ประยุทธ์ เฉือนเนื้อร้าย รักษาชีวิต
ตัวปัญหา เตะถ่วง ปรองดอง-แก้ รธน.
เวลานี้ “คอการเมือง” ทั้งใน-นอกทำเนียบรัฐบาลและสัปปายะสถาน ตั้งวงสนทนากันเพียง 3 เรื่อง
เรื่องที่ 1 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เรื่องที่ 2 การตั้งคณะกรรมการปรองดองและสมานฉันท์
และเรื่องที่ 3 การชุมนุมใหญ่-บิ๊กเซอร์ไพร์สของกลุ่ม “ราษฎร”
เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม “เฉือนเนื้อร้าย” เพื่อ “รักษาชีวิต” ส่งสัญญาณ “ไฟเขียว” แก้ไขรัฐธรรมนูญ “หั่นอำนาจตัวเอง” และ “โละ” สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ลากตั้ง 250 คน
ทว่า ปฏิบัติการ “ดีเลย์แท็กติค” เล่นเกมยื้อ-คว่ำ 7 ญัตติรัฐธรรมนูญ โดย “ส.ส.ตัวทำเกม” ผนึกกำลัง “ส.ว.สายแข็ง” เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญ “ตีความ” 3 ญัตติร่างรัฐธรรมนูญ “ขัดรัฐธรรมนูญ” ผ่าน “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา
ประกอบด้วย ญัตติที่ 1 และญัตติที่ 2 เป็นร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ของรัฐบาลและฝ่ายค้าน และญัตติที่ 3 ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของภาคประชาชน (ร่างไอลอว์)
โดยมี “วาระซ้อนเร้น” เมื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้ว “ชวน” ในฐานะประธานรัฐสภาจะ “ชะลอ” การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ ในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ ในวันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2563
หลังจากญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญถูก “ซื้อเวลา” ลากยาวมาตั้งแต่สมัยประชุมสามัญที่ผ่าน
สะเทือนไปถึง “ข้อสั่งการ” นอกห้องประชุมฝ่ายบริหาร ของ “พล.อ.ประยุทธ์” ส่งซิกถึงฝ่ายนิติบัญญัติให้ลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ “วาระที่สาม” ภายในเดือนธันวาคม-ก่อนสิ้นปี 2563 ระหว่างอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ 26-27 ตุลาคม 63
ขณะที่การตั้งคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ “ฉบับชวนโมเดล” โดยเทียบเชิญ “อดีตนายกรัฐมนตรี” มาร่วมหาทางออกยังถูก “เตะสกัด”
ทั้ง “เอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์” และ “สิระ เจนจาคะ” “ส.ส.ตลาดล่าง” พรรคเสียงข้างมากในรัฐบาล ตะวัดลิ้น-กระดกลิ้นไก่ ดิสเครดิต “คณะกรรมการดองเค็ม” จนถูก “ชวน” ควัก “มีดโกนอาบน้ำผึ้ง” กรีด “ส.ส.ดองฟอร์มาลีน”
ด้านการชุมนุมของกลุ่ม “ราษฎร” เพื่อเรียกร้อง 3 ข้อ 1.ประยุทธ์ออกไป 2.รื้อรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560-ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ถูกถามตั้งแต่ต้นซอย-ท้ายซอยว่า จะจบลงอย่างไร
ระหว่างทางเต็มไปด้วย “อุบัติเหตุ” ทั้ง “ม็อบชนม็อบ” และ “รัฐประหาร” ที่เกิดจากการ “จัดตั้ง” และการ “ควักมือ” เรียกทหารให้ออกมาจากกรมกอง
ทว่า “ฉากจบ” ของ “หนังม้วนใหม่” ปลายทางไม่เหมือนม็อบเสื้อเหลือง-เสื้อแดงที่ “แยกย้ายกลับบ้าน” แต่อาจจบลงด้วยการ “จลาจล” และ “นองเลือด”
3 Chapter ทว่า พล็อตเรื่องที่มี “ตอนอวสาน” เดียวกัน คือ “รัฐบาลประยุทธ์และองคาพยพ” พ้นกระดานอำนาจไปทั้งคณะ หรือ อยู่ยาวอย่างน้อยไปถึงปี 70 หรือ 13 ปี 3 สมัย
จึงเห็นปรากฏการณ์ “กล้ามเนื้อนอกบังคับ” ทั้งสภาล่าง-สภาสูง และผู้นำท้องถิ่น-อดีตแกนนำม็อบ เป็นทุ่นน้ำหนัก-ถ่วงวาระปรองดองและการแก้รัฐธรรมนูญ
หมุดหมาย “ต่ออายุ” ให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์และองคาพยพ