มูลค่าการส่งออกไทยหดตัวต่อเนื่อง
ธนาคารไทยพาณิชย์ ชี้ ส่งออกไทยเดือน ม.ค. หดตัวต่อเนื่องที่ -5.7%YOY
แนวโน้มการชะลอตัวของการส่งออกสินค้าเกิดขึ้นในหลายประเทศส่งออกสำคัญตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2018 พบว่าอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกไทยตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2018 มีการชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกในหลายประเทศในเอเชีย อย่างไรก็ดี ในเดือนมกราคม 2019 จีนมีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นที่มีการหดตัวเป็นส่วนใหญ่
โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเหลื่อมวัน ของเทศกาลตรุษจีน (ปีนี้ 1-15 กุมภาพันธ์ ปีก่อน 15-21 กุมภาพันธ์) กล่าวคือ โดยปกติ ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน จีนจะมีการเร่งการส่งออก (front-loading) ก่อนวันหยุดยาว ซึ่งในปีนี้จะเป็นช่วงปลายเดือนมกราคม ขณะที่ปีก่อนเป็นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้น เมื่อเทียบ %YOY จึงทำให้คิดเป็นการขยายตัวในเดือนมกราคมที่ผ่านมาในส่วนสินค้าส่งออกของไทยที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมผ่านห่วงโซ่อุปทาน ยังคงมีการหดตัวต่อเนื่อง
โดยมูลค่าการส่งออกของไทยไปยังจีน เช่น หมวดแผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องคอมพิวเตอร์-อุปกรณ์และส่วนประกอบ ซึ่งคาดว่าบางส่วนอยู่ในห่วงโซ่อุปทานของสินค้าส่งออกจีนที่ถูกขึ้นภาษีนำเข้าโดยสหรัฐฯ มีการหดตัวที่ -5.5%YOY และ -27.1%YOY ตามลำดับ ทั้งนี้ เคมีภัณฑ์ซึ่งคาดว่าได้รับผลกระทบเช่นกัน หดตัวในตลาดจีนครั้งแรกในรอบ 3 เดือนที่-7.0%YOY
มูลค่าการส่งออกไทยเดือน ม.ค. 2019 หดตัวที่ -5.7%YOY หดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ -1.7%YOY โดยหากหักทองคำ พบว่ามูลค่าส่งออกหดตัวลดลงที่ -4.9%YOY
สินค้าหลักที่มีการหดตัว ได้แก่ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (-9.6%YOY) เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ (-8.5%YOY) มันสำปะหลังอัดเม็ดและมันเส้น (-59.2%YOY) น้ำมันสำเร็จรูป (-10.6%YOY) เม็ดพลาสติก (-8.9%YOY) ยางพารา (-15.1%YOY) น้ำตาลทราย (-29.9%YOY) และเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (-21.6%YOY)
ตลาดส่งออกหลักที่มีการหดตัว ได้แก่ จีน (-16.7%YOY) ยุโรป (-4.8%YOY) อาเซียน5 (-7.4%YOY) ไต้หวัน (-15.5%YOY) ออสเตรเลีย (-6.5%YOY) ตะวันออกกลาง (-8.3%YOY) และแอฟริกา (-4.5%YOY)
อย่างไรก็ดี การส่งออกมีการขยายตัวในบางตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐฯ (8.3%YOY) และญี่ปุ่น (0.9%YOY) ขณะที่การส่งออกไปตลาดอินเดีย เกาหลีใต้ และซีแอลเอ็มวีกลับมาขยายตัวในเดือนนี้ หลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้า ส่วน
มูลค่าการนำเข้าขยายตัวที่ 14.0%YOY พลิกจากการหดตัวที่ -8.2%YOY ในเดือนก่อนหน้า นำโดยหมวดอาวุธ ยุทธปัจจัยเพื่อการซ้อมรบซึ่งขยายตัวกว่า 4,832.4 %YOY ตามด้วยสินค้าหมวดอื่นที่มีการขยายตัวเช่นกัน โดยสินค้าเชื้อเพลิง สินค้าวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูป สินค้าอุปโภคบริโภค และยานพาหนะอุปกรณ์การขนส่ง ขยายตัวได้ที่ 4.8%YOY 7.5%YOY 4.0%YOY และ 4.8%YOY ตามลำดับ ขณะที่สินค้าทุนหดตัวต่อเนื่องที่ -2.9%YOY ทั้งนี้ หากหักอาวุธ ยุทธปัจจัย มูลค่านำเข้าจะขยายตัวเหลือเพียง 3.7%YOY
อีไอซีประมาณการมูลค่านำเข้าของไทยปี 2019 ขยายตัวที่ 3.6% ชะลอลงจากปี 2018 เนื่องจากการนำเข้าวัตถุดิบสำหรับผลิตเพื่อส่งออกมีแนวโน้มชะลอตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ประกอบกับมูลค่าการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงมีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันดิบโลก ที่คาดว่าจะมีทิศทางทรงตัวหรือหดตัวเล็กน้อย อย่างไรก็ดี อีไอซีคาดว่า สินค้านำเข้าประเภทสินค้าทุนและอุปโภคบริโภค จะยังขยายตัวต่อเนื่องตามทิศทางการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนในประเทศทั้งจากภาคเอกชนและภาครัฐ