เปิด ไลน์อัพ ทีมเศรษฐกิจ 4 พรรคการเมืองใหญ่
ทีมเศรษฐกิจ 4 พรรคการเมืองใหญ่ที่มีศักยภาพเป็นทั้งฝ่ายรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดและเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุด ทยอยเปิดตัว “ทีมเศรษฐกิจ” เพื่อกุมหัวใจ “โหวตเตอร์” ในการเลือกตั้ง 66
กุนซือรุ่นเก๋า-ขาใหญ่ที่คอยให้คำปรึกษาอยู่ข้างหูหลังม่าน-เคลื่อนตัวออกมาหน้าฉาก อดีตนักการเงิน-นักคิดสร้างสรรค์ออกมาเสนอตัวเป็นผู้เขย่าโครงสร้างเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ให้กลับมาโชติช่วงชัลวาลอีกครั้ง
พรรครวมไทยสร้างชาติ มี “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” ประธานที่ปรึกษาพรรค เป็น “ตัวยืน” เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการคลัง
แม้เปิดตัว “หลังสุด” แต่ได้ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มาเป็น “หัวเรือใหญ่” การแก้ปัญหา “หนี้ครัวเรือน”
“รองพงษ์” ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แม้เป็น “หน้าใหม่” ทางการเมือง แต่ทางเศรษฐกิจ เขาต้องการ “ทำต่อ” เช่น วางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
“สุพัฒนพงษ์” ควง “คู่หู” อย่าง “หม่อมปืน” ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี-ผู้แทนการค้าไทย มาเป็น “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ
“หม่อมปืน” ดีกรีอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเจพี มอร์แกน (ประเทศไทย) ปัจจุบันเป็นหัวหน้าทีมปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อดึงดูดการนักลงทุนจากต่างประเทศ ขอถกแขนเสื้อ “ทำต่อ” สร้างรายได้จากการลงทุนต่างประเทศ 2 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ยังหนีบ “นักการเมืองรุ่นใหม่” ชิมลางการเมือง คือ “ชวิน อรรถกระวีสุนทร” ผ่านประสบการณ์การเงิน-วาณิชธนกิจ ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และ “วิท วรรณไกรโรจน์” นักวิเคราะห์สำนักเดียวกันกับม.ล.ชโยทิต – เจพี มอร์แกน
ยังมีรัฐมนตรีสายตรงทำเนียบอย่าง “เสี่ยไก่” จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสังคม ดูแลกลุ่มคนเปราะบางและผู้สูงวัย “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลนโยบายภาคเกษตร
“เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ดูแลนโยบายด้านแรงงาน “หมอเหรียญทอง” พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ดูแลด้านคุณภาพชีวิตและสุขภาพของคนไทย
หลังการ “รีเทิร์น” ของ “สองกุมาร” อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงจากรัฐบาลคสช.ประยุทธ์ 1 และประยุทธ์ 2 ทั้ง “อุตตม สาวนายน” อดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงการคลัง
และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีช่วย-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
พรรคพลังประชารัฐระดมมือเศรษฐกิจแถวหน้าระดับอินฟลูเอนเซอร์ มาผนึกกำลัง ได้แก่ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
“หม่อมกร” ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักเคลื่อนไหว-นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน ที่หมายมั่น “สานฝัน”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นั่ง “นายกรัฐมนตรีคนที่ 30” ให้ได้ เพื่อผลักดัน “บรรษัทน้ำมันแห่งชาติ”
รวมถึง “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” เจ้าพ่อการตลาด-อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ที่ปรึกษา” คณะกรรมการฝ่ายจัดทำนโยบายพรรคพลังประชารัฐเพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง
โดยจะมาผนึกกำลังกับ “ขุนพลเศรษฐกิจ” ที่อยู่ในพรรคพลังประชารัฐ อย่างนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลั และ “วราเทพ รัตนากร” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร
ทว่า “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” เหรัญญิกพรรคและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน รัฐบาลประยุทธ์ 2 ที่เกิดอาการ “น้อยใจ” หลังจาก “ไม่มีชื่อ” ในคณะกรรมการ 5 คณะ ที่พล.อ.ประวิตร ลงนามแต่งตั้งเพื่อกรำศึกเลือกตั้ง 66
มิหนำซ้ำยังถูกจัดผู้รับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) “ลำดับที่ 7” ใน “ร่างแรก” อยู่ต่ำกว่า “เด็กบ้านใหญ่” อย่าง “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ” ลูกชาย “วิรัช รัตนเศรษฐ” แห่งบ้านใหญ่รัตนเศรษฐ
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด “หล่น” ลงไปอยู่ “คาบเส้น” พื้นที่ปลอดภัย “เซฟโซน” ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 20 ทำให้ต้อง “ปาดน้ำตา” ขอ “ถอนตัว”
หลังจากนี้ “นฤมล” คงค่อย ๆ “ลดบทบาท” จนถูกเขี่ยออกจากวงอำนาจบ้านป่ารอยต่อ หลุดจากโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ
มาที่ฟากพรรคฝ่ายค้านอย่าง พรรคเพื่อไทย เดินหน้าแคมเปญ “คิดใหญ่ ทำใหญ่ เพื่อไทยทุกคน” เปิดตัวแม่ทัพ-ขุนพลเศรษฐกิจ “เบื้องหน้า” ภายใต้ “คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ” มี “หมอมิ้ง” นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นประธาน
โดยมีอดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อย่าง “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นรองประธานกรรมการ
ส่วนที่ปรึกษา ประกอบด้วยนักเศรษฐศาสตร์ระดับมันสมอง-แกนนำกลุ่มแคร์ อย่าง “พันศักดิ์ วิญญรัตน์”อดีตประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี 3 รัฐบาล 3 นายกรัฐมนตรี ถูกรัฐประหารทั้ง 3 รัฐบาล (ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-พล.อ.ชาติชาย)
“พันศักดิ์” คือ “ผู้อยู่เบื้องหลัง” นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลทักษิณ หรือที่เรียกกันว่า “ทักษิโณมิกส์”
“พันศักดิ์” คือ “หัวหน้าทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก” หรือ คณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี “น้าชาติ” พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรี ที่คิดค้นนโยบาย “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า”
นายศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์สายดร๊าก ที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร “บุตรชาย”นายเชาวน์ สายเชื้อ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าไทย และที่ขาดไม่ได้คือ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ “แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทยตัวจริง”
พรรคเพื่อไทยยังมี “ที่ปรึกษาส่วนตัวพิเศษ” ให้ว่าที่แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย-แพทองธาร ชินวัตร
ปิดท้ายด้วยพรรคก้าวไกลที่เปิดตัวทีมเศรษฐกิจ 7 คน โดยมี “ศิริกัญญา ตันสกุล” รองหัวหน้าพรรค คือ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจตัวจริง-เสียงจริง ที่จะมา Modernize ราชการไทย งบประมาณฐานศูนย์ กิโยตินกฎหมาย ฟื้นเศรษฐกิจได้ไม่ต้องใช้เงิน
นายวีระยุทธ์ กาจน์ชูฉัตร หรือ “อาจารย์ต้น” จบปริญญาเอก เศรษฐศาสตร์ การพัฒนา มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ สอนนโยบายสาธารณะ อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก
“อาจารย์ต้น” ขายไอเดีย Made in Thailand เป็น Made with Thailand
“ดร.ชาย” สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล อดีตผู้พิพากษาสมทบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ อดีตกรรมการบริษัทเอกชนผลิตสินค้าไลฟ์สไตล์ แบรนด์ไทย Moshi Moshi ชูนโยบาย “เปิดโอกาส เปิดตลาด SME” ภายใต้ 5 ต. เติมทุน เติมตลาด ตั้งสภาเอสเอ็มอี ตัดรายจ่าย
“ส.ส.เติ้ล” วรภพ วิริยะโรจน์ มีพร้อมกับม็อตโต “ทลายทุนผูกขาด ลดค่าครองชีพ” นายอภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล อดีตผู้อำนวยการรสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (TCDC) มาในธีม “ระเบิดพลังเศรษฐกิจสร้างสรรค์”
นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร แปลงข้อมูลเป็นขุมทรัพย์ ยกระดับคุณภาพชีวิต เปิดประตูเศรษฐกิจใหม่ และ นายเดชรัต สุขกำเนิด หยุดแช่แข็งภาคชนบท ปลดโซ่ตรวนหนี้สิน คืนที่ดินให้เกษตรกร
เป็น “ไลน์อัพ” ทีมเศรษฐกิจ 4 พรรคการเมือง ที่จะออกมาโชว์เก๋า-โชว์กึ๋นก่อนการเลือกตั้งอีกไม่ถึง 2 เดือนข้างหน้า