จับสัญญาณ “ประวิตร” นายกฯสำรอง
บิ๊กป้อม กลายเป็นที่จับตาอีกครั้ง ว่าจะกลายเป็นนายกฯสำรอง กรณีที่คนน้อยอย่าง บิ๊กตู่ ไปไม่รอด
สัญญาณนายกฯสำรองมาแรง ท่ามกลางความไม่แน่ไม่นอนของการเมืองไทย แม้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะยังได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาล แต่อุปสรรค ขวากหนามข้างหน้า ใช่ว่าจะไม่มีอยู่
“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พูดเองว่า เตรียมนายกฯสำรองไว้แล้ว สำหรับกรณีที่ คนน้องอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ ต้องสะดุดเพราะกรณีอยู่เกิน 8 ปีตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ ซึ่งจะครบ 8 ปี ในเดือนสิงหาคมนี้อยู่แล้ว
ในที่สุดแล้วเรื่องนี้ จะต้องถึงศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องฟันธงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่เกิน 8 ปีได้หรือไม่ และหากศาลชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่เกิน 8 ปีได้ จะต้องตอบสังคมให้กระจ่างด้วยว่า อยู่ได้เพราะเหตุใด
กลับมาที่ “พล.อ.ประวิตร” เมื่อถูกถามว่า สำหรับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐนั้น จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ไม่แน่ใจว่าจะเสนอชื่อคนเดียวหรือไม่
จึงทำให้สังคมเกิดข้อสงสัยว่า หรือ “ลุงป้อม” และพรรคพลังประชารัฐ จะมีทางเลือกอื่นนอกจากเสนอชู “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ
ย้อนกลับไปในช่วงก่อนสงกรานต์ จะเห็นว่ามีปรากฏการณ์ “ป้ายบิ๊กป้อม” โผล่จำนวนมากในเส้นทางกลับบ้าน ตวจ.ของประชาชน จนทำให้เกิดข้อสังเกตว่า หรือรอบนี้ พล.อ.ประวิตร เตรียมตัวเป็นแคนดิเคตนายกรัฐมนตรีด้วยตัวเอง
ช่วงเวลานั้นเองมีการปล่อยข่าวว่า พล.อ.ประวิตร ต้องการเช็คกระแสว่าได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนมากน้อยเพียงใด เพียงพอที่จะยกตัวเองเป็นแคนดิเคตนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นั่นเพราะสำหรับพรรคพลังประชารัฐแล้วนอกจาก “บิ๊กตู่” ก็มีแต่ บิ๊กป้อม ซึ่งเป็นเสมือนศูนย์รวมจิตใจของคนในพรรค
ประกอบกับวันนี้ “บิ๊กป้อม” มีอำนาจควบคุม 2 พรรคการเมือง ทั้งพรรคพลังประชาชนรัฐ และพรรคเศรษฐกิจไทย จึงมีอำนาจต่อรองสูง พอที่จะเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีได้
ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐนั้น แม้ออกตัวไม่ชัด ว่าสนับสนุน พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ เพราะยังติดตรงที่ตอนนี้ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐอยู่ แต่การที่ลูกน้อง “บิ๊กป้อม” จัดทำป้ายติดทั่วประเทศ ก็เป็นสัญญาณว่า พร้อมสนับสนุน “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯ
ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทย ที่นำโดย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคและ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ประกาศชัดเจนว่า เชียร์ลุงป้อม เป็นนายกฯ เพราะไม่เห็นใครเหมาะกว่านี้แล้ว
กระนั้น ในมุมการเมืองก็มองได้ว่า กระแสข่าว “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯ เป็นไปเพียงเพื่ออำนาจต่อรองในการปรับ ครม.เพื่อให้พรรคเศรษฐกิจไทยได้มีเก้าอี้รัฐมนตรี
และเป็นการเตือน “บิ๊กตู่” ว่าถ้ายังเมินเฉย ทั้งพรรคพลังประชารัฐและพรรคเศรษฐกิจ อาจไม่หนุนต่อไปก็เป็นได้
ย้อนกลับไปเดือนกันยายน 2564 พล.อ.ประยุทธ์ สั่งปลดฟ้าผ่า 2 รัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ อาจารย์แหม่ม นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ในข้อหาบังอาจบีบ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ปรับ ครม.
กระทั่งต่อมา ร.อ.ธรรมนัส และพวกรวม 20 ส.ส.ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ มาตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย
ว่ากันว่า การเกิดขึ้นของพรรคเศรษฐกิจไทย ก็เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองให้ “บิ๊กป้อม” ซึ่งจะมีมากกว่าคุมพรรคพลังประชารัฐ เพียงพรรคเดียว
และนี่ ก็ 3 เดือนแล้วที่พรรคพลังประชารัฐ ขับ ร.อ.ธรรมนัส และพวกออกจากพรรค จนมาตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย ก็ยังไม่มีสัญญาณว่าจะปรับ ครม.
จึงไม่แปลกที่ “บิ๊กป้อม” จะออกมาส่งสัญญาณ สกิด “บิ๊กตู่” ถึงการปรับ ครม.และให้รู้ไว้ว่าใครใหญ่
อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวนายกฯสำรองสร้างความไม่สบายใจให้ บิ๊กตู่ อยู่พอสมควร ดังจะเป็นการ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะออกมาให้ข่าวว่าอย่าปั่นกระแสให้มากนัก และขอร้อง ไม่ว่ากลุ่มไหนหรือใครก็ตาม หยุดสร้างความสับสนเรื่องนี้ได้แล้ว อยากให้เพลาเรื่องการเมืองลงบ้าง
โฆษกรัฐบาล สยบข่าวนี้ แทนนายกฯประยุทธ์ โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะอยู่ครบเทอมอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมานายกฯบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่ได้ทำอะไรผิด โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น มั่นใจว่ารัฐบาลโดยเฉพาะท่านนายกฯ สามารถชี้แจงฝ่ายค้านได้ทุกประเด็นอย่างแน่นอน