ส่องเส้นทางสู่ดวงดาว ธรรมนัส พรหมเผ่า
เส้นทางสู่ดวงดาวของ ร.อ.ธรรมนัส จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอย่าลืมว่า พี่น้อง 3 ป นั้น รักกันดั่งสายเลือด
ศึกการอภิปรายไม่ไว้วางใจระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-4 ก.ย. ที่ผ่านมา ทำให้เกิดรอยร้าวขึ้นในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) บังอาจบีบ “บิ๊กตู่” ให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)
ว่ากันว่า “ผู้กองธรรมนัส” อยากนั่ง มท.1 หรือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่ออำนวยการเตรียมทัพรอสู้ศึกการเลือกตั้งทั่วไปที่คาดว่าจะเกินขึ้นในปีหน้า แต่เก้าอี้ดังกล่าวตอนนี้เป็นของ บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พี่รักของ พล.อ.ประยุทธ์ และ น้องรักของพี่ใหญ่อย่าง บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น เส้นทางสู่ดวงดาวของ ร.อ.ธรรมนัส จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอย่าลืมว่า พี่น้อง 3 ป นั้น รักกันดั่งสายเลือด เต็บโตร่วมชายคาเดียวกันมา ตั้งแต่เป็นมียศเพียงนายร้อยเท่านั้น
มาว่ากันด้วยเส้นทางของ ร.อ.ธรรมนัส นับตั้งแต่หลังเลือกตั้งปี 2562 ก็ได้รับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงซึ่งมีรัฐมนตรีถึง 4 คน โดย ร.อ.ธรรมนัส กำชับดูแลงานในกระทรวง 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมฝนหลวง , กรมพัฒนาที่ดิน , สำนักงานปฏิรูปที่ดิน , อตก.
โดยนับตั้งแต่รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ก็สะสมกำลังมาอย่างต่อเนื่อง มีผลงานเด่นในการดูแลพรรคเล็กพรรคน้อยกว่า 18 พรรคการเมือง ให้ยกมือสนับสนุนรัฐบาล
ความทรงพลังของ “ธรรมนัส” ยังช่วยให้ “อาจารณ์แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ได้มีโอกาสขยับจากโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ด้วย
ไม่นานนัก ร.อ.ธรรมนัส จับมือกับ 4 รัฐมนตรีช่วยฯ รวมเป็นก๊ก 4 ช ประกอบด้วย ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เสริมพลังในการต่อรองอำนาจทางการเมืองให้มากยิ่งขึ้น ทำให้กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ในพรรคพลังประชารัฐ กลายเป็นกลุ่มที่ใหญ่กว่ากลุ่มอื่นๆในพรรค
วันที่ 18 มิ.ย. ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคพลังประชารัฐ ลงมติเลือก ร.อ.ธรรมนัส เป็นเลขาธิการพรรค โดยสามารถเขี่ยเสี่ยแฮงค์ อนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคคนเก่าจากกลุ่มสามมิตร พ้นจากเก้าอี้ไปได้
นั่นทำให้ในพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส เป็นรองแค่ “บิ๊กป้อม” และตำแหน่งพ่อบ้านพรรค ก็เป็นตำแหน่งสำคัญในการปูทางสู่การเป็นรัฐมนตรีว่าการฯในอนาคต
“บิ๊กป้อม” ยังไว้วางใจ ผู้กองธรรมนัส ให้ทำงานหน้าที่เป็นหัวหอกลุยศึกเลือกตั้งซ่อม ที่ชนะเกือบทุกสนาม แม้พื้นที่เดิมจะเป็นของพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ แต่ ร.อ.ธรรมนัส ก็สามารถทำให้นำผู้สมัครพลิกกลับมาชนะได้ทุกครั้ง
ดังนั้น เวลานี้เป้าหมายของ ร.อ.ธรรมนัส ก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยเชื่อว่ากลไกมหาดไทยที่ดูแลประชาชนครอบคลุมทั่วประเทศ จะสามารถสร้างความนิยมให้พรรค พปชร.ได้เป็นอย่างดี
กระนั้น ร.อ.ธรรมนัส ก็มีข้อกังขาในความเหมาะสมกับตำแหน่ง เพราะเคยต้องคำพิพากษาของศาลออสออสเตรเลีย ในคดีขนยาเสพติดเข้าประเทศ
อย่างไรก็ตาม วันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยคดีดังกล่าว หลังฝ่ายค้าน ได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า เมื่อเคยต้องคำพิพากษาแล้ว การเป็นรัฐมนตรี และ ส.ส. ของ ร.อ.ธรรมนัส ถือว่าสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
โดย ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ว่า สมาชิกภาพของ ร.อ.ธรรมนัส ไม่สิ้นสุดลง เพราะคำพิพากษาของศาลต่างประเทศนั้น อยู่นอกอธิไตยของประเทศไทย แม้ผู้ถูกต้องจะเคยต้องคำพากษา แต่ไม่ใช่คำพิพากษาของไทย
นั่นหมายความว่า ในทางกฎหมายไทย ร.อ.ธรรมนัส ไม่ขัดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี
แต่ในความรู้สึกของประชาชน นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ บิ๊กตู่ จะต้องนำมาพิจารณา