โฆษกรัฐบาลคนใหม่ “คนใน” สกัด “คนนอก”
การปั่นผลงาน-โกยคะแนนนิยมของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อฝ่ามรสุมการเมืองรอบทิศ-วิกฤตเศรษฐกิจรุกหนักในช่วงโค้งหักศอก-หลังโควิด 19 ฉันใด การพี.อาร์. ผลงานรัฐบาลย่อมสำคัญฉันนั้น
ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการแต่งตั้ง “โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่” แทน “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ที่ขึ้นแท่นไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ใน ครม.ประยุทธ์ 2/2
ขณะนี้มี “แคนดิเดตโฆษกรัฐบาล” ที่มีชื่อ “ชิงดำ” 2 คน คนแรก “ดร.แด็ก” ธนกร วังบุญคงชนะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอุตตม สาวนายน) และอดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
“ธนกร” ยังอยู่ในบัญชี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 27 ของพรรคพลังประชารัฐ มี “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์-รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็น “ครูการเมือง”
ลีลา-ฝีปากทางการเมืองของ “ธนกร” เป็น “สายบู๊” มี “จุดแข็ง” คือ การตอบโต้ประเด็นทางการเมืองกับฝ่ายค้าน-ขั้วตรงข้ามรัฐบาล เป็น “องครักษ์พิทักษ์ประยุทธ์”
ทว่ากลับเป็น “จุดแข็งในจุดอ่อน” เพราะถูกมองว่า “โฉ่งฉ่าง” ถูกจับทางได้ง่าย ที่สำคัญพล.อ.ประยุทธ์ “ไม่ปลื้ม” กับสไตล์โวหาร-วาทะกรรมทางการเมือง” สาดน้ำมันในกองเพลิง-จุดไฟความขัดแย้ง
แคนดิเดตโฆษกรัฐบาล คนที่สอง คือ “เจมส์” อนุชา บูรพาชัยศรี อดีตส.ส.กทม. 2 สมัย ลูกหม้อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ปัจจุบันลาออกจากประชาธิปัตย์ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ (นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ)
“อนุชา” ถือเป็น “คนนอก” พรรคพลังประชารัฐ เพราะหลังจาก “หันหลัง” ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะไปช่วยงาน “เพื่อนซี้” ครูตั้น-ณัฏฐพล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
จึงไม่แปลกที่ “คนในพรรค” พลังประชารัฐ จะออกโรงค้าน โดยเฉพาะ “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พลังประชารัฐ “ค้านสุดแขน” กันท่า “อนุชา” ไม่ให้มาเป็น “ตาอยู่” หยิบฉวยตำแหน่งโฆษกรัฐบาลไปครอง เพราะเป็นโควตาของพรรค
“ข่าวลือนะคะ เป็นไปไม่ได้ที่ อนุชา อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับ ส.ส. กรณิศ พลังประชารัฐจะถูกเสนอชื่อมาเป็นโฆษกรัฐบาล”
“ขวัญกำลังใจ คือ สิ่งสำคัญ ลูกน้องบริวารทุกคนลงสนามสู้กันแทบตาย ไม่มีทางที่จะไปเห็นคนอื่นดีกว่า อีกทั้ง คนจะเป็นโฆษกต้องรอบรู้ด้านกฎหมาย รู้จักประนีประนอม พร้อมชี้แจงทุกประเด็น”
“นายอนุชาเหมาะเรื่องเครื่องจักร หรือเป็นรมต.ด้านเศรษฐกิจพอได้ เล่นการเมือง 2 สมัย บุคลิกเป็นคนรักษาตัว ไม่มีทางไปเปลืองตัวเพื่อเรื่องคนอื่น ไม่เหมาะ ไม่สนใจทำหน้าที่ชี้แจงให้รัฐบาลหรือพลเอกประยุทธ์อยู่แล้ว ฟันธงว่า เป็นไปไม่ได้”
นอกจาก 2 ชื่อ “ว่าที่ โฆษกรัฐบาล” ที่ “เบียดไหล่” กันมาแล้ว ยังมี “ตัวสอดแทรก” และ “ม้ามืด” มีทั้ง “คนใน” และ “คนนอก” เช่น “ทศพล เพ็งส้ม” ศิษย์เก่าประชาธิปัตย์อีกคน ปัจจุบันเป็นหัวหน้าทีมกฎหมายของพรรคพลังประชารัฐ
รวมถึง “มาดามเดียร์” วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำ 6 ส.ส.ดาวฤกษ์ แต่ในรายของ “มาดามเดียร์” ซึ่งช่วงหลังจ้าง “คนเขียนข่าว” รุกพื้นที่สื่อ “หวังสูง” สอดมือ-แทรกตัวลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) มากกว่า
ส่วน “คนนอก” ที่มีชื่อออกมา เช่น “หมอทวีศิลป์” นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด – 19 “อาจารย์อ้อ” ดร.การดี เลียวไพโรจน์ และ “สู่ขวัญ บูลกุล” อดีตพิธีกร “คู่ขวัญ” นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา
ต้องจับตาตำแหน่ง “โทรโข่งรัฐบาลคนใหม่” จะเป็นใคร “คนใน” หรือว่า “คนนอก” – “ตาอยู่” หรือ “นอนมา” (ในใจ) พล.อ.ประยุทธ์