคารยังมอบความช่วยเหลืออื่นๆ แก่ชุมชนและประชาชนบนเกาะสมุย อาทิ มอบทุนการศึกษาแก่บุตรที่ผู้ปกครองเดือดร้อนจากผลกระทบโควิด-19 จำนวน 320 ทุน , สนับสนุนกิจกรรมตามวิถีพอเพียงให้แก่โรงเรียน อาทิ การมอบฟาร์มไก่ไข่ โรงเรือนเพาะเห็ด และพืชผักสวนครัว เป็นการตั้งต้นให้ครูและนักเรียนสามารถใช้ประโยชน์ต่อไปได้ในระยะยาว
อุดหนุนสินค้าของชุมชน เช่น ผลิตภัณฑ์จากปลา ไข่ไก่ ปุ๋ยและเมล็ดพันธุ์พืช เพื่อให้ชุมชนมีรายได้ แล้วนำไปแจกจ่ายแก่ประชาชนที่ได้รับไปจำนวนทั้งสิ้น 1,500 ชุด และ ให้การสนับสนุนเครื่องมือทำกินและความรู้เพื่อต่อยอดการดำรงชีพ เช่น มอบรถเข็นร้านค้า 10 คัน ฝึกอบรมอาชีพ 300 ราย สนับสนุนเครื่องจำเป็นแก่ชุมชนประมง (ธนาคารปู) รวมถึงการจัดพื้นที่ออกร้านจำหน่ายสินค้าให้ฟรี สำหรับร้านค้าในพื้นที่ และ Street Food
นายวิทัย ยังระบุด้วยว่า…จากนี้ ธนาคารออมสินเตรียมจัดกิจกรรมต่อเนื่องกันไป นั่นคือ โครงการ “ออมสินชวนเที่ยวสมุย” โดยจัดโปรโมชั่นให้กับลูกค้าของบัตรเครดิตของธนาคารออมสิน เพื่อกระตุ้นและต่อยอดให้มีความต้องการของตลาดในการเดินทางท่องเที่ยว โดยมีจุดหมายปลายทางที่เกาะสมุย
“ลูกหนี้ของธนาคารออมสิน นอกจากได้รับการพักชำระหนี้เงินต้นแล้ว ในส่วนของดอกเบี้ย ยังสามารถนำบัตรกำนัลที่พัก อาหารและเครื่องดื่ม (วอเชอร์) มาบาร์เตอร์กับดอกเบี้ยจ่าย มากสุดถึงร้อยละ 50 เพื่อที่ธนาคารออมสิน จะได้นำไปสร้างกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับบัตรเครดิตของธนาคารฯ” ผอ.ธนาคารออมสิน ระบุ พร้อมกับคาดหวังว่า…
โครงการ “ออมสินเพื่อสมุย” และ “ออมสินชวนเที่ยวสมุย” จะเป็น “ต้นแบบ” ให้แก่ทุกภาคส่วนหรือหน่วยงานอื่น ในการช่วยเหลือพื้นที่เศรษฐกิจท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ต่างจากเกาะสมุย โดยเฉพาะที่เป็นจังหวัดรอง 50-60 จังหวัด ให้สามารถฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่ให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้
ในส่วนของธนาคารออมสินเอง พร้อมจะนำรูปแบบและแนวทางของ โครงการ “ออมสินเพื่อสมุย” และ “ออมสินชวนเที่ยวสมุย” ไปเป็นแนวทางการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่อื่นๆ ในภาคต่างๆ เช่นกัน
หากไม่มีอะไรผิดพลาดแล้ว ต้นปีหน้า…คนไทย ก็น่าจะได้เห็นปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของ ธนาคารออมสิน…ธนาคารเพื่อสังคม เพื่อคนไทยและเพื่อประเทศไทย อย่างแน่นอน!!!.