เปิดประเทศ “1 พ.ย.” : ภาพฝันสุดยิ่งใหญ่! ของไทย
“แต้มต่อ” ที่มีมากมายของประเทศไทยและคนไทย ต่อการจะเปิดประเทศ “1 พ.ย.” ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติรอบใหม่นี้ ถือเป็น “ภาพฝันสุดยิ่งใหญ่!” เกินกว่าจะปล่อยให้กลุ่มผลประโยชน์ใดๆ มาทำลายได้อีกต่อไป
นโยบายเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว “1 พ.ย.2564” ของรัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กลายเป็นกระแสที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างพูดถึงในทางบวก จะมีด้านลบบ้าง แต่ก็ถือว่าเล็กน้อย…
ส่วนหนึ่ง เพราะความทรงจำดีๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งที่ได้สัมผัสประเทศไทยและคนไทยด้วยตัวเอง รวมถึงรับฟังจากคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ตัว หรือคอมเมนท์จากคลิปวีดิโอในยูทูบที่มีเพื่อนชาวต่างชาติมากมายจัดทำและช่วยกันคอมเมนท์
ต่างเป็นไปในทิศทางบวกถึงบวกมากที่สุด!
นอกจาก สภาพบ้านเมืองที่สวยงาม มีความหลากหลาย แต่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างความเป็นเมืองเก่าและเมืองใหม่ภาพวัดวาอารามและสิ่งปลูกสร้างในทางพุทธศาสนา อยู่ท่ามกลางตึกระฟ้า มีให้เห็นดาษดื่นในหลายพื้นที่ของกรุงเทพหานครและจังหวัดใหญ่ๆ
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น…ภูเขา ทะเล น้ำตก ป่าไม้ สัตว์ป่า ฯลฯ ที่สวยงามโดดเด่นและแตกต่างไปจากสิ่งที่มีในบ้านเมืองของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น…ยุโรป อเมริกา จีน ลาตินอเมริกา ฯลฯ
กลายเป็นจุดดึงดูดที่สำคัญไม่แพ้สภาพบ้านเมือง
ยิ่งจุดเด่นอันเป็น “อัตลักษณ์เฉพาะ” ของคนไทย นั่นคือ…รอยยิ้ม เป็นมิตร จริงใจ และมีจิตใจที่ชอบช่วยเหลือ ไม่ชอบและหลีกเลี่ยงความรุนแรง ฯลฯ
เหล่านี้ หล่อมหลอมให้คนไทย กลายเป็นชนชาติที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทุกครั้งที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย แม้จะเป็น…สุภาพสตรีที่เดินทางท่องเที่ยวเพียงลำพัง
หากนับรวม ความเป็นไทยอื่นๆ โดยเฉพาะ อาหารไทย ที่ให้รสชาติความอร่อย หลากหลาย และมากคุณค่าทางโภชนาการ ในราคาที่แสนถูก และหาได้ง่ายตามหัวมุมทุกท้องถนนทั่วไป ภายใต้อัตราค่าครองที่ต่ำมากๆ ในสายตาของชาวต่างชาติด้วยแล้ว
นี่คือ “สวรรค์บนดิน” ของนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยแท้!
ล่าสุด ดาราดังฮอลีวูด อย่าง…รัสเซล โครว์ (Russel Crowe) เจ้าของรางวัลออสการ์ วัย 57 ปี ได้โพสต์ภาพคลิปวิดีโอและลงทวิตเตอร์ @russellcrowe ที่มีผู้ติดตามกว่า 2.7 ล้านบัญชีรายชื่อ ระหว่างเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่อง The Greatest Beer Run Ever ซึ่งประเทศไทย…เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำนอกเหนือจากที่นิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา
โดยชื่มชมที่รัฐบาลไทยจัด “แซนด์บ็อกซ์ ควอรันทีน” ได้ยอดเยี่ยม สามารถเดินทางรอบเกาะได้อย่างเสรี แม้จะยังเดินทางไม่ได้ในทุกๆ พื้นที่ แต่เขาก็ได้มีโอกาสเข้าชมพระใหญ่และน้ำตกอีก 1-2 แห่ง
“ออสเตรเลียเตรียมอนุญาตให้เดินทางระหว่างประเทศได้ในเร็วๆ นี้ ขณะนี้ผมทำงานในประเทศไทยเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ การขึ้นเครื่องบินครั้งแรกหลังผ่านไป 2 ปีเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก ถึงจะแปลกแต่ก็สวยงามแบบสุดๆ นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1991 เมื่องานที่ทำเริ่มพาผมออกเดินทางไปทั่วโลก ถือเป็นช่องว่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเที่ยวบินระยะไกลที่เคยพบ แต่ต่างกันค่อนข้างเล็กน้อย
เมื่อพูดถึงประเทศไทย จุดหมายปลายทางที่หลายคนชื่นชอบ แต่ไม่ใช่ที่ที่ผมเคยไป นอกจาก 6 แห่งหรือมากกว่านั้นในท่าอากาศยานกรุงเทพฯ รัฐบาลไทยมีสิ่งที่ยอดเยี่ยมในสถานที่ที่เรียกว่า “แซนด์บอกซ์ ควอรันทีน” (Sandbox Quarantine) ถ้าคุณได้รับวัคซีนครบตามจำนวน คุณสามารถบินไปยังภูเก็ตและเดินทางรอบเกาะได้อย่างเสรี
พวกเขามีหน้าที่ในการดำเนินการเพื่อจำกัดความเคลื่อนไหว แต่ผมยังได้เห็นพระใหญ่หรือน้ำตกสักแห่งสองแห่ง ซึ่งเดือนกันยายนมีอากาศชื้น แต่รู้สึกอบอุ่น พอแดดออกก็สวยไปอีกแบบ คนไทยมีความเป็นมิตรและให้การต้อนรับดีมาก และแน่นอนว่าอาหารยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นหากคุณถูกล็อกดาวน์และเกิดความรู้สึกอยากออกเดินทางไปไหนมาไหน เรามีนัดกันเปิดพรมแดน ไปดูภูเก็ตกันเลย ผมมั่นใจว่าประเทศอื่นๆ ก็มีประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์ที่จะแบ่งปันเช่นกัน แต่ในตอนนี้คิดว่าแซนด์บอกซ์ ควอรันทีนสำหรับนักเดินทางที่ได้รับวัคซีนจะใช้เฉพาะจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น“
ข้างต้น คือ ประโยคคำพูดยาวๆ ของดาราหนุ่มใหญ่ชื่อดังจากฮอลีวูด ที่ไม่เพียงจะช่วยกระตุ้นให้หลายคนจากทั่วโลก…ที่ได้เห็นทวีตเตอร์ของเขา อยากจะเดินทางมายังประเทศไทย ในช่วงรัฐบาลไทย เตรียมจะเปิดประเทศแบบมีเงื่อนไข
แม้แต่ “ผู้ประเทศ” อย่าง…พล.อ.ประยุทธ์ เอง ก็ยังรู้สึกพอใจกับสิ่งที่ รัสเซล โครว์ พูดถึง เพราะมันสะท้อนภาพความสำเร็จของ “รัฐบาลประยุทธ์”
“นับเป็นสิ่งที่เราทุกคนน่าจะภูมิใจและขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งราชการ ผู้ประกอบการ ประชาชน ที่ร่วมกันทำให้สำเร็จ จนวันนี้มีดาราระดับโลกเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ และชื่นชมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ที่อยู่ บรรยากาศ ความสวยงามของทะเล แสงอาทิตย์ และยังคงพร้อมจะแก้ปัญหาไปด้วยกัน ธุรกิจการถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย เป็นแหล่งสำคัญที่ต่างชาติอยากเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งเราก็ปลดล็อกให้ดำเนินการได้ในอนาคตอันใกล้นี้โดยเร็วที่สุด ถ้าเราทำดี เราจะได้สิ่งที่ดีตอบแทน และฝากทุกคนให้ความร่วมมือกับรัฐบาล รัฐบาลพร้อมที่จะพาทุกคนไปข้างหน้า พร้อมเดินหน้าเปิดประเทศต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำ
ถึงตรงนี้ ก็ต้องบอกว่า…ประเทศไทยและคนไทยมี “แต้มต่อ” เหนือกว่าหลายประเทศในภูมิภาคเดียวกันนี้
ที่ผ่านมา หากรัฐบาลไม่ปล่อยปละละเลย จนเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกสองและระลอกสาม พร้อมกับเร่งรัดจัดหาและฉีควัคซีนป้องกันโควิดฯให้กับคนไทย เสียตั้งแต่ต้นแล้ว
ป่านนี้…ประเทศไทย ธุรกิจร้านรวงในไทย และคนไทย คงไม่เดือดร้อนเหมือนเช่นทุกวันนี้
สำหรับการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติรอบนี้ ก็ใช่ว่า…รัฐบาลไทยจะเปิดกว้างเสียทั้งหมด ฟัง พล.อ.ประยุทธ์ พูด! ระหว่างแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา คงเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น…
นักท่องเที่ยงต่างชาติช่วงแรก…จะมาจาก 10 ประเทศที่กำหนดว่าเป็น “ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ” เช่น อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และอเมริกา เป็นต้น และ ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 โดสแล้ว อีกทั้ง…ยังต้องแสดงหลักฐานว่าตนปลอดเชื้อโควิด-19 เช่น ผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ โดยต้องทำการตรวจจากประเทศต้นทาง และตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย
ส่วน จังหวัดที่เปิดให้ท่องเที่ยวในเฟสนี้ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ, เชียงใหม่ (อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า), ชลบุรี (เมืองพัทยา บางละมุง และสัตหีบ), เพชรบุรี(ชะอำ) และ ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ซึ่งจังหวัดเหล่านี้…จะต้องไม่พบการติดเชื้อโควิดใหม่ที่เป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่จนสร้างผลกระทบและความหวาดกลัวที่รุนแรงอีกรอบ
ก่อนหน้าจะเปิดประเทศฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ผลิตและเผยแพร่ชิ้นงานภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ที่ชื่อ Even More Amazing : Amazing Thailand ซึ่งสร้างความ ตื่นตะลึง! และสุดทึ่ง! ให้กับชาวต่างชาติที่ได้เห็นภาพยนตร์โฆษณาชุด สอดรับกับสิ่งที่ “รัสเซล โครว์” พูดไว้ไม่ผิด!
มีการทำคลิป…เผยแพร่ในโลกโซเชียล โดยเฉพาะ…ยูทูบ และมีคอมเมนท์ชื่นชมมากมาย
ไม่เพียงแค่นั้น ททท. ยังทุ่มเงินสูงถึง 200 ล้านบาท เพื่อดึง 2 คนดังระดับโลก อย่าง… “ลิซ่า แบล็กพิงค์” และ “แอนเดรีย โบเซลลี” นักร้องโอเปร่าชื่อดัง มาร่วมงานเค้าท์ดาวน์ “ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่” ที่ภูเก็ต
เม็ดเงิน 200 ล้านบาทที่เสียไป ถือว่าถูกมาก…เมื่อเทียบกับเป้าหมายรายได้ของ ททท. ที่ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. แอบหวังใจลึกๆ จะได้เห็นในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ รวมถึงปี 2565 และ 2566 ที่จะมาถึงในไม่ช้านี้
“ททท.ตั้งเป้าว่า…ตลอดปี 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยครบ 1 ล้านคน สร้างรายได้จากตลาดในและต่างประเทศ อยู่ที่ 3.2 แสนล้านบาท และยังคาดหวังจะเห็น ปี 2565 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน สร้างรายได้รวม 2 ตลาด 1.5 ล้านล้านบาท รวมถึง เป้าหมายปี 2566 ที่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามา 20 ล้านคน คิดเป็น 50% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2562 และหนุนรายได้รวม เพิ่มเป็น 2.4 ล้านล้านบาท คิดเป็นการฟื้นตัว 80% ของรายได้รวมในปี 2562” ผู้ว่าการ ททท. ระบุ
ภาพความฝันและภาพความเป็นจริง! อาจไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ก็ได้แต่คาดหวังว่า…นับจากวันนี้ไป จะไม่มีเหตุร้ายใดๆ มาสกัดกั้นแผนเปิดประเทศของรัฐบาลไทยในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานด้านความมั่นคง เช่น ทหารและตำรวจ รวมถึงฝ่ายปกครอง ในสังกัดกระทรวงการมหาดไทย และผู้บริหารใน 5 จังหวัด + 2 เกาะ “ภูเก็ต และสมุย” จะร่วมมือกัน ปกป้องประเทศไทยจากกลุ่มผลประโยชน์ที่หวังเพียงแค่รายได้จากการนำเข้า “คนต่างด้าว” แบบผิดกฎหมาย ตามแนวตะเข็บชายแดน
อย่าให้เรื่องเล็กๆ มาทำลาย “ภาพฝันอันยิ่งใหญ่” ของคนไทยทั้งประเทศเป็นอันขาด!
ที่ผ่านมา…คนไทย ธุรกิจไทย และประเทศไทย เจ็บช้ำจากความเห็นแก่ได้มาเยอะเกินไปแล้ว!!!.